จับตา ‘6 สัญญาณ’ ปฏิวัติ 'ไอทีอินฟราฯ - เครือข่าย' ยุค AI

ผลการศึกษาโดย“ซิสโก้” เผยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้น

โดยมี AI เป็นตัวแปรสำคัญที่สามารถเพิ่มภาระเป็นสองเท่า หรือมาช่วยขจัดปัญหา แม้ว่าที่ผ่านมาปัญหาระบบล่มส่วนใหญ่เกิดจากเครือข่ายที่ติดขัด การถูกโจมตีทางไซเบอร์ และการตั้งค่าระบบผิดพลาด แต่ผู้นำด้านไอทีเชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมจะช่วยรักษาประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าในอนาคตได้

ซิสโก้ พบการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ในระบบเครือข่ายองค์กร ขณะที่ผู้ช่วย AI, เอเจนต์ และเวิร์กโหลดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน

สิ่งเหล่านี้กำลังสร้างการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายที่เร็วขึ้นคล่องตัวมากขึ้นต้องการความเร็วในการตอบสนองสูงขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นเมื่อรวมกับการแพร่หลายของอุปกรณ์เชื่อมต่อ ความต้องการระบบที่ทำงานได้ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน และภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กำลังผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานต้องปรับตัวและพัฒนา

ผลที่ตามมาคือ ผู้นำด้านไอทีกำลังเปลี่ยนแปลงความคิดเกี่ยวกับระบบเครือข่าย ทั้งในแง่ของมันคืออะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง และปกป้ององค์กรอย่างไร “ระบบเครือข่ายที่พวกเขาสร้างขึ้นในวันนี้ จะเป็นตัวกำหนดว่าธุรกิจของพวกเขาจะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้”

‘6 สัญญาณ’ การเปลี่ยนแปลง

สำหรับ“6 สัญญาณ” ที่บ่งบอกว่าการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมกำลังเกิดขึ้น ประกอบด้วย

1. ระบบเครือข่ายกลายเป็นความสำคัญเชิงกลยุทธ์ : 99% ของบริษัทในประเทศไทย ระบุว่าระบบเครือข่ายที่ทันสมัยมีความสำคัญต่อการนำ AI, IoT และระบบคลาวด์มาใช้งาน และ 99% ของผู้นำด้านไอที วางแผนเพิ่มสัดส่วนงบประมาณไอทีโดยรวมที่จัดสรรให้กับระบบเครือข่าย

2. เครือข่ายที่ปลอดภัยมีความสำคัญต่อภารกิจหลัก : 98% ระบุว่าระบบเครือข่ายที่ปลอดภัยมีความสำคัญต่อการดำเนินงานและการเติบโตของธุรกิจ 80% ระบุว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง และ 98% เชื่อว่าระบบเครือข่ายที่ดีขึ้นจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านไซเบอร์

3. AI ทำให้ความต้องการระบบเครือข่ายที่แข็งแกร่งมากขึ้น : 99% ของผู้นำด้านไอที ระบุว่าระบบเครือข่ายที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นมีความสำคัญ โดย 62% เผชิญกับปัญหาระบบล่มครั้งใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ เครือข่ายติดขัด และการตั้งค่าผิดพลาด ก่อให้เกิดความเสียหายถึง 160 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกจากการหยุดชะงักร้ายแรงเพียงครั้งเดียวต่อธุรกิจต่อปี

4. ผู้นำมองหา AI เพื่อเพิ่มรายได้ : 58% ของผู้นำด้านไอที ระบุว่าผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของระบบเครือข่ายที่ทันสมัยต่อรายได้ จะมาจากการใช้เครื่องมือ AI ที่ทำให้ customer journey เป็นไปโดยอัตโนมัติและปรับแต่งได้ตามความต้องการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เร็วขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ที่สามารถเสริมสร้างความภักดี และขับเคลื่อนการเติบโต

5. AI กำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผล : 59% ระบุว่าศูนย์ข้อมูลของตนยังไม่สามารถรองรับความต้องการ AI ในปัจจุบันได้ และ 88% วางแผนขยายขีดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กร บนระบบคลาวด์ หรือทั้งสองแบบ

6. ผู้นำต้องการเครือข่ายที่ฉลาดขึ้น : 99% ระบุว่าเครือข่ายอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI มีความจำเป็นต่อการเติบโตในอนาคต แต่มีเพียง 43% เท่านั้นที่ได้นำความสามารถอัจฉริยะมาใช้งาน เช่น การแบ่งกลุ่ม การมองเห็น และการควบคุม เพื่อทำให้เครือข่ายสามารถปรับตัวได้

วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ กล่าวว่า ขณะที่ธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลกกำลังใช้ประโยชน์จากพลัง AI ระบบเครือข่ายคือกระดูกสันหลังที่สำคัญที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจในอนาคตและป้องกันภัยคุกคามที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ระบบเครือข่ายในปัจจุบันจะต้องเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น ธุรกิจต้องตระหนักว่าระบบเครือข่ายที่ทันสมัยคือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จในอนาคต

‘เครือข่าย’ คือ ‘มูลค่า”

ซิสโก้ระบุว่า โครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่เปิดโอกาสให้เติบโตและประหยัด ผู้นำไอทีกำลังสร้างมูลค่าทางการเงินจากระบบเครือข่ายปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จากการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า (57%) การเพิ่มประสิทธิภาพ (67%) และการสนับสนุนนวัตกรรม (50%)

แต่มูลค่าส่วนใหญ่เสี่ยงที่จะหายไป หากมาจากระบบที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ AI หรือการทำงานแบบเรียลไทม์ เพื่อปลดล็อกการเติบโตและการประหยัดเต็มรูปแบบตามที่คาดหวัง

ส่วนของช่องว่างสำคัญที่ต้องแก้ไข ได้แก่ ระบบที่แยกส่วนหรือเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์ (60%) การติดตั้งที่ยังไม่เสร็จ (50%) และการพึ่งพาการดูแลด้วยคน (48%) เครือข่ายที่ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และปรับตัวได้ดีขึ้น คือเหตุผลทางธุรกิจสำหรับการลงทุน

โดย 90% บอกว่า เครือข่ายที่ดีขึ้นจะเพิ่มรายได้โดยตรง และเกือบทุกคน (98%) คาดหวังการประหยัดต้นทุนอย่างมาก จากการดำเนินงานที่ฉลาดขึ้น ปัญหาระบบล่มน้อยลง และการใช้พลังงานที่ลดลง

ผลการวิจัยล่าสุดของซิสโก้ ยังแสดงให้เห็นว่า ซีอีโอทั่วโลกมีความเห็นสอดคล้องกับผู้นำด้านไอทีเกี่ยวกับความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานในยุค AI โดย 97% กำลังขยายการใช้ AI และ 78% พึ่งพา CIO หรือ CTO ในการตัดสินใจลงทุน แต่พวกเขายังตระหนักถึงความเสี่ยง

โดย 74% ระบุว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัยกำลังขัดขวางการเติบโต ขณะที่ระบบเครือข่ายองค์กรกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ ผู้บริหารระดับสูงกำลังสนับสนุนผู้นำด้านเทคฯ ในการเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่าย และ 96% เชื่อว่าความร่วมมือที่เชื่อถือได้จะมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จ