โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

กลัวอะไรกันอยู่? 'โรคกลัว Phobia' อาการทางจิตที่ส่งผลต่อชีวิต

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สัญญาณของ“โรคกลัว” หรือ“phobia” หลายครั้งที่คนใกล้ตัว คนรู้จัก หรือแม้แต่ตัวเราเองรู้สึกหวาดกลัวบางสิ่งอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการกลัวความสูง กลัวสัตว์ หรือกลัวสถานการณ์บางอย่างมากเกินไป สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ความกลัวธรรมดา

“โรคกลัว (phobia)” ไม่เพียงส่งผลต่อจิตใจ แต่ยังกระทบต่อชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักโรคกลัวอย่างละเอียด ทั้งสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย รวมถึงแนวทางการรักษาอย่างถูกวิธี

เมื่อคุณไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคกลัวของคุณโดยตรง คุณจะตระหนักได้ว่าความกลัวนั้นรุนแรงกว่าที่ควรจะเป็นมาก แต่การรู้เช่นนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคุณ

หากคุณพบเจอสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดโรคกลัว คุณจะรู้สึกกลัวหรือ วิตกกังวลอย่างรุนแรง คุณอาจจะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ แต่การทำเช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'จิตแพทย์' แนะชาวโซเซียลเบามือเมนต์ 'สีกากอล์ฟ' หวั่นกระทบจิตใจลูก

เปิดแล้ว! 'ศูนย์ซึมเศร้า'BMHH ชู 'ยาพ่นจมูก' นวัตกรรมลดซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย

กลัวขนาดไหนที่มีความเสี่ยง “โรคกลัว”

ผศ. นพ.คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า โรคกลัว เป็น โรควิตกกังวล ชนิดหนึ่งที่จะมีอาการกลัวขั้นรุนแรงต่อสถานการณ์หรือบางสิ่งบางอย่างโดยจะไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน จนอาจจะมีอาการคล้ายโรคแพนิก ได้แก่ ใจสั่น ใจเต้นแรง หายใจเร็ว มือเท้าเย็น ท้องไส้ปั่นป่วน และเวียนหัวตาลาย

ในทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุของโรคอย่างชัดเจน แต่พบว่าอาจเกิดจาก

  • เคยมีปัญหาหรือเรื่องราวในอดีตที่ฝังใจ
  • พบเจอ ได้ยิน หรือเห็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อจิตใจ
  • พันธุกรรม
  • ความผิดปกติของสมอง
  • ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ

อาการ “โรคกลัว” มีอะไรบ้าง?

โรคกลัว (phobia) อาการทางจิต ที่ควรระวัง มักจะมีอาการดังนี้

  • ตื่นกลัว
  • วิตกกังวลรุนแรง
  • ควบคุมตัวเองไม่ได้
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • ความดันเลือดสูง
  • หายใจถี่
  • เหงื่อออก
  • ปวดหัว เวียนหัว
  • พูดติดขัด
  • ปากแห้ง
  • คลื่นไส้
  • มือ เท้า ตัวสั่น
  • เป็นลมหมดสติ
  • กล้ามเนื้อตึงชา

โรคกลัวเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน?

แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะอธิบายว่าตนเองกลัวอะไรบางอย่างอย่างรุนแรง เช่น งูหรือความสูง แต่นั่นไม่เหมือนกับโรคกลัว (phobia) ในความเป็นจริงแล้ว โรคกลัวไม่ได้พบได้บ่อยนัก

โรคกลัวอย่างเฉพาะเจาะจง : อัตราการเกิดโรคกลัวเฉพาะอย่างอาจแตกต่างกันไปตามอายุ อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักมีอาการนี้ก่อนอายุ 10 ขวบ

ในสหรัฐอเมริกา มีเพียงประมาณ 8% ถึง 12% เท่านั้นที่เข้าข่ายอาการกลัวอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก มีเพียง 2% ถึง 6% เท่านั้น

เด็ก : ทั่วโลกมีเด็กประมาณ 3% ถึง 9% ที่มีอาการกลัวอย่างใดอย่างหนึ่ง ในกลุ่มวัยรุ่น (อายุ 13 ถึง 17 ปี) ในสหรัฐอเมริกา มีเด็กประมาณ 16% ที่มีอาการนี้

ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) : อัตราการเกิดโรคกลัวเฉพาะมีแนวโน้มลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยประมาณอยู่ที่ 3% ถึง 5% สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอาการกลัวบางอย่างมากกว่าผู้ชายถึงสองเท่า

แนวโน้มของการเกิด "โรคกลัว"

แนวโน้มการเกิดโรคกลัว เฉพาะอย่างจะดีที่สุดเมื่อได้รับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเริ่มแรก หากไม่ได้รับการรักษา อาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพจิตและการดำเนินชีวิตของคุณ

การรักษาอาการกลัว ตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการว่าเป็นโรคกลัว เพราะไม่ได้มีอาการใดๆ มานานอย่างน้อยหกเดือนแล้วก็ตาม ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่หรือมีโรคกลัวชนิดใด

กลัวแบบไหนถึงจะเข้าข่าย โรคกลัว

อาการกลัวของโรคกลัว ติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่วนมากจะมีอาการทั้งทางกายและจิตใจ ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบาก เช่น ต้องหลีกเลี่ยงบางสถานที่ ไม่สามารถเดินทางโดยยานพาหนะบางประเภท หรือถ้าต้องไปก็อาจมีความเครียด-กังวลอย่างมาก โดยหากมีลักษณะดังกล่าวเป็นเวลานานควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับคำปรึกษา

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคกลัว

  • กระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ทั้งเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก
  • ขาดโอกาสในการเข้าสังคม
  • เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่มีความสุข
  • โรคซึมเศร้า เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
  • อาจใช้วิธีจัดการกับความเครียดอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้สารเสพติดหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • โรคหัวใจ
  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD )
  • โรคพาร์กินสัน
  • อาการเสียสมดุลและเวียนศีรษะซึ่งอาจทำให้เกิดการล้มและบาดเจ็บจากการล้มได้
  • โรคสมองเสื่อมและอาการสมองเสื่อม

โรคกลัวอย่างจำเพาะเจาะจงมีกี่ประเภท

  • กลัวสัตว์ เช่น สุนัข แมว นก แมลงต่าง ๆ กลัวในบางสถานการณ์ เช่น ที่แคบ ที่สูง การโดยสารยานพาหนะ เช่น เครื่องบิน เรือ การดำน้ำ
  • ภัยธรรมชาติ เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว
  • การพบเห็นเลือด เช่น เกิดอุบัติเหตุเลือดออก การฉีดยา การเจาะเลือด ให้เลือด
  • กลัวสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว เช่น สิ่งของต่าง ๆ เสียงดัง

โรคกลัว ที่พบได้บ่อย

กลัวที่แคบ (claustrophobia) : จะมีอาการอึดอัด ใจสั่น หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อต้องอยู่ในที่แคบ ๆ ไม่ปลอดโปร่ง

กลัวเลือด (hemophobia) : ความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงเมื่อเห็นเลือด จะมีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม

กลัวเครื่องบิน (aerophobia) : หวาดกลัวหรือกังวลว่าเครื่องบินจะตก พื้นฐานของคนที่กลัวเครื่องบินมาจากการกลัวความสูงหรือกลัวที่แคบมาก่อน

กลัวความสูง (acrophobia) : มีความรู้สึกกลัวใจสั่น มือขาสั่น ไม่กล้ามอง เมื่อต้องอยู่บนที่สูง ๆ บางคนอาจกลัวจนเกิดอาการช็อกได้

กลัวเชื้อโรค (mysophobia) : มีความกลัวและกังวลเกี่ยวกับสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคต่าง ๆ กลัวที่จะสัมผัสกับสิ่งของสาธารณะ โรคนี้จะทำให้คนที่เป็นรักความสะอาดมาก ๆ ทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา

กลัวเข็ม (needle phobia) : ความกลัวเมื่อเห็นเข็มส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเข็มฉีดยา ทำให้มีอาการใจสั่น ใจเต้นแรง หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม

แนวทางการรักษาโรคกลัว

  • ปรับพฤติกรรมและฝึกจิตใจ เช่น การออกกำลังกายหรือการนั่งสมาธิ ค่อย ๆ ฝึกเผชิญจากสิ่งที่กลัวเล็กน้อยไปสิ่งที่กลัวมาก
  • ฝึกปรับความคิด เช่น การให้กำลังใจตัวเอง คิดเรื่องผ่อนคลายสบายใจเมื่อเผชิญ
  • พบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาแบบจิตบำบัด
  • ใช้ยา เช่น ยาคลายเครียด ยารักษาโรควิตกกังวล
  • ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

โรคกลัวสามารถป้องกันได้หรือไม่?

โรคกลัวเกิดขึ้นได้อย่างคาดเดาไม่ได้ และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความกลัวเป็นสิ่งที่แต่ละคนประสบพบเจอต่างกัน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีวิธีใดที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโรคกลัวได้ นอกจากนี้ยังไม่มีวิธีใดที่ทราบแน่ชัดในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้

เมื่อเป็นโรคกลัวควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

  • กล้าเผชิญกับสิ่งที่กลัว
  • ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล เช่น การออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ฟังเพลง
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และดีต่อสุขภาพ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • มีปฏิสัมพันธ์ ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นในสังคม
  • พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเช่น หลีกเลี่ยงการดูแลทางการแพทย์หรือทันตกรรมเป็นประจำ เพราะกลัวเข็มฉีดยา ทันตแพทย์ ฯลฯ
  • การเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเช่น การย้ายออกจากพื้นที่ชายฝั่งเพราะกลัวพายุเฮอริเคน
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งกระตุ้นเช่น หลีกเลี่ยงการซื้อบ้านหรือหางานทำในสถานที่ที่มองเห็นแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร เพราะกลัวน้ำ กลัวการว่ายน้ำ หรือกลัวการจมน้ำ
  • ขอความช่วยเหลือ คุณควรขอความช่วยเหลือทันทีที่สังเกตเห็นอาการกลัวที่รบกวนชีวิตของคุณ การขอความช่วยเหลือตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยสร้างความแตกต่างอย่างมากในการฟื้นตัวของคุณ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาหากผู้ให้บริการด้านสุขภาพของคุณสั่งยาหรือแนะนำให้เข้ารับการตรวจสุขภาพจิตเป็นประจำ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การรักษาของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยคุณได้เร็วขึ้น
  • อย่าประเมินคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตต่ำเกินไปการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ รวมถึงการจัดการความเครียดและสุขภาพจิต ล้วนเป็นประโยชน์ต่อคุณในการจัดการหรือเอาชนะโรคกลัว

อ้างอิง:คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล , clevelandclinic

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ทบ. โต้เดือด กัมพูชา ใช้สงครามจิตวิทยา บิดเบือนข้อเท็จจริง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผบ.ทอ.ปลื้ม ผ้าไทยลายแม่ย่านางกริพเพน เผย เซ็นสัญญาซื้อฝูงใหม่ 25 ส.ค.

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากโลคัลสู่เวิลด์คลาส! ‘Young Designer 2025’ ดันผ้าไทยไปรันเวย์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ. ชี้ ข้อตกลงทวิภาคีไทย-กัมพูชา ส่อล่ม ยก 10ปี กัมพูชาละเมิดนับ100ครั้ง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

นี่คือสิ่งที่ควรกินเพื่อให้มีพลังงานตลอดวัน

TNN ช่อง16

วัดเส้นรอบคอ สามารถชี้วัด ความเสี่ยงโรคหัวใจ การศึกษาชี้

TNN ช่อง16

เครื่องดื่มป้องกันการเมาค้าง ได้ผลจริงหรือ คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้

TNN ช่อง16

รายชื่อ 9 โรงพยาบาลเอกชนทางเลือกใหม่ สำหรับคนกทม. ผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง

TNN ช่อง16

'นักวิชาการ มธ.' หวั่นนำเข้า ‘แรงงานศรีลังกา’ แย่งงานคนไทย

กรุงเทพธุรกิจ

สังคมไทยกับความเข้าใจเรื่อง “ทุจริตในสิทธิผู้พิการ” กับความเท่าเทียมที่ยั่งยืน | ว่องวิช ขวัญพัทลุง

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...