“นิวซีแลนด์” เผชิญสมองไหลสูงสุดในรอบ 13 ปี ยอดสุทธิย้ายถิ่นลดฮวบ
นิวซีแลนด์ เผยจำนวนนักเดินทางออกของพลเมืองสูงสุดรอบ 13 ปี ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราว่างงานสูง และแรงดึงดูดจากตลาดงานออสเตรเลียที่มีค่าตอบแทนดีกว่า
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลส 08.03 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นิวซีแลนด์บันทึกจำนวนนักเดินทางออกจากประเทศของพลเมืองสูงสุดในรอบ 13 ปี ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ทำให้ยอดสุทธิจากการย้ายถิ่นลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง
สำนักงานสถิตินิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า มีพลเมืองเดินทางออกนอกประเทศจำนวน 71,851 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ขณะที่มีผู้เดินทางกลับประเทศเพียง 25,353 คน ส่งผลให้เกิดการอพยพสุทธิ (net exodus) ออกนอกประเทศของพลเมือง 46,497 คน
ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากเลือกไปแสวงหาโอกาสในต่างประเทศ โดยเฉพาะในออสเตรเลีย เพื่อหางานที่มีค่าตอบแทนสูงกว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันแรงงานต่างชาติเองก็ลังเลที่จะเดินทางไปนิวซีแลนด์เมื่อโอกาสการทำงานมีน้อย ส่งผลให้ยอดการย้ายถิ่นสุทธิต่อปีลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 13,702 คน ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ยอดการย้ายถิ่นสุทธิต่อปีลดลงจากจุดสูงสุดที่ 135,529 คนในเดือนตุลาคม 2566 และแม้ว่าการเดินทางออกของพลเมืองจะเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยหลักที่ฉุดยอดสุทธิลงคือการลดลงของจำนวนนักเดินทางขาเข้าประเทศ
ทั้งนี้เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ยังคงฟื้นตัวอย่างยากลำบากจากภาวะถดถอยรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว โดยอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากภาคธุรกิจลดการลงทุนและการจ้างงาน นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 จะทรงตัว ขณะที่ธนาคารกลางนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในปีนี้จะอยู่เพียง 0.7%
สำนักงานสถิติ ระบุว่า ราว 59% ของการเดินทางออกของพลเมืองทั้งหมดมุ่งสู่ออสเตรเลีย โดยอ้างอิงข้อมูลสิ้นสุดเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่ และการเดินทางออกมักกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มวัยหนุ่มสาว โดย 38% ของผู้ที่เดินทางออกในรอบปีสิ้นสุดเดือนมิถุนายนมีอายุระหว่าง 18–30 ปี
อ้างอิง : bloomberg.com