นายกฯ ออสเตรเลียเซ็ง “ไม่มีที่ไหนในโลกปลอดภัย” หลังเกาะร้างไร้คนมีแต่ ‘เพนกวิน’ ก็ไม่รอดภาษีทรัมป์ 10%
(14 ก.ค. 68) เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกโดนัลด์ ซึ่งเป็นดินแดนห่างไกลของออสเตรเลียใกล้ทวีปแอนตาร์กติกา ถูกสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นบัญชีเก็บภาษีนำเข้า 10% แม้จะไม่มีประชากรอาศัยอยู่เลย และมีนักสำรวจเดินทางไปเยือนครั้งสุดท้ายเมื่อราว 10 ปีก่อนก็ตาม โดยเกาะเหล่านี้มีลักษณะเป็นภูเขาไฟปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และเป็นถิ่นอาศัยของเพนกวินและแมวน้ำเท่านั้น
นอกจากเกาะที่ไม่มีคนอยู่ ข้อมูลของทำเนียบขาวยังแยกดินแดนภายนอกของออสเตรเลีย เช่น เกาะคริสต์มาส เกาะโคคอส และเกาะนอร์ฟอล์ก ออกจากออสเตรเลียแผ่นดินใหญ่ พร้อมกำหนดอัตราภาษีแตกต่างกัน โดยเกาะนอร์ฟอล์กซึ่งมีประชากรราว 2,000 คน ถูกเก็บภาษีสูงถึง 29% ทั้งที่ส่งออกสินค้าหลักไปยังสหรัฐฯ แค่รองเท้าหนังเพียงไม่กี่แสนเหรียญ
นายจอร์จ แพลนต์ (George Plant) ผู้ดูแลเกาะนอร์ฟอล์ก แสดงความแปลกใจต่อข้อมูลของสหรัฐฯ โดยระบุว่า “ไม่มีการส่งออกจากเกาะไปยังสหรัฐฯ เลย” ขณะที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบาเนซี (Anthony Albanese) กล่าวประชดนโยบายดังกล่าวว่า “ไม่มีที่ไหนในโลกที่ปลอดภัยจากภาษีทรัมป์อีกแล้ว”
ข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่าสหรัฐฯ เคยนำเข้าสินค้ามูลค่ากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกโดนัลด์ในปี 2022 โดยส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ไม่มีการอธิบายชัดเจนว่าสินค้าเหล่านั้นมาจากไหนหรือเป็นอะไร ขณะที่ก่อนหน้านี้ตลอด 5 ปี ตัวเลขนำเข้าเฉลี่ยต่อปีจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ที่เพียงหลักหมื่นถึงไม่เกินครึ่งล้านดอลลาร์เท่านั้น