โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ เปิดใจ ขับเคลื่อนพาณิชย์ วัยไม่ใช่อุปสรรคทำงาน

Thai PBS

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS

เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ ลูกไม้ภายใต้สกุล "ตัณฑสิทธิ์" ในวัย 35 ปี 7 เดือน เมื่อเข้าอยู่ในสนามการเมือง เขาถูกปรามาสว่า เป็น "เด็กเส้น" และ"ฝากเลี้ยง" อยู่ในร่มเงาโควตากลางนาม พรรคโอกาสใหม่ ขณะที่ "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" บิดายังเป็นสส.บัญชีรายชื่อ และมีฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และเป็นที่รับทราบกันว่า หากมีการยุบสภาและเลือกตั้งครั้งหน้า "ฐากร" จะผละจากทสท. มาเป็นกำลังสำคัญของพรรคโอกาสใหม่

จึงไม่แปลกที่จะปรากฎชื่อ เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ อยู่ในครม.ชุดใหม่ แถมประเดิมตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ที่อายุน้อยที่สุดในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์

เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ เป็นบุตรชายคนโตของ "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย และ "พรพาณี ตัณฑสิทธิ์" มีพี่น้องร่วมกัน 3 คน คือ ฉันทวิชญ์ ,น.ส.อิสรีย์ ตัณฑสิทธิ์ ปัจจุบันผู้พิพากษาศาลภาษีอากรกลาง และนายกฤตธี ตัณฑสิทธิ์ (ออดี้) อาจารย์คณะสังคมวิทยา-มานุษยวิทยา มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในแวดวงการเมือง "ฉันทวิชญ์" อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่สำหรับวงการวิชาการ เขาเป็นนักวิจัยที่มีผลงานได้รับการยอมรับ จากงานวิจัยเกี่ยวด้านนโย บายการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (Macroprudential Policy ) และด้วยความที่อายุน้อย ทำให้ถูกมองว่าเป็นละอ่อนทางการเมือง

ตั้งใจดี-วัยไม่ใช่ "อุปสรรค" การทำงาน

"ไทยพีบีเอสออนไลน์" สัมภาษณ์"ฉันทวิชญ์" รัฐมนตรีหนุ่มน้อยหน้ามลที่เข้ามาขับเคลื่อนงานพาณิชย์ โดยมองว่า "ฝั่งการเมือง" เป็นฝ่ายนโยบาย และการทำงานก็ต้องมี "ข้าราชการ" เป็นตัวหลัก เป็นแรงหนุน องคาพยพ เป็นกลไกในการขับเคลื่อน เมื่อ 2 ฝั่งรวมกันประสานกันได้ก็ทำให้งานเดินหน้าได้

ขณะเดียวกันก็เข้าใจด้านการเมือง มีอะไรที่ฝ่ายการเมืองต้องการก็มาบอกกับฝ่ายราชการ ซึ่งการทำงานต้อง “ให้เกียรติ”กัน ทำให้ “ความแตกต่าง”ระหว่างวัยหายไป

“ครอบครัวผม เปิดรับฟังความคิดเห็นของคนในครอบครัว ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับการทำงานกับผู้ใหญ่ ที่สำคัญไม่ได้มองว่า เป็นรัฐมนตรีแล้วข้าราชการต้องทำตามคำสั่งทุกครั้ง แต่สามารถให้คำแนะนำในการทำงานได้ยอมรับว่าไม่ได้อยู่การเมืองมาตลอดและไม่มีชื่อเสียง เป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาที่รับข่าว เข้าใจถึงการทำงานของสื่อ ตำแหน่งทางการเมืองเป็นหน้าที่จะต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ จะโดนตำหนิ หรือโดนด่า ก็ต้องสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ว่าทำงานอะไรบ้าง”

