กมธ.เศรษฐกิจฯ วุฒิสภา เสนอทางออกในการเยียวยาและแก้ไขปัญหาการถูกอายัดบัญชีของผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกทางชายแดน
วันนี้(19 ส.ค.)คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจการเงิน และการคลัง วุฒิสภา นำโดย นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต รองประธานคณะกรรมาธิการ และประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน แถลงข่าว เรื่อง “ปัญหาการถูกอายัดบัญชีของผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกชายแดน” โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ประกอบการส่งออกชายแดนจำนวนหลายราย ผู้ร้องประกอบธุรกิจการค้าชายแดนโดยขายสินค้าอุปโภค-บริโภคให้กับผู้ซื้อฝั่งลาวและเวียดนาม มีการดำเนินการตามใบสั่งซื้อ ออกใบ INVOICE ใบกำกับขนย้าย ขนส่งสินค้า ผ่านศุลกากรตามปกติ มีวิธีการรับชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งผู้ซื้อโอนเงินผ่านทางธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking) ธนาคารต่าง ๆ แต่การค้าชายแดนมีความละเอียดอ่อนบริษัทไทยมีปัญหาการออก Form D (เอกสารแสดงแหล่งกำเนิดสินค้า) ปัญหาการขาดเงินบาทในประเทศลาวและเวียดนาม และปัญหาโอนเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ ผู้ซื้อจึงต้องใช้ช่องทางโพยก๊วนคือ โต๊ะแลกเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตในการโอนเงินเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าการโอนผ่านธนาคารพาณิชย์ส่งผลให้มีมิจฉาชีพแอบอ้างหรือสวมรอยโดยการใช้ข้อมูลทางธุรกรรมทางการเงินของผู้ประกอบการ หลอกลวงบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการโดยที่ไม่พบที่มา ทำให้หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งอายัดบัญชีตามมาตรา 7 ของพระราชกำหนดป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568 ซึ่งให้อำนาจในการระงับบัญชีโดยไม่ต้องแจ้งให้เจ้าของบัญชีทราบล่วงหน้า ซึ่งการโอนเงินผ่านช่องทางนอกระบบในลักษณะนี้แม้จะไม่ผิดในแง่เจตนาแต่กลับกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้ผู้ประกอบการตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือขบวนการฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว
.
ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเห็นว่าควรมีทางออกในการเยียวยาและแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ร้องในฐานะที่ตกเป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยการเยียวยาและแก้ไข 1.ผู้ประกอบการต้องรีบไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวนในแต่ละคดี โดยนำเอกสารการค้าทั้งหมด (ใบ Invoice, หลักฐานการส่งออกที่ผ่านศุลกากร) ไปแสดงหากเอกสารเพียงพอและพิสูจน์ได้ว่าการค้าสุจริตพนักงานสอบสวนน่าจะปลดอายัดให้ แต่หากผู้ประกอบการยังคงทำธุรกิจในรูปแบบเดิมที่รับเงินโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินหรือลูกค้าอย่างดีก็จะยังคงถูกอายัดไปเรื่อย ๆ เพราะเป็นมาตรการสกัดกั้นมิจฉาชีพ 2.แจ้งความในฐานะผู้เสียหายว่าผู้ร้องเองก็ตกอยู่ในฐานะผู้เสียหายด้วยเช่นกัน เนื่องจากธุรกิจของตนเองก็เสียหาย 3.การโอนคดีเสนอให้โอนคดีทั้งหมดมารวมไว้ที่เดียวในฐานะผู้เสียหายร่วมเพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ 4.การอายัดเฉพาะยอดให้จำกัดการอายัดเฉพาะยอดเงินที่ผู้เสียหายร้องเรียนเท่านั้น แทนที่จะอายัดทั้งบัญชี 5.ประสานงานจากส่วนกลางขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประสานงานกับสถานีตำรวจทั่วประเทศให้พิจารณาการปลดอายัดบัญชีในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อผู้ประกอบการเป็นเหยื่อร่วม
.
ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ 1.ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน (Source of Funds) บริษัทฯ จะต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินที่โอนเข้ามาให้ดีให้บริษัทที่รับสินค้าในลาวหรือเวียดนามโอนเงินผ่านบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต Money Transfer เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น ผู้ประกอบการอาจจะต้องลิสต์บัญชีที่ได้รับอนุญาตให้ชาระเงิน (White List) จากคู่ค้าเพื่อลดความเสี่ยงจากการรับเงินจากบุคคลที่ไม่รู้จัก 2.บัญชี White List มีข้อเสนอให้บริษัทฯ ทำรายการบัญชี (White List) ของคู่ค้าที่จะโอนเงินเข้ามาเพื่อรับชำระจากบัญชีที่เชื่อถือได้เท่านั้น KYC ( Know your customer) 3.เปลี่ยนรูปแบบการค้าผู้ประกอบการต้องปรับตัวจากการค้าชายแดนแบบดั้งเดิมไปสู่รูปแบบที่โปร่งใสมากขึ้น 4.การแจ้งเตือนจากธนาคารเสนอให้ธนาคารมีมาตรการแจ้งเตือนเจ้าของบัญชีทันทีเมื่อมีการระงับบัญชีเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันท่วงที 5.การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน หน่วยงานภาครัฐควรเร่งประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่กลุ่มผู้ประกอบการค้าชายแดนเกี่ยวกับความเสี่ยงและวิธีการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ
.
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังเห็นว่า หน่วยงานกำกับดูแล ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสานักงานตำรวจแห่งชาติ ควรมีกลไกกลางในการประสานงานระหว่างกันเพื่อให้การดำเนินคดีมีเอกภาพ ลดภาระผู้ประกอบการ และสร้างความยุติธรรมที่เท่าเทียมกันทั่วประเทศ ตลอดจน ภาครัฐควรมีมาตรการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องธุรกรรมระหว่างประเทศ ความเสี่ยงจากการโอนเงินผิดช่องทาง รวมถึงการปรับตัวเข้าสู่ระบบการค้าที่โปร่งใส เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงทางเทคโนโลยี
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO