‘โปรดักชันดีไซน์’ ฟันเฟืองหลัก อุตสาหกรรม ‘ภาพยนตร์-ซีรีส์เกาหลีใต้’
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีใต้นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องที่โด่งดังในระดับเวทีโลก นอกจากมีนักแสดงนำมากความสามารถและมีผู้กำกับฝีมือดีหลายท่านแล้ว การที่ภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีมีคุณภาพและมีชื่อเสียงในเวทีโลกมากขึ้นนั้น เบื้องลึกเบื้องหลังยังมีฟันเฟืองอย่าง “โปรดักชันดีไซน์” ที่ช่วยภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านั้นกลมกล่อม มีมิติ และทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกร่วมได้เป็นอย่างดี
ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีได้จัดงานเสวนาพิเศษกับผู้กำกับศิลป์ 'รยูซองฮี' ซึ่งเป็นผู้กำกับศิลป์ซีรีส์เกาหลีใต้หลายเรื่อง อาทิ When Life Gives You Tangerines รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง The Handmaiden และ Decision to Leave
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่านอกจากผู้กำกับแล้ว ในการสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ในเกาหลีใต้จะมีผู้กำกับศิลป์ หรือโปรดักชันดีไซน์เนอร์ร่วมด้วย
ซอนจู ลี ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย เผยว่า ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่าซีรีส์เกาหลีมีคุณภาพเพิ่มขึ้น และได้รับความนิยมในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โปรดักชันดีไซน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ประกอบกับผู้กำกับหลายคน รวมถึงผู้กำกับมากฝืมืออย่างพัคชานอุค และบงจุนโฮ ที่ให้ความสำคัญกับโปรดักชันดีไซน์และผู้กำกับศิลป์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ดีที่สุด
รยูซองฮี ผู้กำกับศิลป์หญิง อาวุโสที่สุดในวงการขณะนี้ เผยว่า การทำงานนี้ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องและต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ
ผู้กำกับศิลป์หญิงกล่าวว่าความสำคัญในการออกแบบโปรดักชันดีไซน์ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของภาพยนตร์และซีรีส์ และสิ่งที่เรื่องนั้นๆ ต้องการสื่อ หากเป็นเรื่องย้อนยุคก็ต้องศึกษาข้อมูลเหมือนเป็นนักโบราณคดี
สำหรับการตัดสินใจว่าเรื่องใดจะใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก (CG) หรือใช้การสร้างฉากจริงขึ้นมานั้นมีปัจจัยที่ต้องพิจารณา และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “งบประมาณ” แต่หากพบสถานที่หรือบรรยากาศที่มีความสมจริงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องสร้างฉากขึ้นใหม่ และถ้าการสร้างฉากจะเพิ่มพลังให้นักแสดงหรือเพิ่มความมีชีวิตชีวาต่อซีรีส์หรือภาพยนตร์ก็ต้องสร้างฉากขึ้น
ความยากง่ายในการกำกับศิลป์นั้น ผู้กำกับรยูบอกว่า ภาพยนตร์มีความยากมากกว่า เนื่องจากภาพยนตร์เวลาราว 2 ชั่วโมง มีเวลาผลิตราว 10 เดือนโดยเฉลี่ย จึงมีเวลาทำฉากหรือองค์ประกอบน้อยกว่า ในขณะที่ซีรีส์ 16 ตอน มีเวลาสร้างสรรค์ฉากราว 1 ปีครึ่ง
ส่วนงานกำกับศิลป์ที่ยากที่สุดสำหรับรยูซองฮี เธอตอบได้ยากมาก เนื่องจากแต่ละเรื่องมีความยากง่ายต่างกัน อย่างเช่นภาพยนตร์ The Handmaiden ที่เป็นแนวย้อนยุค ปกติจะใช้เวลาเตรียมตัว 6 เดือน แต่เรื่องนี้เธอต้องใช้เวลาเพียง 3 เดือนครึ่ง ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง Oldboy เธอดูแลด้านโปรดักชันดีไซน์ในช่วงที่เธออายุยังน้อย และเธอต้องเสียน้ำตาขณะทำงานหลายครั้งเพราะกังวลและไม่มั่นใจว่าจะทำออกมาได้ดี แต่สุดท้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี และประสบความสำเร็จด้านรายได้ ทั้งยังได้รับรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
ผู้กำกับรยูเผยด้วยว่า ภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่สร้างฉากขึ้นมานั้นบางเรื่องเมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็ต้องรื้อทิ้งบางส่วนหรือรื้อทิ้งทั้งหมด ซึ่งตอนแรกเธอรู้สึกเสียดาย แต่เมื่อมองว่าอย่างน้อยองค์ประกอบเหล่านั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกและเข้าใจสิ่งที่หนังหรือซีรีส์ต้องการสื่อ แม้ใช้เพียงฉากเดียว ก็ภูมิใจแล้ว
สร้างฉากเสมือนจริง สร้างอารมณ์ร่วม กระตุ้นการท่องเที่ยว
