UN เตือน “ความร้อนสุดขั้ว” ฉุดผลิตภาพแรงงานลด 2–3% ต่อทุก 1°C เสี่ยงสุขภาพทรุด
UN ชี้อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทำให้ผลิตภาพแรงงานลดลง 2–3% ต่อทุก 1°C ที่เกิน 20°C แรงงานกว่า 2.4 พันล้านคนเสี่ยงเครียดจากความร้อน ประเทศกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายงานการศึกษาใหม่ของสหประชาชาติ (UN) ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ระบุว่าอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นกำลังเพิ่มความเสี่ยงต่อ ประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพของแรงงาน อย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์จากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) พบว่า ทุก ๆ องศาที่สูงกว่า 20 องศาเซลเซียส จะทำให้ผลิตภาพแรงงานลดลง 2–3% ขณะเดียวกันแรงงานกว่าหนึ่งในสามที่ต้องทำงานในสภาพอากาศร้อนบ่อยครั้งมีอาการเครียดจากความร้อน (heat strain) ซึ่งสัมพันธ์กับความผิดปกติของไต ภาวะขาดน้ำ และความผิดปกติทางระบบประสาท
ตามข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) มีแรงงานทั่วโลกมากกว่า 2.4 พันล้านคน เผชิญความเสี่ยงจากภาวะความเครียดจากความร้อนในที่ทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านการเกษตร ก่อสร้าง และงานที่ใช้แรงกายหนัก
รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของ WHO กล่าวว่า “ความร้อนสุดขั้วเป็นวิกฤตสาธารณสุขกำลังทำลายสุขภาพและวิถีชีวิตของแรงงานนับพันล้านคนทั่วโลก”
พร้อมเสริมว่ากลุ่มประชากรในประเทศกำลังพัฒนาจะ เปราะบางกว่ามาก เพราะขาดแคลนการเข้าถึงระบบทำความเย็น การรักษาพยาบาล และนโยบายคุ้มครองแรงงาน
ข้อมูลบางชุดบ่งชี้ว่า 15% ของแรงงานที่ทำงานท่ามกลางความร้อนวันละ 6 ชั่วโมงขึ้นไป ติดต่อกันอย่างน้อย 2 เดือน มีปัญหาไต โดยในปี 2563 มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจากความเครียดความร้อนที่ทำงานถึง 26.2 ล้านคน
รายงานนี้ถือเป็นการอัปเดตหลักฐานที่ครอบคลุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1969 เกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อแรงงาน โดยพบว่าประมาณ 30% ของผู้ที่ทำงานในสภาพความเครียดจากความร้อนรายงานว่ามีผลิตภาพการทำงานลดลง
อ้างอิง : bloomberg.com