ฉันทวิชญ์ กล่าวว่า การมาเป็นรัฐมนตรีอายุน้อย มองว่า อายุ 35 ปีไม่ใช่เด็ก ผมไม่สนใจคำว่า "เด็ก" หรือ "ผู้ใหญ่" แต่มองว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราทำได้ไหม? ถ้าทำได้ เราเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความหวังดีให้ประเทศ ไม่ได้วัดกันว่าอยู่บนโลกมากี่ปี แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่มีในแต่ละวัน เป็นมาตรวัดว่าคนนั้นทำงานได้แค่ไหน

เรื่องอายุมากน้อยไม่มีผล ผมเชื่อว่า ประสบการณ์ที่มีและสิ่งที่ได้เรียนรู้มา จะช่วยให้ทำงานได้ และมั่นใจว่าจะทำงานร่วมกับข้าราชการได้ ผมมาจากครอบครัวราชการ ไม่ได้เข้ามา "สั่ง"แต่เข้ามาช่วยขับเคลื่อน และหวังว่าจะได้รับคำแนะนำในการขับเคลื่อนงาน

โจทย์ใหญ่ "ไทย" ต้องแข็งแกร่งในเวทีโลก

สำหรับแผนที่จะขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้วางโจทย์ใหญ่ไว้ว่า จะทำอย่างไรให้ไทยมีที่ยืนอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นในเวทีโลก เพราะด้วยความที่เป็นคนที่เติบโตมาในยุค 90 ที่เศรษฐกิจช่วงนั้นดีมาก ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอย แต่หลังจากนั้นเศรษฐกิจค่อยๆถดถอย ประกอบกับปัจจุบันโลกการค้าเปลี่ยนแปลงไปมาก ในแบบหน้ามือเป็นหลังมือแบบรายวัน เปลี่ยนเร็วมาก ไม่ใช่เพราะแค่นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้ามากำหนดทิศทางการค้าโลก แต่ก่อนหน้านั้นก็มีเรื่องเทคโนโลยี จีโอโพลิติกส์ AI รูปแบบการค้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพียงแต่ “ทรัมป์” เข้าเป็นตัวเร่งให้ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงและรับมือ

รมช. พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือไอทีดี ซึ่งได้วางแนวทางที่จะขับเคลื่อนเพื่อตอบโจทย์นี้ให้ได้ โดยด้านการต่างประเทศที่ต้องมีการเจรจา เริ่มจากการสนับสนุนการเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐฯ ให้บรรลุผลสำเร็จ เพราะกระทรวงพาณิชย์ดูแล ทั้งเรื่องรายการสินค้าที่จะปรับลดภาษี เรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า และเรื่องการเยียวยา เพราะไม่ว่าผลเจรจาจะสรุปอย่างไร ก็จะมีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบแน่นอน

ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคู่ขนานกันไป คือ การเร่งหาตลาดใหม่รองรับให้กับสินค้าไทย โดยเฉพาะเรื่องการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่อยู่ระหว่างการเจรจา คือ ไทย-เกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าน่าจะจบได้เร็ว ๆ นี้ และเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ถือเป็นฉบับสำคัญมาก เพราะสินค้าส่งออกของไทยไปอียูเป็นสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไทยสูง

ดังนั้นตลาดอียูจึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปแล้ว 1 ใน 3 เหลืออีก 2 ใน 3 ตั้งเป้าจะเจรจาให้จบในปีนี้เช่นเดียวกัน หากสำเร็จ จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีโอกาสสำหรับการค้า การลงทุนของไทย และประมาณเดือน ส.ค.2568 ได้ให้ไอทีดีจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมในเรื่องนี้ด้วย

การปรับกฎเกณฑ์ทางการค้า ที่จะช่วยให้สินค้าไทยแข่งขันได้ และกฏเกณฑ์ที่ผู้ประกอบการจะสามารถเข้าไปแข่งขันได้ เช่น หลักเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนมูลค่าการผลิตในประเทศและภูมิภาค (Regional Value Content : RVC) 3.การเตรียมข้อมูลผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้า เพื่อให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยรับรองให้ โดยมาตรการเหล่านี้ จะมีการตั้งทีมเข้ามาดูแล มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์มาร่วมกันทำงาน