หลายคนอาจรู้จักซีรีส์ “When Life Gives You Tangerines” หรือ “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่างพัคโบกอม และไอยูมาแสดงนำ นอกจากนักแสดงจะแสดงได้ดีจนผู้ชมดำดิ่งไปกับความรัก ความเศร้า และความสุขของทุกตัวละครแล้ว รู้หรือไม่ว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้ชมอินกับซีรีส์เรื่องนี้มากขึ้นไปอีก ส่วนหนึ่งมาจากงานกำกับศิลป์ผู้กำกับรยู
ความยากของซีรีส์เรื่องนี้คือ ซีรีส์ต้องการเล่าชีวิตของตัวละครหลักอย่างนางเอกในทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยชรา และสิ่งที่แบ่งอย่างชัดเจนอีกอย่างคือ ฤดูกาลของการเล่าเรื่อง ทั้งฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้น ผู้กำกับศิลป์จึงต้องออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูและยุคสมัยด้วย ซึ่งสังเกตได้จากบ้านของนางเอกที่มีความสดใสมากขึ้นเมื่อเธอเติบโตและมีชีวิตมีครอบครัวที่มีความสุข
แต่สิ่งที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ รยูซองฮีได้สร้างฉากประกอบซีรีส์ได้ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาผ่านซีรีส์นี้ก็คือ ฉากท่าเรือ และฉากโขดหินใหญ่ริมน้ำที่ตัวละครเอกชอบไปเดินเล่น
ด้วยซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะเชจู ทีมงานจึงขนดินขนทรายหลายร้อยตันมาสร้างภูมิทัศน์ให้ดูเป็นเนินเขาและมีพื้นที่สูงต่ำแตกต่างกันตามเกาะเชจูของจริง
ส่วนหินบะซอลต์สีดำที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะ ทางกองถ่ายไม่สามารถนำเข้าหินชนิดนี้ได้ จึงใช้หินคล้ายๆกัน จากเวียดนามมาใช้แทน จากนั้นนำมาแกะสลักและพ่นสีให้เหมือนของจริง
ผู้กำกับศิลป์รยู เผยว่า สำหรับเธอแล้วซีรีส์เรื่องนี้เป็น “ผลงานที่พิเศษมาก” เพราะเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนธรรมดา ซึ่งอาจเป็นตัวเราเอง เป็นแม่ของเรา หรือเป็นพี่น้องของเรา เธอทุ่มเททำงานนี้อย่างเต็มที่เพื่อให้องค์ประกอบและฉากต่างๆ ช่วยสื่อสารความรู้สึกไปยังผู้ชมและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้มากที่สุด
น่าเสียดายที่การทุ่มทุนสร้างเกาะเชจูจำลองถูกรื้อถอนไปแล้ว เนื่องจากที่ดินในเกาหลีใต้นั้นมีจำกัด และที่ดินจุดนั้นได้เปลี่ยนไปสร้างอย่างอื่นแทนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวคู่รักเกาะเชจูบวกกับโปรดักชันดีไซน์ของซีรีส์สามารถสื่อถึงความเป็นเกาะเชจูได้มาก (แม้ส่วนใหญ่ไม่ได้ถ่ายทำที่เกาะเชจูจริง) ก็ทำให้การท่องเที่ยวเกาะเชจูได้รับความนิยมมากขึ้นได้ในช่วงที่ซีรีส์กำลังออนแอร์ไปจนถึงช่วงที่ออนแอร์ครบทุกตอน
เรียกได้ว่า โปรดักชันดีไซน์และตัวผู้กำกับศิลป์เองล้วนมีความสำคัญและเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์ครบเครื่อง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่ามากเมื่อคนดูชื่นชอบผลงานเหล่านั้น
สงครามส่งด่วนเน้นโปรดักชันดีไซน์
รยูซองฮีกล่าวว่า โปรดักชันดีไซน์เนอร์ที่ดีคือผู้ที่สามารถค้นหาระเบียบในความไร้ระเบียบ ค้นพบรูปแบบในบทภาพยนตร์ และสามารถเข้าใจทิศทางที่ผู้กำกับหรือนักเขียนต้องการสื่อสาร แม้ว่าจะไม่ได้มีการอธิบายออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม และเสริมว่า ความสวยงามไม่ได้จำกัดแค่สิ่งที่สมบูรณ์แบบ และในความคิดของเธอ ความสวยงามคือการยอมรับความหลากหลายที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน นอกจากนี้บทที่สมบูรณ์ก็จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานได้มาก
ประเทศไทยก็เริ่มให้ความสำคัญกับโปรดักชันดีไซน์ไม่แพ้กัน ซึ่งสามารถเห็นได้จากซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ที่ได้เปิดเผยเบื้องหลังการหาสถานที่ถ่ายทำและการสร้างฉากประกอบสุดอลังการ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่หลายฉาก เพื่อให้ซีรีส์มีความสมจริงมากขึ้น เช่น โกดังเก็บสินค้าที่ต้องใช้กล่องสินค้าประกอบจำนวนมาก และโกดังดังกล่าวยังต้องสร้างสายพานคัดแยกสินค้าใหม่จริงด้วย ส่วนออฟฟิศก็เก็บรายละเอียดห้องทำงานได้อย่างแนบเนียน ขณะที่ห้องนอนของตัวเอกก็เปลี่ยนไปแปลงไปตามการพัฒนาของตัวละคร
โปรดักชันดีไซน์ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จ หากอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ไทยให้ความสำคัญกับภาคส่วนนี้มากขึ้น ก็จะหนุนให้อุตสาหกรรมประสบความสำเร็จและก้าวสู้เวทีโลกได้มากขึ้นเช่นกัน