โลกกลับด้าน! เมื่อ Silicon Valley ให้คนทำงาน 12 ชั่วโมง 6 วัน ทั้งที่จีนพยายาม 'แบน' มันไปแล้ว?
ในขณะที่จีนประกาศว่าการทำงานแบบ "996" (9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม, 6 วันต่อสัปดาห์) นั้นผิดกฎหมาย แต่สตาร์ทอัป AI ในซิลิคอน วัลเลย์กลับกำลังรับเอาวัฒนธรรมการทำงานแบบเดียวกันนี้มาใช้
.
.
ในสังคมที่เคยเน้นสมดุลชีวิตการทำงาน สวัสดิการที่ดี และความยืดหยุ่น เหตุใดบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ จึงกลับไปสู่การทำงานหนักแบบสุดโต่ง? ในขณะที่จีนและคนรุ่นใหม่ทั่วโลกกำลังปฏิเสธวัฒนธรรมนี้
.
จีนออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานหลังเกิดโศกนาฏกรรมพนักงานเสียชีวิตหลายราย แต่ซิลิคอน วัลเลย์กลับมองข้ามบทเรียนราคาแพงนี้ การแข่งขันในยุค AI Boom ทำให้บริษัทเทคฯ ยอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งสุขภาพและชีวิตของพนักงานเพื่อชัยชนะ
.
"ถ้าคุณไม่พร้อมทำงาน 70-80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อย่าเสียเวลาเราทั้งคู่" คือประโยคที่ผู้สมัครงานในบริษัท AI หลายแห่งได้ยินระหว่างสัมภาษณ์ ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมการทำงานแบบเอาเปรียบกำลังกลับมาในรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวกว่าเดิม
.
.
สงครามแย่งชิงความเป็นเจ้าแห่ง AI กำลังบดขยี้ชีวิตพนักงาน?
.
ช่วงสองปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด เทคโนโลยี AI แบบ Generative ที่สามารถสร้างข้อความ ภาพ และโค้ดได้อย่างน่าทึ่ง กลายเป็นสนามแข่งขันเดิมพันสูงสำหรับบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก
.
การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของความเร็ว เพราะใครที่นำเสนอโซลูชันใหม่ได้เร็วกว่าจะเป็นผู้ชนะ
.
จากการสำรวจล่าสุดโดย WIRED ที่สัมภาษณ์พนักงานและผู้บริหารในอุตสาหกรรม AI พบว่า บริษัทสตาร์ทอัป AI หลายแห่งในซิลิคอน วัลเลย์กำลังนำเอาตารางเวลาการทำงานแบบ "996" มาใช้ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม เป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์ รวมแล้วเป็นการทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเกือบเป็นสองเท่าของมาตรฐานการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ทั่วไป
.
บริษัทที่นำวัฒนธรรม 996 มาใช้มักเป็นสตาร์ทอัปขนาดเล็กถึงกลาง ที่ได้รับเงินทุนจากนักลงทุนและมีกำหนดการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เข้มงวด แต่ก็มีบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งที่เริ่มนำรูปแบบการทำงานที่คล้ายคลึงกันมาใช้ในแผนกที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI
.
หนึ่งในพนักงานที่ทำงานในสตาร์ทอัป AI แห่งหนึ่งในซิลิคอน วัลเลย์ ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ เล่ากับ WIRED ว่า "ตอนที่เข้ามาสัมภาษณ์ CEO บอกผมตรงๆ เลยว่า 'คุณต้องเต็มใจทำงาน 70-80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถ้าไม่ได้ ก็อย่าเสียเวลาเราทั้งคู่เลย'" ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้เรียกมันว่า '996' โดยตรง แต่พอคำนวณแล้ว มันก็ทำให้เขาเห็นว่า เขากำลังเดินเข้าไปในสถานที่ทำงานที่กำลังให้เขาเริ่มทำงานแบบ 996
.
.
ย้อนรอย 996 จากความภาคภูมิใจของจีนสู่วิกฤตแรงงาน
.
วัฒนธรรม "996" มีจุดกำเนิดในประเทศจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มันเป็นสัญลักษณ์ของความทุ่มเทและความมุ่งมั่นที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ที่เคยกล่าวว่า "996 เป็นพรสวรรค์" สำหรับคนทำงาน
.
แต่เรื่องราวของ 996 ในจีนไม่ได้จบลงด้วยดี เพราะในช่วงต้นปี 2021 เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการทำงานที่โหดร้ายนี้
.
[ ] พนักงานสองคนของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Pinduoduo เสียชีวิตห่างกันเพียงไม่กี่สัปดาห์ คนหนึ่งเป็นลมหมดสติระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังทำงานหนัก และอีกคนหนึ่งปลิดชีพตัวเอง
.
[ ] พนักงานส่งอาหารจุดไฟปลิดชีพตัวเอง หลังถูกปฏิเสธค่าจ้างค้างจ่ายประมาณ 770 ดอลลาร์
.
