เงินบาทเช้านี้ 6 สิงหาคม 2568 “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” เปิดตลาด 32.33 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์
นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ทดสอบโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.48 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งสามารถปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้น 3,380-3,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง หลังรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) ของสหรัฐฯ
ในเดือนกรกฎาคม ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 50.1 จุด (สูงกว่า 50 จุด สะท้อนถึง ภาวะขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการบริการ) แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้พอสมควร ทำให้ ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังคงถูกชะลอไว้แถวโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์
หลังผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อาทิ แนวโน้มการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ (ภาษีนำเข้าสินค้าหมวดยาและ Semiconductor) รวมถึง การคัดเลือกเจ้าหน้าที่เฟดท่านใหม่ ในตำแหน่ง Board of Governor และจะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ FOMC ของเฟด เพื่อมาแทน Adriana Kugler (Board of Governor) ที่ได้ลาออกไป
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางอินเดีย (RBI) โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า RBI อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.50% แต่ RBI อาจเริ่มส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นได้ ตามแนวโน้มการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ และแรงกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ทางฝั่งเวียดนาม ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนาม ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือน อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) เป็นต้น
ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกรกฎาคม ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยยังมีแนวโน้ม “ติดลบ” ต่อเนื่อง ที่ระดับ -0.5% ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงฐานราคาสินค้าและบริการในปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายอมรับว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังคงมีกำลังอยู่ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ ล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้ง ในปีนี้ และอีกราว 3 ครั้ง ในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ เงินดอลลาร์ยังไม่สามารถพลิกกลับมารีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้ นอกจากนี้
ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ มองว่า เงินดอลลาร์อาจไม่ได้มีปัจจัยหนุนมากนัก เนื่องจาก รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ อาจไม่สามารถทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนบ้าง หากรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ยังคงออกมาสดใส ไม่ได้สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แย่ลงชัดเจน เหมือนกับรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในสัปดาห์ก่อนหน้า ทว่า รายงานข้อมูลดังกล่าวก็อาจยังไม่พอจะทำให้ ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่กำลังประเมินอยู่
โดยมองว่า อาจจะต้องรอรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด Jerome Powell ถึงจะทำให้ ผู้เล่นในตลาดปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างชัดเจน (ทั้งปรับเพิ่มและปรับลด ความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เงินบาทเช้านี้ 5 ส.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 32.30 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 4 ส.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นมาก” ที่ระดับ 32.48 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 25 กรกฎาคม 2568 อ่อนค่าลงเล็กน้อย เปิดตลาดที่ 32.28 บาท/ดอลลาร์
- หุ้นไทยวันนี้ 23 กรกฎาคม 2568 ปิดบวก 27.87 จุด หวังไทยปีดดีลเจรจาอัตราภาษีสหรัฐ 18-20%
- เงินบาทเช้านี้ 21 กรกฎาคม 2568 “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” เปิดตลาด 32.40 บาท/ดอลลาร์