ก.ล.ต.-SET ประสานเสียงภาษีทรัมป์ 19% เป็นข่าวเชิงบวก

ก.ล.ต.-SET ประสานเสียงภาษีทรัมป์ 19% เป็นข่าวเชิงบวก นำความแน่นอนกลับสู่ตลาดทุนไทย

วันที่ 1 ส.ค. 2568 นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้มุมมองต่ออัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากไทยในอัตรา 19% ว่า เป็นข่าวเชิงบวกต่อตลาดทุนไทย เนื่องจากเป็นการนำความแน่นอนกลับสู่ตลาดทุน และเมื่อพิจารณาอัตราภาษี ถือได้ว่าเป็นอัตราภาษีที่อยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่พึ่งพาการส่งออกเช่นเดียวกัน และอาจมีเงื่อนไขที่สร้างสมดุลได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทย ชื่นชมและขอบคุณทีมไทยแลนด์และผู้ที่เกี่ยวข้องที่สามารถบรรลุผลภายใต้เงื่อนไข ระยะเวลาจำกัด เน้นการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมาที่ตลาดทุนไทยร่วมกับ ปัจจัยบวกอื่น เช่น จากเงินทุนต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามา รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่หลายสำนักวิเคราะห์ปรับมุมมองเป็นบวกมากขึ้น ในภาพรวม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของครึ่งปีหลังในปีนี้ ซึ่งจะมีความแน่นอนมากขึ้น และถือเป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วนจะปรับตัวเพื่อเสริมสร้างจุดแข็ง

"สำหรับมาตรการกระตุ้นตลาดทุนไทย ล่าสุด ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เป็นต้น ได้ร่วมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณามาตรการปฏิรูปตลาดทุนไทย (Taskforce) เพื่อเจาะมาตรการหรือหาแนวทางในการสร้างเสน่ห์ให้ตลาดทุนไทยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานผ่านการยกระดับคุณภาพผู้มีส่วนร่วมในตลาด และการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน โดยได้มีการประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง คาดว่าจะมีผลสรุปออกมาเป็นรูปธรรมในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้" เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เปิดเผยว่า การบรรลุข้อตกลงของรัฐบาลไทยด้านภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal) กับสหรัฐฯ ที่อัตรา 19% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (1 ส.ค. 2568) จากเดิมที่จะมีการจัดเก็บในอัตราสูงถึง 36% ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุน และถือเป็นระดับที่สามารถแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง

ทั้งนี้ต้องขอบคุณทีมงานรัฐบาลไทย ที่ช่วยผลักดันให้เกิดความชัดเจนในประเด็นภาษีนี้ ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจของไทย

นายอัสสเดช กล่าวด้วยว่าอัตราภาษีที่ 19% เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์ผลกระทบในเชิงลึก โดยเฉพาะต่อกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีอยู่ 900 บริษัท โดยพบว่า รายได้จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีสัดส่วนเพียง 2% ของรายได้รวม จึงคาดว่าผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทจดทะเบียนจะอยู่ในระดับจำกัด ขณะเดียวกนตลาดหลักทรัพย์เตรียมติดตามรายละเอียด เพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนข้อมูลและบทวิเคราะห์ เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถประเมินโอกาสและความเสี่ยงได้อย่างรอบด้านมากขึ้นในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันที่ 1 ส.ค 2568 โดยเปิดการซื้อขายภาคเช้าดัชนีอยูในแดนบวกได้เพียงครึ่งชั่วโมงแรกของการซื้อขาย หลังจากนั้นทยอยปรับตัวลดลงและอยู่ในแดนลบตลอดการซื้อขาย ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,218.33 จุด โดยปรับตัวลดลง 24.02 จุด หรือ -1.93% ทั้งนี้ดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,255.39 จุด และ ดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ 1,217.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 54,586.68 ล้านบาท ขณะที่การซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุน โดยนักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 1,919.25 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 475.17 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,919.25 ล้านบาท ขณะที่นกลงทุนรายย่อยในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,293.22 ล้านบาท

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ก.ล.ต.-SET ประสานเสียงภาษีทรัมป์ 19% เป็นข่าวเชิงบวก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th