เหตุการณ์เหล่านี้จุดประกายการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโซเชียลมีเดียจีน พนักงานหลายคนออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาทำงานมากกว่า 300 ชั่วโมงต่อเดือนเป็นประจำ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมาก
.
ท้ายที่สุด รัฐบาลจีนไม่สามารถเพิกเฉยต่อสถานการณ์ได้อีกต่อไป เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2021 ศาลสูงสุดและกระทรวงแรงงานของจีนได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยให้รายละเอียดคำตัดสินของศาล 10 คดีที่เกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้คนงานทำงานล่วงเวลา และในทุกคดี นายจ้างเป็นฝ่ายแพ้
.
แถลงการณ์ยังระบุอย่างชัดเจนด้วยว่า ตามกฎหมายแล้ว คนงานมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนและเวลาพักผ่อนหรือวันหยุดที่เหมาะสม การปฏิบัติตามชั่วโมงการทำงานระดับประเทศเป็นหน้าที่ของนายจ้าง
.
.
คนรุ่นใหม่ในจีนปฏิเสธวัฒนธรรม 996
.
สี่ปีให้หลังจากที่รัฐบาลจีนเข้าแทรกแซง การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็เกิดขึ้นในหมู่คนทำงานรุ่นใหม่ของจีน
.
ผลสำรวจล่าสุดในปี 2025 พบว่า คนรุ่นใหม่ในจีนจำนวนมากกำลังปฏิเสธวัฒนธรรมการทำงาน 996 โดยสิ้นเชิง และหันมาให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าความคาดหวังขององค์กร
.
ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Tang Ping" (นอนราบ) และ "Bai Lan" (ปล่อยให้เน่า) กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ของจีน คำเหล่านี้สะท้อนการต่อต้านแบบเฉื่อยชาต่อแรงกดดันทางสังคม และการยอมรับผลตอบแทนที่ลดลงของการทำงานหนักเกินไปในตลาดงานที่อิ่มตัว
.
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องทางวัฒนธรรม แต่เชื่อมโยงกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจจริงๆ ค่าที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูง การแข่งขันทางการศึกษาที่รุนแรง และการเติบโตของค่าจ้างที่ชะงักงัน ทำให้คนจีนหนุ่มสาวจำนวนมากสงสัยในคำสัญญาแบบดั้งเดิมที่ว่าการทำงานหนักจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางสังคม
.
เพื่อตอบสนองต่อทัศนคติที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ บริษัทจีนจำนวนมากกำลังปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในที่ทำงานของตน โดยนำเสนอการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อดึงดูดและรักษาคนเก่ง
.
.
แล้วทำไมซิลิคอน วัลเลย์ถึงเดินสวนทาง?
.
ซิลิคอน วัลเลย์เคยเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความยืดหยุ่น สมดุลชีวิต และสวัสดิการที่ดี บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Facebook (Meta) เป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารฟรี ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น และพื้นที่ทำงานที่สร้างสรรค์
.
แต่การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI ที่รุนแรงกำลังเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าการนำวัฒนธรรม 996 มาใช้ในสตาร์ทอัป AI ของสหรัฐฯ มาจากปัจจัยหลายข้อด้วยกัน
.
[ ] แรงกดดันจากการแข่งขัน: ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI, Google และ Anthropic ต่างแข่งขันกันเพื่อสร้างโมเดล AI ที่ก้าวหน้าที่สุด การแข่งขันนี้ทำให้สตาร์ทอัปที่เพิ่งเริ่มต้นต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันคู่แข่ง
.
[ ] เม็ดเงินมหาศาล: เงินทุนจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรม AI ทำให้เกิดความคาดหวังสูงจากนักลงทุน สตาร์ทอัปต้องแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่ชัดเจนเพื่อรักษาเงินทุนหรือดึงดูดเงินทุนเพิ่มเติม
.
[ ] การขาดแคลนคนเก่ง: ตลาดแรงงานด้าน AI กำลังเผชิญกับการขาดแคลนคนที่มีทักษะสูง บริษัทจึงต้องการให้พนักงานที่มีอยู่ทำงานมากขึ้นเพื่อชดเชย
.
[ ] อิทธิพลจากผู้ก่อตั้ง: หลายคนเชื่อว่าอีลอน มัสก์มีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมนี้ ด้วยชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานและความคาดหวังที่สูงที่เขาวางไว้กับพนักงานที่ Tesla และ X (Twitter)
.
นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัป AI ส่วนใหญ่เชื่อว่าช่วงเวลาสำคัญในการสร้างโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดและเป็นผู้นำตลาดอาจมีเพียงไม่กี่ปี ซึ่งทำให้พวกเขาเร่งรัดการพัฒนาอย่างหนัก
.
พวกเขาเหมือนอยู่ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่ทั้งโลกกำลังจับตามอง และมีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะสร้างประวัติศาสตร์ ดังนั้น ถ้าพวกเขาไม่ทำงานหนักตอนนี้ ก็อาจพลาดโอกาสไปตลอดกาล
.
