'ณัฐพงษ์' ย้ำจุดยืน ปชน. ปัดเล็งใครเป็นพิเศษ ดันนั่งนายกฯ
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 ที่ห้องกรุงธน บอลล์รูม โรงแรมรอยัลริเวอร์ กทม. สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จัดเวทีปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เชื่อมั่นประเทศไทย : โจทย์ใหญ่รัฐบาล?” โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเป็นหนึ่งในวิทยากร ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืน 7 ข้อของ ปชน.ต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ว่า ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ ไม่ได้หมายถึงพรรคหนึ่งพรรคใด วัตถุประสงค์ของการแสดงจุดยืนเมื่อวานนี้ เป็นเพราะต้องการสื่อสารไปถึงประชาชนว่า ประเทศไม่มีวันไปถึงทางตัน ถ้าสถานการณ์ไปถึงขั้นที่ไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้จริงๆ พรรคประชาชนยินดี และจะใช้ 142 เสียง ในการฝ่าทางตันให้กับประเทศ แต่ต้องมีเงื่อนไขบางอย่างที่ปลดล็อกการเลือกนายกรัฐมนตรี เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าเงื่อนไขยุบสภา ที่คงไปได้ยากแล้ว ในบัญชีแคนดิเดตใครเหมาะสมเป็นนายกฯ มากที่สุด นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรักษาการ ยังมีอำนาจในการยุบสภาอยู่ เพราะฉะนั้นช่องทางในการยุบสภา ยังไม่ถึงทางตัน อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร แต่ถ้ายังเป็นแบบในปัจจุบัน เราเองก็เล็งเห็นว่าสถานการณ์อาจนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งในกระบวนการนิติสงคราม ซึ่งถ้าเดินไปถึงตรงนั้น ตนก็ยังยืนยันในหลักการเดิมว่า เราพร้อมจะใช้ 142 เสียง หาทางออกให้กับประเทศ โดยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล
เมื่อถามว่า วัตถุประสงค์จริงๆ คือ การต้านรัฐประหารใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมจะใช้กลไกทุกอย่าง ในการขับเคลื่อนประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ เช่น เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เราจะใช้กลไกในสภาให้รัฐบาลถอนร่างออกไป โดยไม่นำกลับมาอีก รวมถึงมีการฝ่าทางตันอื่นๆ เช่น การทำประชามติ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่ได้ถึงทางตัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นการตอบที่ไม่ได้ผิดอะไร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ การจะเดินหน้าไปสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็อาจจะมีตัวเลือกอื่นๆ เช่น นางสาวแพทองธาร ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะฉะนั้น สถานการณ์ตอนนี้ ยังมีอีกหลายช่องทาง ที่จะนำไปสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ การที่พรรคประชาชนออกมานำเสนอแต่เนิ่นๆ ถึงจุดยืนเมื่อวานนี้ เพราะเราต้องการป้องกันไม่ให้กระแสสังคม หรืออารมณ์ทางสังคม นำไปสู่การเรียกร้องให้มีนายกฯ นอกระบบ ใช้กระบวนการที่ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย
“ตอนนี้อารมณ์ของสังคม คือ การขาดความเชื่อมั่นต่อคุณแพทองธาร และต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ อย่างเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นหลักการของเราในตอนนี้ คือ ทำให้สังคมเชื่อมั่นว่า การเมืองมีทางออกเสมอ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่ายิ่งโหวตนายกฯ แล้วไปร่วมรัฐบาลแบบนี้ จะยิ่งเกิดเดดล็อกหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีการประเมิน และมีเครื่องไม้เครื่องมือที่คอยกำกับทิศทางรัฐบาลชั่วคราวให้เดินไปสู่เงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน
