SEI จังหวะเข้าลงทุน ภาพรวมทั้งปีสุดปัง!
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น- บล.หยวนต้า ประเมินหุ้น SEI โดยคาดกำไร 2Q25 ที่ 8 ล้านบาท -64%QoQ,-49%YoY สาเหตุหลักเนื่องจากการที่คำสั่งซื้อถูกเลื่อนไปรับรู้เร็วขึ้นใน 1Q25 ทำให้รายได้ -29%QoQ,-15%YoY เป็น 105 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการรุกสินค้าใหม่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับห้อง ICU (Intensive Care Unit) และเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการช่วยหายใจ ภาพรวม 1H25 คาดเติบโตเด่น YoY จากกลุ่มเครื่องมือแพทย์ หากดูภาพรวมใน 1H25 คาดบริษัทมีรายได้ 252 ล้านบาท +27%YoY และกำไร 30 ล้านบาท+51%YoY ซึ่งคิดเป็น 50% ของประมาณการของเรา ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต ได้แก่
1) การเติบโตดีต่อเนื่องของรายได้ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ วัสดุสิ้นเปลือง เนื่องจากงบประมาณภาครัฐที่ได้รับอนุมัติมากขึ้น
2) ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น YoY นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในบริหารจัดการต้นทุน โดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 1H24 ที่ 15.6% เป็น 18.2%
คงประมาณการกำไรทั้งปี แนวโน้ม 2H25 ใกล้เคียงครึ่งปีแรก
แนวโน้มกำไรใน 2H25 คาดใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่ 30 ล้านบาท ภาพรวมปี 2025 เราคงประมาณการ กำไรที่ 60 ล้านบาท +12%YoY ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต 1) การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ -วิทยาศาสตร์การแพทย์และ Health & Wellness ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน คาดว่ารัฐบาลจะมีการจัดสรรงบในส่วนนี้มากขึ้น
และ 2) ปีนี้มีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ จากเดิมที่มี 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (กลุ่มทารกแรกเกิด, กล้องส่องตรวจ, ผ่าตัด, อุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์, ผลิตภัณฑ์ความงาม) เพิ่มเป็น 6 กลุ่ม โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับห้องไอซียู ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ มูลค่าตลาดประมาณ 5,000 ล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 6% ต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
3) ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจเป็น 25 แบรนด์ครอบคลุมทั่วโลก จากปัจจุบันมีพันธมิตรอยู่ 17 แบรนด์ที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และจีน 4) ประสิทธิภาพในการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่ม และการขยายฐานรายได้ในกลุ่มสินค้าสิ้นเปลืองที่มีอัตรากำไรที่สูง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคายังไม่สะท้อนพื้นฐานที่ดี
แม้ผลประกอบการใน 2Q25 จะชะลอตัว แต่เป็นเพราะคำสั่งซื้อปีนี้ไปตกอยู่ในไตรมาสแรก ภาพรวมทั้งปี รายได้และกำไรยังเติบโตดีตามที่เราคาดไว้ ขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลงตามตลาด เรามองเป็นจังหวะเข้าลงทุน เราคงมูลค่าพื้นฐานที่ 5.98 บาท อิง PER ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่ 17x