แต่ในขณะเดียวกัน ชัยชนะที่พวกเขาต้องการก็กำลังส่งผลร้ายในอีกด้านด้วยเช่นกัน
.
.
วัฒนธรรมการทำงานในไทย จะไป 996 หรือจะหนี 996?
.
แล้วประเทศไทยล่ะ? เรากำลังเผชิญกับแนวโน้มแบบเดียวกันหรือไม่?
.
แม้ว่าวัฒนธรรม 996 จะไม่ได้แพร่หลายในไทยเท่ากับในจีนหรือกำลังเกิดขึ้นในซิลิคอน วัลเลย์ แต่ประเทศไทยก็มีประวัติของการทำงานล่วงเวลายาวนาน โดยเฉพาะในภาคการผลิตและบริการ
.
จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2567 พบว่า คนไทยทำงานเฉลี่ย 46.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานสากลที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยภาคการผลิตและการค้าปลีกมีชั่วโมงการทำงานที่สูงที่สุด
.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 หลายบริษัทในไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีและการเงิน การทำงานแบบไฮบริด (ผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้าน) กลายเป็นเรื่องปกติในหลายองค์กร
.
อีกทั้งในปัจจุบัน วัฒนธรรมการทำงานในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตมากขึ้น และบริษัทที่ต้องการดึงดูดคนเก่งก็ต้องปรับตัว แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังเห็นความคาดหวังเรื่องการทุ่มเทให้กับงานในหลายองค์กร และบริษัทเทคโนโลยีในไทยที่ทำงานเกี่ยวกับ AI ยังมีไม่มาก แต่ถ้าแนวโน้มการแข่งขันยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราอาจเห็นบางบริษัทในไทยนำวัฒนธรรมการทำงานหนักแบบ 996 มาใช้เช่นกัน
.
.
บทเรียนจากสองวัฒนธรรม สมดุลที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน?
.
การย้อนแย้งของวัฒนธรรมการทำงานระหว่างจีนและซิลิคอน วัลเลย์ได้ทำให้เรามีบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับทั้งบริษัทและผู้ทำงาน
.
หนึ่ง คือการตระหนักว่าการทำงานหนักไม่ได้เท่ากับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเสมอไป หลายงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าประสิทธิภาพการทำงานเริ่มลดลงอย่างมากหลังจากทำงานต่อเนื่องเกิน 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และการทำงานล่วงเวลายาวนานอาจนำไปสู่ความผิดพลาดมากขึ้น
.
สอง คือการยอมรับว่าความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญต่อความยั่งยืนของทั้งพนักงานและองค์กร ในขณะที่การทำงานหนักอาจนำไปสู่ความสำเร็จในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจนำไปสู่การหมดไฟ ปัญหาสุขภาพ และการลาออกของพนักงานที่มีความสามารถ
.
สาม คือการเข้าใจว่าวัฒนธรรมการทำงานควรสะท้อนค่านิยมและสภาพสังคมของแต่ละประเทศ ไม่มีรูปแบบเดียวที่เหมาะกับทุกที่ แต่ละประเทศและแต่ละบริษัทควรพัฒนาวัฒนธรรมการทำงานที่เหมาะสมกับบริบทและเป้าหมายของตนเอง
.
ปรากฏการณ์ที่ซิลิคอน วัลเลย์รับเอาวัฒนธรรม 996 ที่จีนกำลังออกห่างมาใช้ เป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก มันแสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งที่น่าสนใจและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่กำลังเกิดขึ้น
.
ในขณะที่จีนเรียนรู้บทเรียนจากผลกระทบของวัฒนธรรม 996 และกำลังเคลื่อนไปสู่การทำงานที่มีความสมดุลมากขึ้น ซิลิคอน วัลเลย์กลับหันไปสู่รูปแบบการทำงานที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแข่งขันในยุค AI
.
สิ่งที่น่าจับตามองคือวิธีที่ทั้งสองวัฒนธรรมจะพัฒนาต่อไปในอนาคต และผลกระทบที่จะมีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
.
.
คำถามสำคัญไม่ใช่ว่า "การทำงานหนักแบบ 996 ดีหรือไม่ดี" แต่เป็น "เราจะสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ทั้งมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาวได้อย่างไร" ต่างหาก
.
.
อ้างอิง
- Silicon Valley AI Startups Are Embracing China’s Controversial ‘996’ Work Schedule: Kate Knibbs, WIRED - http://bit.ly/3H49XLy
- What is a ‘996’ work culture, and why are young professionals in China giving it the cold shoulder?: Tanner Brown. Karns, Marketwatch - http://bit.ly/44WQNAq
- China steps in to regulate brutal '996' work culture: Waiyee Yip, BBC News - http://bit.ly/45eaO4o
-
.
.
#Trend
#AI
#WorkCulture
#SiliconValley
#996
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast