โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ก.ล.ต.- ตลท. เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติ

การเงินธนาคาร

อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 21.57 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.ล.ต.- ตลท. เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ พร้อมศึกษาแพลตฟอร์มใหม่และแนวคิดการเปลี่ยนเงินออมให้เป็นเงินลงทุน

27 สิงหาคม 2568 นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในเสวนาหัวข้อ "Reforming the Market: Capital Markets at an Inflection Point" ในงาน Thailand Focus 2025 ว่า การที่เราจะมีเงินทุนไหลเข้ามาจากต่างประเทศได้ต้องมี supply หรือผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่จะดึงดูดเงินทุนให้ไหลเข้ามา และสภาพคล่องก็จะตามมาหลังจากนั้น ตลท.จึงมีโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียน และกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนสื่อสารกับนักลงทุนมากขึ้น ภายใต้โครงการ JUMP+ ที่ทำให้พวกเขานำเอาข้อมูลของบริษัทไปสู่ตลาดมากขึ้น

ส่วนในระยะกลางและระยะยาวต้องการผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่อยู่ในเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งการสื่อสารหรือนำเสนอข้อมูลใหม่ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นน่าสนใจมากขึ้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาว่าแพลตฟอร์มที่มีอยู่ในปัจจุบันดึงดูดเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง รวมทั้งการสนับสนุนสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี

นอกจากนี้ก็ยังมีแนวคิดร่วมกับ ก.ล.ต. ที่จะเปลี่ยนเงินออมให้เป็นเงินลงทุนมากขึ้น โดยดูตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้หลากหลายมากขึ้นยิ่ง รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดการลงทุนให้คึกคักมากยิ่งขึ้น

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทาง ก.ล.ต. มีการแก้ไขกฎระเบียบด้านต่าง ๆ โดยมีความมุ่งหมายที่จะทำให้เกิดการปรับตัวที่จะทำให้บริษัทจดทะเบียนมีคุณภาพที่เท่าเทียมกัน

รวมทั้งกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนมีแผนสร้างมูลค่าเพิ่ม ธรรมาภิบาล เปิดข้อมูลและสื่อสารให้กับนักลงทุนมากขึ้น รวมทั้งมีการเตรียมความพร้อมในอนาคต รวมทั้งให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลให้แก่นักลงทุนต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เพียงครั้งหนึ่งต่อปีเท่านั้น แต่อาจจะเป็นรอบไตรมาส ในอนาคตก็จะทำให้การเปิดเผยข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้บริษัทจดทะเบียนของไทยได้รับการมองเห็นมากขึ้นจากนักลงทุนต่างประเทศ เพราะการเปิดเผยข้อมูลนั้นสอดคล้องมาตรฐานต่างประเทศ

สิ่งที่มองไปข้างหน้าก็คือ ก.ล.ต. จะร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงการทำ IPO process ให้กระชับมากขึ้น รวมทั้งให้โน้มไปในทางที่จะเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสมากขึ้น

ในส่วนของ Integrity of Market เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการจัดการ case ต่าง ๆ ให้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่ง ก.ล.ต. ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะความรวดเร็วของการทำคดี แต่จะเน้นเรื่องระบบการ warning ที่จะนำเอาเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้อย่างเช่น ดิจิทัลและเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ให้มากขึ้น

สำหรับอนาคตจะพยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สำนักงาน ก.ล.ต. มีอำนาจมากขึ้น สามารถใช้กฎหมายจัดการกับผู้กระทำผิดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พวก gatekeeper เช่นบริษัทบัญชีต่าง ๆ นอกจากเรื่องการบังคับใช้กฎหมายแล้วก็ยังมีการกระตุ้นให้ตลาดก้าวไปข้างหน้า และคงความสามารถการแข่งขัน รวมถึงความเชื่อมั่นใน Trade mechanism

ขณะเดียวกัน นักลงทุนสถาบันเร่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. บังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วขึ้นเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองนักลงทุน

นางชวินดา หาญรัตนกุล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) แสดงความคิดเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทยคือ

  • บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยอาจจะน่าสนใจน้อยกว่าบริษัทในตลาดคู่แข่ง แต่ก็ยังมีบริษัทที่น่าลงทุนอยู่บ้าง
  • ปัญหาบรรษัทภิบาลบริษัทจดทะเบียน หรือ Corporate Governance หลายปีที่ผ่านมาได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน การฟื้นกองทุนวายุภักษ์ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น นักลงทุนตอบรับดี

