ทหารไทยเจ็บ 6 ครั้ง! ไทยยื่นออตตาวา–UN เอาผิดกัมพูชาแล้ว
ตลอดช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุที่ทำทหารไทยเหยียบทุ่น จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง มีผู้รับบาดเจ็บสูญเสียอวัยวะ ล่าสุดไทยต้องยกระดับปัญหาสู่เวทีออตตาวา และชี้แจงต่อสหประชาชาติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
นับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน กองทัพไทยเผชิญเหตุทหารเหยียบทุ่น ที่บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาแล้วถึง 6 ครั้ง รวมกำลังพลที่บาดเจ็บสูญเสียอวัยวะ
16 ก.ค. พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ขาขาด ที่เนิน 481 ช่องบก จ.อุบลราชธานี
23 ก.ค. จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญชูหล้า ขาขาด ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี
28 ก.ค. ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร ขาขาด ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์
9 ส.ค. จ.ส.อ.ธานี พาหา ขาขาด ที่รอยต่อโดนเอาว์–กฤษณา จ.ศรีสะเกษ
12 ส.ค. ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขาขาด ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์
27 ส.ค. พลทหารอดิศร ป้อมกลาง ขาขาด ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์
และยังมี จ่าสิบเอก ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัด ร้อย.ร.221 มว.3 ถูกสะเก็ดเข้าบริเวณหลัง บาดเจ็บเล็กน้อย และ พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก ร้อย.ร.221 มว.3 บาดเจ็บที่ข้อมือซ้าย เบื้องต้นกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจากเหตุการณ์ต่อเนื่องดังกล่าว ทำให้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเร่งนำหลักฐานเข้าสู่ที่ประชุมรัฐภาคี อนุสัญญาออตตาวา ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทเพื่อยืนยันว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงด้วยการลอบวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทยเรียบร้อยแล้ว
การประชุมมีผู้แทนกว่า 14 ประเทศ รวมทั้งชาติผู้บริจาคงบประมาณด้านการเก็บกู้ทุ่นของกัมพูชา ต่างแสดงความเสียใจต่อเหตุทหารไทยบาดเจ็บ พร้อมชื่นชมท่าทีไทยที่แม้จะเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่ยังยึดมั่นกติกาสากล ไม่ขยายวงความขัดแย้ง ขณะที่นอร์เวย์ เยอรมนี เบลเยียม และเปรู ออกปากหนุนไทย พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาออกมาชี้แจงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
นอกจากนี้ นายมาริษยังเข้าพบ สำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA), คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) และ นางนาดา อัล-นาชิฟ รองข้าหลวงใหญ่ เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อย้ำจุดยืนว่าไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศมาตลอด แม้เผชิญการรุกล้ำและ “สงครามข่าวสาร” จากกัมพูชา แต่ไทยเลือกใช้สันติวิธี และผลักดันการเจรจาทวิภาคีภายใต้ MOU43
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศยังทิ้งท้ายว่า บทสนทนาในเจนีวาครั้งนี้ถือเป็น “สัญญาณบวก” ที่ทำให้ยูเอ็นและชาติภาคีเข้าใจสถานการณ์ของไทยมากขึ้น ทพร้อมสะท้อนความพยายามแก้ปัญหาด้วยสันติและความจริงใจ
นี่คือเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น การสูญเสียของทหารไทยครั้งแล้วครั้งเล่า ย่อมเป็นสัญญาณเตือนให้ภาครัฐต้องจริงจังและเข้มข้นขึ้น ในการปกป้องชีวิตกำลังพลและความมั่นคงของชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews