เกาหลีเหนือวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำเกาหลีใต้ว่าเป็นพวกตีสองหน้า
น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวหาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่ามีพฤติกรรมตีสองหน้า โดยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลโซลที่จัดการฝึกซ้อมทางทหารกับสหรัฐฯ ขณะพยายามเจรจาทางการทูตกับรัฐบาลเปียงยาง
ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของกาหลีใต้ (Photo by KIM Min-Hee / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 กล่าวว่า คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ สาดวาจาใส่ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ว่ามีพฤติกรรมตีสองหน้า โดยพยายามฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลเปียงยาง แต่อีกด้านยังคงมุ่งมั่นจัดการฝึกซ้อมทางทหารกับสหรัฐฯ เพื่อรุกราน
ผู้นำเกาหลีใต้ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งใหม่ให้คำมั่นว่าจะเคารพระบบการเมืองของเกาหลีเหนือและสร้างความไว้วางใจทางทหาร พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ถึงกระนั้น เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาก็ยังคงเดินหน้าซ้อมรบร่วมประจำปีในวันจันทร์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ
อี แจ-มย็องอธิบายว่าการซ้อมรบครั้งนี้เป็นเพียงการป้องกัน และกล่าวว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะเพิ่มความตึงเครียด
เกาหลีเหนือรู้สึกโกรธแค้นมาตลอดกับการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ โดยประณามว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อรุกราน
คิม โย จอง กล่าวว่า "การซ้อมรบร่วมครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นอีกครั้งภายใต้ท่าทีปรองดอง เกี่ยวข้องกับการทบทวนแผนปฏิบัติการใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การรื้อถอนขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเราโดยเร็ว"
"การซ้อมรบครั้งนี้ยังเผยให้เห็นถึงความตั้งใจของโซลที่จะขยายการโจมตีเข้าไปในดินแดนของสาธารณรัฐเรา และนี่คือส่วนที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงลักษณะสองด้านของเจ้าหน้าที่โซล" เธอกล่าวเสริมในแถลงการณ์ของสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA)
ทั้งนี้ คิม จองอึน เพิ่งประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ให้ขยายขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว โดยอ้างถึงการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเขาเชื่อว่าอาจจุดชนวนสงคราม
นับตั้งแต่ความล้มเหลวจากการประชุมสุดยอดระหว่างคิมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่กรุงฮานอยในปี 2019 เกาหลีเหนือได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะไม่มีวันสละอาวุธนิวเคลียร์และยืนยันอย่างชัดเจนว่าขณะนี้เกาหลีใต้ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของสหรัฐฯนั้น เป็น "ศัตรูหลัก"
คิม โยจอง ย้ำคำกล่าวอ้างเหล่านี้ในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ
เธอกล่าวว่า "รัฐบาลโซลไม่สามารถเป็นพันธมิตรทางการทูตของเกาหลีเหนือได้ และอี แจ-มย็องไม่ใช่คนประเภทที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้"
ขณะที่สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า "รู้สึกเสียใจที่คิม โยจองบิดเบือนความพยายามอย่างจริงใจของเรา"
"มาตรการเชิงรุกเพื่อสันติภาพของเกาหลีใต้ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ฝ่ายเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเพื่อสร้างหลักประกันเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้กับทั้งสองเกาหลี" สำนักงานฯกล่าวเสริม
กองทัพเกาหลีใต้ระบุในเดือนมิถุนายนว่าทั้งสองประเทศได้ระงับการแพร่ภาพโฆษณาชวนเชื่อในเขตปลอดทหาร และต่อมาระบุว่าได้สังเกตเห็นเกาหลีเหนือถอดลำโพงออกหลังจากที่เกาหลีใต้ถอดลำโพงของตนเองออกไปก่อนแล้ว
แต่คิม โยจองปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเกาหลีเหนือถอดอุปกรณ์ดังกล่าวออกไป.