ไทยยกระดับความเสี่ยง 'ไข้หวัดนก H5N1' หลังกัมพูชาแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 8 ก.ต.2568 นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงพบ"โรคไข้หวัดนก"ทั่วโลก สถานการณ์ยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง ประเทศกัมพูชาได้รายงาน"ไข้หวัดนก H5N1" เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในปี 2568
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 12 ราย ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 - 1 กรกฎาคม 2568 พบมีรายงาน ผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก ผู้ป่วย 4 รายจากจังหวัดเสียมราฐ และมีผู้เสียชีวิต 6 ราย เมื่อป่วยและมีอาการรุนแรง มักพบมีภาวะปอดอักเสบซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตค่อนข้างสูง
การระบาดมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้พบผู้ป่วยในหลายจังหวัดของกัมพูชา เช่น เสียมราฐ กระแจะ กำปอต ตาแก้ว สวายเรียง และอื่นๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับการสัมผัสไก่ที่ป่วย หรือตาย หรือนำซากสัตว์ปีกมาประกอบอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
แม้ว่าประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดนกทั้งในคน และสัตว์ ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 19 ปีแล้ว แต่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากในประเทศไทยยังคงมีการเลี้ยงสัตว์ปีกในบริเวณบ้านในหลายพื้นที่ มีการค้าขายบริเวณชายแดน จึงยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชา ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ตามลำดับ
ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดนกยังคงเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ปีกแบบหลังบ้าน โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ การสัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายผิดปกติ นอกจากนี้ ประชาชนในพื้นที่ชนบทมักจะรอให้มีอาการรุนแรงก่อนจึงไปพบแพทย์ ซึ่งส่งผลให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงขึ้น
ด้านนพ.ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ได้มาตรฐาน จากร้านค้าที่เชื่อถือได้รับประทานอาหารที่ปรุงสุก หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีก สุกร โค ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ การสัมผัสสัตว์ควรสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัส เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก สุกร โค
หากพบสัตว์ป่วยตายจำนวนมากบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่เลี้ยง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และไม่นำซากสัตว์ไปประกอบอาหาร
แนะนำประชาชน หากมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดนก เช่น ไข้ ไอ หายใจลำบาก หลังสัมผัสสัตว์ปีก สุกร โค ควรรีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการสัมผัสสัตว์ให้แพทย์ทราบ และหากพบสัตว์ปีก สุกร โค ป่วยตายไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบแจ้งปศุสัตว์หรือสัตวแพทย์ในพื้นที่ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กรมควบคุมโรคได้ระบุความเสี่ยงของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ แต่ปัจจุบันจัดระดับ ประเทศไทยมีความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง เท่ากับเป็นการยกระดับความเสี่ยงของประเทศไทยมากขึ้น