TOP ลุ้นไตรมาส3 พลิกกำไร ไร้ stock loss4.5 พันลบ.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 16.42 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - TOP คืบหน้าโครงการ CFP ได้ผู้รับเหมาหลัก HCU–RHCU แล้ว ค่าการกลั่นครึ่งปีหลังยังมีความท้าทาย แต่มองโอกาสไตรมาส 3/68 พลิกกำไร ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/68 ไร้ stock loss ก้อนใหญ่กว่า -4.5 พันลบ. มาฉุด พร้อมไม่มีปิดซ่อมบำรุงใหญ่
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จeกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP คาดไตรมาส 4/2568 โครงการ CFP ได้ผู้รับเหมาฯ ช่วงใหม่มารับมอบงานส่วนใหญ่ และสามารถสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มได้ (ทยอยได้ผู้รับเหมาฯ จนครบในช่วงต้นปี 2026) โดยปัจจุบันได้ผู้รับเหมาฯ ที่รับผิดชอบงานหลักของหน่วย HCU และ RHCU ที่เป็นหน่วยสำคัญแล้ว (STECON และ SRICHA รวมมูลค่างานราว 15,200 ลบ. เทียบกับงบต้นทุนส่วนเพิ่ม 63,000 ลบ.) มองว่าการบริหารจัดการยืดหยุ่นมากขึ้นจากที่ TOP เป็นผู้จ่ายเงินค่าก่อสร้างเอง โดยมี EPCM เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง
• มอง ครึ่งปีหลัง 2568 ค่าการกลั่นมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย เทียบกับ ไตรมาส 2/2568 กดดันจาก crude premium ที่เพิ่มขึ้น สหรัฐฯ คว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียหนักขึ้น ส่งผลให้โรงกลั่นในอินเดียและจีนต้องหันไปซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง ทำให้ crude premium สูงขึ้น ขณะที่ gas oil spread ที่ฟื้นตัวจากคลังน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ และการปิดตัวของโรงกลั่นบางส่วนในสหรัฐฯ และยุโรปไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด ทั้งนี้ crude run ใน 2H25 ลดลง h-h จากการปิดซ่อมใหญ่ตามแผน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
• มองอะโรเมติกส์และ Lube ฟื้นตัวใน ครึ่งปีหลัง 2568 คาด supply อะโรเมติกส์ตึงตัวขึ้นจากการเลื่อน COD ของกำลังการผลิตใหม่บางส่วนในตะวันออกกลางและจีน ขณะที่ demand ฟื้นตัวเร่งขึ้น ส่วน Lube ได้แรงหนุนจาก supply ที่ตึงตัวจากการปิดซ่อม และ Bitumen ได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ของอินโดนีเซียที่เร่งขึ้น
ความเห็นและคำแนะนำ
• มอง slightly negative ต่อข้อมูลในการประชุมนักวิเคราะห์ คือ i) แนวโน้มค่าการกลั่น ครึ่งปีหลัง 2568 มี downside risk จาก crude premium ที่สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ สิงหาคม–กันยายน 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่โรงกลั่นของ TOP ออกจากปิดซ่อม และ ii) ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของรายละเอียดต้นทุนส่วนเพิ่มโครงการ CFP เลื่อนไปอยู่ใน ไตรมาส 4/2568
• ทั้งนี้ คงมุมมองว่า ไตรมาส 3/2568 จะพลิกมีกำไร ฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า โดยไม่มี stock loss ก้อนใหญ่กว่า -4.5 พันล้านบาท มาฉุด และเพียงพอที่จะชดเชยปริมาณขายที่ลดลงจากการปิดซ่อมใหญ่และค่าใช้จ่ายปิดซ่อม รวมถึงแรงกดดันจาก ship-to-ship
• คงคำแนะนำ Neutral ที่ TP25F = 32.0 บาท/หุ้น ถือรอดู upside หากต้นทุนส่วนเพิ่มโครงการ CFP ต่ำกว่าคาดและได้รายละเอียดคืบหน้าใน ไตรมาส 4/2568 ระยะสั้นปัจจัยหนุนยังน้อยกว่ากลุ่ม จากการฟื้นตัวใน 2H25F ที่น้อยกว่าเนื่องจากมีปิดซ่อมใหญ่ และได้รับประโยชน์จาก middle distillate น้อยกว่า