SC Asset Q2 โตแรง 95% ครึ่งปีหลังตุนแบ็คล็อกแน่น 1.96 หมื่นล้าน
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 (เม.ย.-มิ.ย.) มีรายได้รวม 5,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95% จากไตรมาสแรก และ 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (Engine 1) มูลค่า 4,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 117% QoQ สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดบ้านระดับพรีเมียมที่ยังมีดีมานด์สูง
โครงการเรือธงที่หนุนยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงนี้ ได้แก่ คอนนาเซอร์ พัฒนาการ, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขสวัสดิ์-พระราม 3 และแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ส่งผลให้ SC Asset ครองส่วนแบ่งตลาดบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปสูงสุดในประเทศ
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 SC Asset มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่า 19,600 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 36% และคอนโดมิเนียม 64% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป เพื่อเสริมพอร์ต Engine 1 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 16,400 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่า 8,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Engine 2) และบริการที่ปรึกษาอยู่ที่ 383 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ 2 แห่ง คือ “ครอโม แบงคอก” ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton และ “เดอะ สแตนดาร์ด พัทยา นาจอมเทียน” รวมถึงเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าเป็น 150,000 ตร.ม. พร้อมอัตราการเช่าเต็ม 100% ภายในสิ้นปี
ทำให้ในภาพรวมแล้วผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 7,891 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 531 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.05 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 ก.ย. 2568
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร SC Asset กล่าวว่า ความต้องการในตลาดบ้านพรีเมียมยังแข็งแรงกว่ากลุ่มอื่น ทำให้บริษัทสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่เติบโตได้แม้ตลาดรวมเผชิญความท้าทาย ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังจะยังมีการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ รวมถึงปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนได้ทันต่อสถานการณ์