ส่วนมีใครติดต่อมาให้โหวตแล้วหรือยัง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในระดับแกนนำ แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปว่า สามารถวิเคราะห์ฉากทัศน์ทางการเมืองได้ ระหว่าง สส. ต่างพรรค ตนก็รับทราบข่าวสารจากเพื่อนสมาชิกในพรรค ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีดีลหลังบ้านอะไรทั้งนั้น
เมื่อถามว่าแบ่งงานให้พรรคภูมิใจไทยทำอย่างไร นายณัฐพงษ์ ระบุว่า แถลงการณ์เมื่อวานนี้ ก็เชื่อว่าแต่ละพรรคในฝ่ายค้าน จะทำการบ้านมาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะเข้าวันที่ 9 ก.ค.68 ซึ่งลำพังเพียงแค่รัฐบาลถอนร่างออกไป คงไม่เพียงพอ อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง ที่ให้ความเชื่อมั่นกับสังคมว่า จะไม่นำร่างนี้กลับมาพิจารณาอีก อย่างน้อยจนกว่าจะมีการศึกษาอย่างรอบด้าน และให้ประชาชนยอมรับมากพอดี
“พวกเรากังวลว่า ไม่ว่าจะเลื่อนหรือถอนออกไป จะเป็นเพียงแค่แทกติกในทางการเมือง ที่วันหนึ่งวันใดพรรคเพื่อไทยสามารถรวมเสียงได้แล้ว ก็พร้อมจะเสียบกลับเข้ามาเพื่อพิจารณาในสภาต่อ เพราะฉะนั้น เลื่อนหรือถอนร่างคงไม่เพียงพอ ต้องมีเงื่อนไขให้ความเชื่อมั่นด้วยว่า จะไม่นำร่างนี้กลับเข้ามา” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่วาระการประชุมแล้ว หากต้องมีการโหวตในสภา พรรคประชาชนจะโหวตให้ถอน หรือโหวตตลบหลังให้ประชุมจนร่างนี้ไม่ผ่าน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ว่าจะให้ความเชื่อมั่นว่า ถ้าถอนแล้วจะไม่นำกลับมาอีก เรากังวลว่าจะเป็นเกมการเมือง ดังนั้น ต้องอาศัยกลไกสภาทุกอย่าง เพื่อบีบคั้น ซึ่งกลไกการสื่อสารก็เป็นวิธีหนึ่ง ส่วนกลไกอื่นๆ อาจจะยังสื่อสารไม่ได้ ต้องรอการประชุมสภาพุธหน้าว่า ฝ่ายค้านจะทำอย่างไร
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ปิดประชุมสภาเมื่อวานนี้ ว่า ไม่เป็นมติของวิป หรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพียงแต่เป็นการเสนอให้นับองค์ประชุมจากพรรคฝ่ายค้าน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเกมที่พรรคฝ่ายค้านหารือ หรือเป็นมติออกมาขนาดนั้น แต่โจทย์ที่สำคัญกว่า คือ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หากเมื่อวานนี้ ตราบใดที่รัฐบาลมีเสียงมากเพียงพอ ไม่ว่าจะขอนับองค์ประชุมเมื่อไหร่ ก็ไม่มีทางล่มแน่นอน เพราะฉะนั้น โจทย์ตอนนี้ไม่ใช่เกมของฝ่ายค้านหรือไม่ แต่เป็นโจทย์ที่ว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศหรือไม่
ถามย้ำว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ สรุปได้เลยหรือไม่ว่า รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่าเมื่อวานนี้ผลจะปิดประชุมอย่างไรแต่ข้อเท็จจริง ก็คือ สภาล่ม สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ ไม่สามารถเดินหน้าแก้ปัญหารวมถึงประชุมในครั้งสำคัญ ในทุกครั้งก็จะเกิดสภาพแบบนี้ รวมถึงจะเป็นเงื่อนไขในการที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่น เอามาต่อรองกับพรรคเพื่อไทยมากขึ้น
ซักอีกว่าเกมสภาล่ม หากนายกรัฐมนตรีกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้จะสามารถควบคุมเสียงได้มากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร สามารถกำกับเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้จริง และไม่ได้คิดว่าการที่กลับมา จะสามารถควบคุมเสียงของรัฐบาลได้เพิ่มมากขึ้น สภาพที่ขาดเสถียรภาพ พรรคร่วมรัฐบาลสามารถส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยได้ตลอดเวลา ก็ยังเกิดขึ้นอยู่แล้ว
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์