สังคมหลังความจริง: ทำไมคนถึงเชื่อข้อมูลที่พิสูจน์ไม่ได้มากกกว่า
ยุคที่อารมณ์ของแต่ละคนมีอิทธิพลมากกว่าการแสวงหาข้อเท็จจริง แม้ว่าเป็นวิทนยาศาสตร์ แต่คนก็ยังลังเลที่จะเชื่อ ? ทำไมคนถึงเชื่อข้อมูลที่พิสูจน์ไม่ได้มากกกว่า ? ถอดบทเรียนจาก คำทำนายจากหนังสือการ์ตูน “The Future I Saw”
สังคมหลังความจริง : ทำไมคนถึงเชื่อข้อมูลที่พิสูจน์ไม่ได้มากกกว่า
ศาสตราจารย์ คาซึยะ ยาโมริ จากสถาบันวิจัยการป้องกันภัยพิบัติแห่งมหาวิทยาลัยเกียวโต ซึ่งเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการป้องกันภัยพิบัติ
ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์และวิทยุสาธารณะของประเทศญี่ปุ่นNHK วิเคราะห์ประเด็นหลังเกิดเหตุการณ์ ผู้คนตื่นตระหนก คำทำนายจากมังงะญี่ปุ่นที่อ้างอิงจากความฝัน ถึงวันที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น 5 ก.ค. 2568
โดย ศาสตราจารย์ คาซึยะ ยาโมริ ชี้ว่า “ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้วที่สถาบันสาธารณะจะออกแถลงการณ์เพื่อหักล้างข่าวลือและข้อมูลเท็จ”
ภูมิหลังของเรื่องนี้ก็คือว่า ปัจจุบันเราอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า“สังคมหลังความจริง”
“ซึ่งเป็นยุคที่สิ่งต่างๆ ที่ดึงดูดอารมณ์ของแต่ละคนจะมีอิทธิพล มากกว่าการแสวงหาข้อเท็จจริงเชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว”
“ยิ่งข้อมูลมีความสำคัญต่อคุณมากเท่าใด การให้คุณค่ากับความคิดเห็นที่สองและที่สามก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น”
“เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลภัยพิบัติ การตรวจสอบข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดยสถานีอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานในพื้นที่นั้นมีความสำคัญมาก”
“แม้ว่าข้อมูลจะอิงตามหลักฐาน แต่บางครั้งผู้คนก็ยังลังเลที่จะดำเนินการ ดังนั้น ในครั้งนี้ ฉันคิดว่าเราควรคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงเชื่อคำทำนายดังกล่าว มากกว่าหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น”
“เมื่อสังคมมีความหลากหลายมากขึ้น ความคิดที่ว่าไม่สามารถระบุความจริงเพียงหนึ่งเดียวได้ ก็เริ่มมีมากขึ้น ทัศนคติที่ว่า ‘ข้อมูลที่ได้รับจากสถาบันเฉพาะเท่านั้นที่เป็นความจริง ส่วนที่เหลือเป็นข้อมูลปลอม’ ตรรกะนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างความไม่ไว้วางใจ”
ศาสตราจารย์ คาซึยะ ยาโมริ ยังบอกอีกว่า แทนที่จะปฏิเสธข้อมูลดังกล่าวและบอกว่า “อย่าไปจริงจังกับมันเลย”
“เราควรเริ่มต้นด้วยการถอยกลับไปหนึ่งก้าว และวิเคราะห์ว่า เหตุใดข้อมูลที่ดูเหมือนว่าจะมีพื้นฐานอ่อนแอ จึงได้รับการยอมรับจากคนจำนวนมาก”
ภาพ : ศาสตราจารย์ คาซึยะ ยาโมริ (NHK)
หนังสือ “The Future I Saw” (อนาคตที่ฉันเห็น) มียอดขายมากกว่า 1 ล้านเล่ม
“เรียว ทัตสึกิ” นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น จากเรื่อง “The Future I Saw” ดึงดูดความสนใจจากหลายๆ คนมาได้ก่อนหน้านี้ตั้งแต่การทำนายเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น ในปี 2011 ซึ่งได้เขียนไว้ในหนังสือของเขาชื่อ “The Future I Saw, Complete Edition” ที่ตีพิมพ์ในปี 2021
โดยได้บรรยายถึงความฝันที่สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ในวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 2021 ซึ่งระบุว่า
1. “ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2025”
2. “ทันใดนั้น พื้นทะเลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ก็ระเบิด”
3. “คลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่ประเทศต่างๆ รอบมหาสมุทรแปซิฟิก คลื่นสึนามิมีความสูงเท่ากับคลื่นยักษ์ อาจสูงถึง 3 เท่าของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น”
ในบทส่งท้าย เขายังระบุวันที่ไว้ว่า “หากวันที่คุณฝัน เป็นวันที่มันกลายเป็นความจริง หายนะครั้งใหญ่ครั้งต่อไปก็คือวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568”
หนังสือ “The Future I Saw” กำลังขายดีในญี่ปุ่น โดยมีรายงานว่าหนังสือมียอดขาย 1.06 ล้านเล่ม รวมถึงเวอร์ชันดิจิทัล ในโตเกียวและพื้นที่อื่นๆ หนังสือเล่มนี้ยังได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาจีนอีกด้วย
ภาพโฆษณาแขวนในรถไฟ สำหรับ “The Future I Saw: Complete Edition” ของ “เรียว ทัตสึกิ” ที่โตเกียว
ภาพ : sankei