ทั้งนี้ต้องการให้มีการออกกองทุนระยะยาวมากขึ้น โดยฝ่ายนักลงทุนสถาบันได้เสนอให้มีการขยายการออมเพื่อเกษียณอายุ คือ ให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ (Mandatory Provident Fund) เนื่องจากแรงงานจำนวน 22 ล้านคน มีเพียง 3 ล้านคนเท่านั้นที่มีการออมภายใต้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคสมัครใจ หากมีกองทุนภาคบังคับดังกล่าว สภาพคล่องก็จะไหลเข้าตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ไทยสามารถเรียนรู้จากผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า บัญชีการออมส่วนบุคคล (Japan Individual Savings Account :NISA) ที่เป็นบัญชีให้ลงทุนรายย่อยลงทุนได้หลากหลายทั้งในกองทุนรวมและซื้อหุ้นรายตัว รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมนักลงทุนรายย่อยให้ลงทุนในระยะยาวโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนใน NISA ด้วย

ในเรื่องการกำกับดูแลตลาดทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. อยากให้มุ่งไปที่ระบบป้องกันการกระทำความผิดของบริษัทจดทะเบียน อยากเห็นการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.ที่รวดเร็วทันการณ์มากขึ้น ในบางจุดอยากให้มีการรวมศูนย์การกำกับดูแลไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ลดความกระจัดกระจายของข้อมูลการกำกับดูแลลงเพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลใช้ข้อมูลเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับและดูแลตลาด

นอกจากนี้ยังต้องการเห็นการเพิ่มคุณภาพของการรายงานข้อมูลบริษัทจดทะเบียน เพื่อที่จะทำให้นักลงทุนเข้าใจในสถานะที่แท้จริงของบริษัทได้ดีขึ้น ก่อนการตัดสินใจลงทุน

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ปัจจุบันแบ่งการลงทุนออกเป็นสองแบบใหญ่ๆ คือ 40% ลงทุนในสินทรัพย์เติบโต (Growth Asset) และ 60% ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงตราสารหนี้ (Fixed Asset) โดยจะขยายการลงทุนในสินทรัพย์ Growth Asset ไปสู่ระดับ 50% หรือ 60%

กบข. ยังมีการลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด หรือ Private Equity Fund ด้วย ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้บริษัทเอสเอ็มอีของไทยสามารถเติบโตจนเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในอนาคต

นอกจากนี้ กบข.ยังส่งเสริมให้สมาชิกซึ่งมีอยู่ 1.2 ล้านราย ลงทุนมากกว่าที่กฎหมายบังคับไว้ขั้นต่ำที่ 3% ของเงินเดือน โดยสามารถออมได้ถึงระดับ 27% ของรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาเห็นการออมเพิ่มขึ้นของสมาชิก ส่วนหนึ่งจากการเกิดขึ้นของกองทุนรวมวายุภักษ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ตลาดพักฐานเท่ากับสนามล่า! ค้นหา “หุ้น Deep Value”

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ทรัมป์” สั่งเด้งฟ้าผ่า “ลิซา คุก” ปมฉ้อโกงกู้ซื้อบ้าน | 26 ส.ค. 68

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นไทยปรับตัวบวก Thailand Focus 2025 หนุนตลาด | 27 ส.ค. 68

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นไทย ปิดลบ 3.23 จุด ไร้ปัจจัยใหม่ รอลุ้นคดีคลิปเสียงนายกฯ-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

LEGO ทุบสถิติรายได้ โกยครึ่งปีแรกแตะ 1.74 แสนลบ.

หุ้นวิชั่น

‘กรุงไทย’ ชี้เกษียณ 45 ปีไม่ใช่เรื่องใหม่ สะท้อนบริหารกำลังคนยุคดิจิทัล

กรุงเทพธุรกิจ

ดอลลาร์ทรงตัว ท่ามกลางความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของเฟด

ประชาชาติธุรกิจ

สภาทองคำโลก ชี้ความต้องการทองคำยังแกร่ง พุ่งแตะ 1,249 ตัน ในไตรมาสที่ 2 ปี 68 เฟดส่งซิกลดดอกเบี้ยหนุนราคา มองเป้า 3,100-3,500 ดอลลาร์ในปีนี้

BTimes

สรุปประเด็นความขัดแย้งในหุ้น DUSIT .

Stock2morrow

ตลาดพักฐานเท่ากับสนามล่า! ค้นหา “หุ้น Deep Value”

การเงินธนาคาร

“ทรัมป์” สั่งเด้งฟ้าผ่า “ลิซา คุก” ปมฉ้อโกงกู้ซื้อบ้าน | 26 ส.ค. 68

การเงินธนาคาร

Metaplanet ระดมทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์ลุยซื้อ Bitcoin เพิ่มต้านเงินเยนอ่อน

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...