เตือนแล้วนะ น้ำมะพร้าวค้างคืนไม่ใช่เย็น ไม่ใช่แค่ท้องเสีย แต่ถึงตายจากเชื้อรา
น้ำมะพร้าวค้างคืนไม่ได้แช่เย็น กินแล้วเสี่ยงไม่ใช่แค่ท้องเสีย แต่เสี่ยงรับเชื้อราสารพิษ อันตรายถึงชีวิตได้
จากประเด็นข่าวของชายชาวเดนมาร์ก วัย 63 ปี ดื่มน้ำมะพร้าวจากลูกที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะอาหารเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ดื่มได้ไม่กี่อึกเท่านั้น เจ้าตัวเริ่มมีอาการผิดปกติอย่างหนัก ไม่ใช่ท้องเสียอย่างที่หลายคนคาด แต่เป็นอาการรุนแรงหลายระบบ โดยรายงานระบุว่าชายคนดังกล่าวเริ่มมีอาการเหงื่อออก คลื่นไส้ อาเจียน เสียการทรงตัว มีไข้สูงเกิน 40 องศาต่อด้วยอาการชักเกร็ง และหมดสติ แพทย์ตรวจเลือดพบมีภาวะกรดเกินและมีแอมโมเนียในเลือดสูง บ่งชี้ว่าเข้าคนไข้เข้าสู่ภาวะตับวาย ซึ่งนำไปสู่สมองบวมอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง และเสียชีวิตในที่สุด
น้ำมะพร้าวเน่าเสีย ไม่ใช่แค่ของเน่าบูดธรรมดา แต่ในน้ำมะพร้าวมีเชื้อราที่ผลิตสารพิษร้ายแรง จนเกิดภาวะตับวาย สมองบวม ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยเชื้อราดังกล่าวมีชื่อว่า Arthrinium saccharicola ซึ่งเชื้อนี้สามารถสร้างสารพิษที่ชื่อว่า 3-nitropropionic acid ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง และก่อให้เกิดอาการสมองบวมอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ นพ.โธมัส เบียร์เคลุนด์ จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก ระบุว่าพิษจากสาร 3-nitropropionic acid นั้นมีฤทธิ์รุนแรงและออกฤทธิ์เร็วมาก ปัจจุบันยังไม่มียาถอนพิษ
สำหรับแนวทางการรักษาหากได้รับสารพิษชนิดนี้ การรักษาจึงเน้นการดูแลตามอาการ เช่น ลดภาวะบวมในสมอง ป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น
วิธีเก็บรักษาน้ำมะพร้าว ให้ได้นานและรับประทานได้อย่างปลอดภัย ควรเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา หากมีการแกะรับประทานแล้วไม่ควรเกิน 1-2 วัน
หรือหากจะยืดอายุการรับประทานออกไปควรแกะเนื้อและเทน้ำใส่ในถูกพลาสติกและแช่ช่องฟรีซในตู้เย็น สามารถเก็บได้นาน 1-2 เดือน
ข้อควรระวัง น้ำมะพร้าวที่รับประทานไม่หมด หรือ ลูกมะพร้าวถูกปลอกเปลือกแล้ว ไม่ควรทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะน้ำมะพร้าวจะบูดเร็วมาก