KCE กำไร Q2 ร่วง 71% เหลือ 182 ล. ดีมานด์ลด–บาทแข็งกดดัน
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - KCE เผยกำไร Q2/68 วูบ 71% เหลือ 182 ลบ. รับผลดีมานด์โลกซบ–บาทแข็ง กดรายได้ พร้อมชะลอแผนสร้างโรงงานใหม่ ใช้กำลังผลิตเดิมให้เต็มประสิทธิภาพ เดินหน้าคุมต้นทุน–รักษาฐานลูกค้า และประกาศปันผล 0.60 บ./หุ้น XD 26 ส.ค. นี้
นางวรลักษณ์ องค์โฆษิต รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ขอเรียนชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 ของบริษัทและบริษัทย่อย (กลุ่มบริษัท) ตามงบการเงินรวมสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านการสอบทานแล้ว ปรากฏว่ากลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 3,343.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 182.1 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีรายได้รวมจำนวน 4,246.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 635.1 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/2568 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรลดลง ได้แก่ การรับรู้รายได้ที่ลดลงจากการปรับลดราคาขาย การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และคำสั่งซื้อจากลูกค้าหลักในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัว
โดยสรุป ผลประกอบการที่ลดลงในไตรมาสนี้มีสาเหตุจากภาวะอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มบริษัทโดยตรง นอกจากนี้ การใช้กำลังการผลิตที่ไม่เต็มประสิทธิภาพในไตรมาสนี้ยังส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรอีกด้วย
ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 0.15 บาท กลุ่มบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มคำสั่งซื้อของลูกค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาและผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออก
เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของการประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา บริษัทขอชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกา
ปัจจุบัน การขายในภูมิภาคอเมริกาคิดเป็นประมาณ 21% ของรายได้รวมของบริษัท โดยแบ่งเป็นลูกค้าในสหรัฐอเมริกาประมาณ 15% และอีก 6% มาจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน
แม้จะมีการประกาศเพิ่มอัตราภาษีจากทางการสหรัฐฯ บริษัทยังไม่ได้รับสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับการลดลงของปริมาณคำสั่งซื้อ หรือแรงกดดันด้านราคาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงภาษีดังกล่าว เนื่องจากแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ยังคงเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ ลูกค้าจึงยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพที่สม่ำเสมอของสินค้าและบริการของบริษัท ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญต่อกระบวนการผลิตของลูกค้า
การลดลงของยอดขายในภูมิภาคอเมริกาในไตรมาส 2/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 ไม่ได้เกิดจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกา แต่เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่ลดลงจากประเทศอื่น ๆ เช่น บราซิลและเม็กซิโก ส่วนหนึ่งเนื่องจากแผนการบริหารจัดการสินค้าคงคลังภายในของลูกค้าเหล่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายใหม่จากสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้ามาเยี่ยมชมโรงงานและขอให้ทำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท แม้ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการสื่อสารและติดตามสถานการณ์กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาวจะยังคงได้รับการยอมรับ
บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าการมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน และสามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ แม้ในสภาวะที่มีความท้าทายจากการค้าโลกก็ตาม
ความคืบหน้าแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่
จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก รวมถึงภาวะการชะลอตัวของความต้องการในตลาดโดยรวม บริษัทได้มีการทบทวนกลยุทธ์การลงทุนใหม่ในส่วนของแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่
ปัจจุบัน โรงงานทั้งในกรุงเทพฯ และพระนครศรีอยุธยาของบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำกว่า 70% ของกำลังการผลิตรวม ดังนั้น บริษัทจึงได้พิจารณาอย่างรอบคอบและตัดสินใจชะลอแผนการก่อสร้างโรงงานใหม่ออกไปก่อน เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และรักษาความสามารถในการควบคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ จากการทดสอบและเลือกใช้เครื่องจักรในระหว่างการพัฒนาที่โรงงานเดิม ทำให้บริษัทได้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ ซึ่งนำไปสู่การทบทวนแผนการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับโรงงานใหม่ โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของสายการผลิตและการออกแบบระบบสาธารณูปโภคให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการลงทุนรวมของโครงการได้อย่างมาก หากมีการกลับมาเริ่มโครงการอีกครั้งในอนาคต
ทั้งนี้ การนำเข้าเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า ยังช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งการปรับเปลี่ยนสู่ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมากขึ้น ยังเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถรองรับความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในตลาด
ในช่วงเวลานี้ บริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภายในโรงงานที่มีอยู่เป็นลำดับแรก การชะลอการลงทุนในโรงงานใหม่ยังสะท้อนถึงการบริหารต้นทุนการผลิตและต้นทุนทางการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาข้อได้เปรียบด้านต้นทุนในการแข่งขันในอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้าปัจจุบัน และแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเจาะตลาดเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการขยายโรงงานแห่งใหม่ บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.60 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 26 ส.ค. 2568 และวันที่จ่ายปันผล : 10 ก.ย. 2568