“ทรัมป์” เผย “ปูติน” พร้อมยุติสงครามยูเครน อาจมีประชุมรอบ 2 ร่วมยูเครน
ทรัมป์ เผยเชื่อว่าปูตินพร้อมยุติสงครามยูเครน แต่สันติภาพอาจต้องมีการประชุมรอบ 2 โดยมีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีเข้าร่วม ขณะที่ผู้นำยุโรปกังวลข้อตกลงอาจทำให้ยูเครนเสี่ยงถูกโจมตีซ้ำ
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 02.14 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เชื่อว่า วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พร้อมที่จะยุติสงครามในยูเครน โดยให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ แต่ย้ำว่า สันติภาพน่าจะต้องมีการประชุมรอบสองที่มีผู้นำยูเครนเข้าร่วมด้วย
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน และพันธมิตรยุโรป ได้เร่งความพยายามในสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อตกลงระหว่างสหรัฐ และรัสเซียจากการประชุมสุดยอดวันศุกร์ที่อลาสก้า ซึ่งอาจทำให้ยูเครนตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีซ้ำในอนาคต
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่า “ผมคิดว่าประธานาธิบดีปูตินจะสร้างสันติภาพ และประธานาธิบดีเซเลนสกีก็จะสร้างสันติภาพ เราจะรอดูว่าพวกเขาจะเข้ากันได้หรือไม่”
เขากล่าวอีกว่า ไม่คาดว่าการประชุมรอบแรกจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และคาดการณ์ว่าอาจต้องมีการประชุมครั้งที่สองโดยมีผู้นำหลายประเทศเข้าร่วม “ผมคิดว่ามันจะเป็นการประชุมที่ดี แต่การประชุมที่สำคัญกว่าคือการประชุมครั้งที่สองที่จะจัดขึ้น เราจะมีการประชุมกับประธานาธิบดีปูติน ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผม และอาจเชิญผู้นำยุโรปบางคนมาร่วมด้วย หรือไม่ก็ได้ ผมยังไม่รู้”
ด้านปูตินได้หารือกับรัฐมนตรีอาวุโสและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงก่อนพบกับทรัมป์ที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสก้า ซึ่งอาจเป็นเวทีสำคัญกำหนดจุดจบของสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปูตินกล่าวในถ้อยแถลงทางโทรทัศน์ว่า สหรัฐกำลังทำงานอย่างแข็งขันและจริงใจ เพื่อยุติการสู้รบ แก้ไขวิกฤต และบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และมุ่งสร้างเงื่อนไขเพื่อสันติภาพระยะยาวระหว่างประเทศของเรา ในยุโรป และในโลก หากสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการควบคุมอาวุธเชิงรุกทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารัสเซียจะหยิบยกประเด็นการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาเจรจา พร้อมกับการหารือด้านความมั่นคงในวงกว้าง อีกทั้งโฆษกเครมลินระบุว่าปูตินและทรัมป์จะพูดคุยถึงศักยภาพมหาศาลที่ยังไม่ได้ใช้ ในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างรัสเซีย-สหรัฐด้วย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากยุโรปตะวันออก ระบุว่า ปูตินอาจพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของทรัมป์จากยูเครน ด้วยการเสนอบทบาทความคืบหน้าในด้านการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์หรือด้านเศรษฐกิจ พร้อมเตือนว่า “เราหวังว่าทรัมป์จะไม่ถูกหลอก รู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้” โดยมองว่า รัสเซียต้องการเพียงหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรใหม่ และให้ยกเลิกมาตรการเดิม
ทรัมป์ระบุว่าจะมีการแถลงข่าวหลังการหารือ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นการแถลงร่วมกันหรือไม่ พร้อมเปรียบว่าการประชุมนี้เหมือนเกมหมากรุก และคาดว่ามีโอกาสเพียง 25% ที่การพบกันครั้งแรกนี้จะสำเร็จ โดยย้ำว่าการเจรจาข้อตกลงสันติภาพขึ้นอยู่กับปูตินและเซเลนสกี สหรัฐจะไม่เป็นผู้ต่อรองข้อตกลงแทน
รัสเซียปัจจุบันควบคุมพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของยูเครน ขณะที่เซเลนสกีและผู้นำยุโรปกังวลว่าข้อตกลงใด ๆ อาจทำให้รัสเซียได้ประโยชน์จากความพยายามยึดครองนาน 11 ปี และอาจกล้าแผ่ขยายอำนาจลึกเข้าสู่ยุโรปมากขึ้น นักการทูตสหภาพยุโรปรายหนึ่งกล่าวว่าบรรยากาศในช่วงชั่วโมงข้างหน้าน่ากังวล แม้ทรัมป์จะพูดคุยกับยุโรปอย่างสร้างสรรค์เมื่อวานนี้
ก่อนหน้าการประชุมสุดยอด ทรัมป์เคยแสดงท่าทีพร้อมร่วมอยู่ในข้อตกลงค้ำประกันความมั่นคงให้ยูเครน ระหว่างการประชุมออนไลน์กับผู้นำยุโรปและเซเลนสกีเมื่อวันพุธ แม้ภายหลังไม่ได้กล่าวถึงในที่สาธารณะ โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ระบุว่า ทรัมป์แสดงท่าทีว่านาโตไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของกลไกค้ำประกันความมั่นคงนี้ แต่สหรัฐและพันธมิตรที่สมัครใจก็ควรเข้าร่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยุโรปบางคนมองว่าเป็นก้าวสำคัญ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงลักษณะนี้จะมีผลในทางปฏิบัติอย่างไร
เมื่อวันพุธ ทรัมป์ได้ขู่จะใช้ผลลัพธ์ที่รุนแรง หากปูตินไม่ยอมทำสันติภาพในยูเครน พร้อมเตือนถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหากการพบกันวันศุกร์ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยรัสเซียคาดว่าจะยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องของยูเครนและยุโรป และยืนยันจุดยืนเดิมที่ปูตินประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567
อ้างอิง : www.reuters.com