การเมืองมาแล้วไป เป้าหมาย 90 วันต้องทำงานให้ดี

ฉันทวิชญ์ กล่าวว่า มีแผนที่จะผลักดัน SME เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนโลก ให้สามารถค้าขายออกสู่ตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องศึกษาว่า SME จะส่งออก ต้องเจอกฎระเบียบอะไรบ้าง ตั้งแต่เริ่มผลิตไปจนถึงการส่งออกได้ อย่าไปมองมุมที่กระทรวงพาณิชย์ต้องกำกับ แต่ให้มองในมุมว่า SME ต้องเจออะไร กฎระเบียบบางอย่าง จำเป็นต้องมีหรือไม่

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์มีฐานข้อมูลความต้องการสินค้าจากทั่วโลก ผ่านการสำรวจของทูตพาณิชย์ สามาถรวบรวมให้เป็นระบบ แล้วนำประมวลผลว่าสินค้าประเภทไหน ชนิดไหน ควรส่งออกไปประเทศไหนแล้วไปแจ้งให้กับ SME ชี้เป้าตลาดให้กับ SME หรือพา SME ไปขาย เพราะถ้าจะให้เขาไปเอง แค่ค่าเครื่องบินก็ไม่คุ้มแล้ว

“เป็นโจทย์ที่วางไว้ว่าใน 90 วันนี้ จะต้องทำให้สำเร็จ แต่อาจจะไม่สำเร็จทุกอย่าง เราไม่รู้ว่าการเมือง จะเป็นอย่างไร บางทีมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว มาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่ตลอดไปอยู่แล้ว เพราะการเมืองเข้ามาแล้วก็ออกไป แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราไว้จะเป็นการวางรากฐานที่ดี หากคนใหม่เข้ามารับไม้ต่อ ก็ทำต่อได้เลยหากอยากทำ เพราะเราไม่ได้อยู่นาน มีเวลาที่จำกัด จึงวางไว้ 90 วัน เหมือนตอกเสาเข็มปลูกบ้านไว้ ส่วนจะเริ่มปลูกบ้านให้สวยงามก็ต้องรอทิศทางการเมืองต่อไป ถ้าอยู่ก็ทำให้เป็นบ้านที่สำเร็จเรียบร้อยถ้าเห็นว่าดีก็ทำต่อ ไม่ดีก็แล้วแต่จะพิจารณา”

ทั้ง 3 ภารกิจนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เราจะผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วันตามที่ตั้งเป้าไว้ เพื่อประโยชน์กับคนไทยทุกคน

อ่านข่าว:

"จตุพร" สู้ภาษีทรัมป์ 36 % ภารกิจท้าทาย "พ่อบ้าน" พาณิชย์

การค้าโลกเสี่ยง-แข่งขันสูง สนค. เล็งปรับโครงสร้างส่งออก ยกระดับสินค้าไทย

พณ. เผย USTR พอใจข้อเสนอ ไทยเร่งปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ลุ้นจบก่อน 1 ส.ค.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

วิดีโอ

จับตาสหรัฐฯ กลับมาติดตั้ง นิวเคลียร์ ในสหราชอาณาจักร

49 นาทีที่แล้ว

นาฏกรรมสลด 39 เหยื่อตึก สตง.ถล่ม ตกค้าง 4 เดือน ไร้รัฐเยียวยา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" ปลุกสามัคคีบอกพรรคร่วมไม่ทิ้งกัน ซัด ภท.ถอนตัวไม่สุภาพบุรุษ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
วิดีโอ

ตรวจสอบเบิกจ่ายเงิน โครงการ "พุทธอุทยานนครสวรรค์"

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว ธุรกิจ-เศรษฐกิจ อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เอิร์ธ ฉันทวิชญ์ เปิดใจ ขับเคลื่อนพาณิชย์ วัยไม่ใช่อุปสรรคทำงาน

Thai PBS

ทบ.ชี้แจงปมทุ่นระเบิดช่องบกต่อผู้ช่วยทูตทหาร 47 ประเทศ

Thai PBS

ประกาศสถาปนา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์

Thai PBS
ดูเพิ่ม
Loading...