โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สรุปตัวเลข "ภาษีทรัมป์" 10 ชาติอาเซียน ไทยเกาะกลุ่มหัวแถว 19% แลก "เปิดตลาด-นำเข้า-ลงทุน"

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สรุปตัวเลข

สรุป "ภาษีทรัมป์" 10 ชาติอาเซียน *ประกาศทำเนียบขาวล่าสุด 1 สิงหาคม 2568

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 (ตามเวลาประเทศไทย) รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกประกาศการแก้ไขอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยทำเนียบขาวระบุว่าประเทศไทยถูกจัดเก็บอัตราภาษีที่ 19% ลดลงจากระดับเดิมที่ 36% ซึ่งจะมีผลหลังจากการประกาศภายใน 7 วัน นอกจากนี้ คำสั่งระบุว่าสินค้าที่ถูกขนขึ้นเรือก่อนวันที่ 7 สิงหาคม 2568 และเข้ามายังสหรัฐฯ เพื่อการอุปโภคบริโภคภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2568 จะไม่ถูกเก็บภาษีอัตราใหม่

พร้อมกันนี้ในประกาศของทำเนียบขาวยังมีกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม กรณีพบว่าประเทศใดกลายเป็นแหล่งสวมสิทธิ์ (Transshipment) ถ่ายโอนสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษี 40% และมีบทลงโทษอื่นเพิ่มเติมตามอีกด้วย

ทั้งนี้เมื่อจัดเรียงตามลำดับ ในกลุ่มชาติอาเซียน จะพบว่าประเทศไทยมีอัตราภาษีในระดับกลางเกาะอยู่ในกลุ่มภูมิภาค คือ อัตราภาษี 19 % เท่ากับ กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนเวียดนาม ได้อัตราภาษีที่ 20%, ตามมาด้วยบรูไน ที่ 25% โดยมีเมียนมาและลาว ที่โดนหนักที่สุดในกลุ่ม อยู่อันดับท้ายสุดของตาราง จากการโดนเรียกเก็บภาษีมากถึง 40% ขณะที่ประเทศที่ถูกเรียบเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำที่สุดในอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ คือ 10% ซึ่งเป็นอัตราภาษีดั้งเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่การประกาศครั้งแรกในวันปลดปล่อยเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา

อ้างอิง เอกสารทำเนียบขาว : https://www.whitehouse.gov/presidential-actions/2025/07/further-modifying-the-reciprocal-tariff-rates/

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาของไทย หรือ "ทีมไทยแลนด์" เปิดเผยรายละเอียดการดีลภาษีครั้งนี้ ว่ามีข้อตกลงหลักๆทั้งหมด 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่

1. อัตราภาษีนำเข้า : เปิดตลาดนำเข้าภาษี 0% ให้กับสหรัฐฯ ด้วยสินค้าที่ไทยมีความพร้อม คือ กลุ่มของสินค้าที่ไทยได้ทำข้อตกลงการค้า FTA กับประเทศอื่นอยู่แล้ว และกลุ่มที่ไทยผลิตและใช้เองในประเทศไม่พอ ทั้งนี้บางรายการจะไม่ได้มีผลบังคับใช้ทันที โดยได้มีการขอเวลา 3-5 ปีก่อนจะเป็น 0%

2. นำเข้าสินค้าจากสหรัฐ : ที่ผ่านมาไทยมีการนำเข้าจากสหรัฐฯ อยู่แล้วประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากนี้จะนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย และเป็นการนำเข้าเพื่อแปรรูปและส่งออก

- นำเข้าเครื่องบินจากสหรัฐฯ โดยการบินไทยได้มีแผนการซื้ออยู่แล้ว จะนำเข้ามาเพิ่มอีก 80-90 ลำภายใน 10 ปี

- นำเข้าพลังงาน ไทยมีความต้องการใช้นำมันดิบอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน จะนำเข้าจากสหรัฐฯ ประมาณ 10% จากที่ซื้อจากทั่วโลก สัญญาแรกจะเริ่มในปี 2569

- ภาคการเกษตร เช่น หมูจะเปิดตลาดให้กับสหรัฐฯ ไม่ถึง 1% ของการบริโภคทั้งหมดในประเทศ ไม่รวมเครื่องในสัตว์ พร้อมตรวจสารเร่งเนื้อแดง

3. ไทยเข้าลงทุนในสหรัฐฯ : จะพิจารณาลงทุนในกลุ่มที่ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น เกษตรแปรรูป และพลังงาน

4. ข้อตกลงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี : แก้กฎระเบียบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการนำเข้าส่งออกมากขึ้น สัดส่วนมูลค่าเพิ่มภายในภูมิภาค (Regional Value Content) หรือ สัดส่วนวัตถุดิบภายในประเทศ ( Local Content ) ยังไม่มีความชัดเจนต้องเจรจากันต่อ

ทั้งนี้นายพิชัย ยืนยันว่า ในการดีลภาษีครั้งนี้ไม่มีประเด็นการให้สัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติและเรื่องความมั่นคงกับสหรัฐฯ การเจรจามุ่งเน้นแต่เรื่องเศรษฐกิจและการค้าเท่านั้น ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมมาตรการรองรับผลกระทบอย่างรอบด้าน ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการและเกษตรกร พร้อมเปิดเผยว่าปัจจุบันนี้ รัฐบาลยังมีงบประมาณในการช่วยผู้ประกอบการส่งออกที่ได้ปรับการผลิตลดลง การส่งออกที่ชะลอลง โดยยึดหลักทำให้เกิดการจ้างงาน โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ขณะที่เรื่องอัตราดอกเบี้ยโนบายนั้น นายพิชัยกล่าวว่า ให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลต่อทั้งเรื่องปริมาณเงิน อัตราแลกเปลี่ยน แต่ย้ำกว่าตอนนี้รัฐบาลได้ให้ข้อมูลไปเยอะ ธนาคารแห่งประเทศไทยทำงานใกล้ชิดกัน ก็คงจะได้เห็นสถานการณ์แล้วว่าตอนนี้ผู้ส่งออกต้องการอะไร

ด้านภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหอการค้าไทย ต่างก็ประสานเสียง ชื่นชมการทำงานของทีมไทยแลนด์ และเชื่อมั่นว่า ภาษี 19% ยังอยู่ในระดับที่ประเทศไทยยังสามารถแข่งขันได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ยุน ซ็อก-ยอล "ถอดเสื้อผ้าประท้วง" ปฏิเสธการสอบสวน ปมประกาศกฎอัยการศึก

33 นาทีที่แล้ว

“โค้ชมิเกล” มั่นใจ ทีมฟุตซอลไทย ทะลุรอบชิงฯ ศึกคอนติเนนตัลฯ แชมเปี้ยนชิพ

37 นาทีที่แล้ว

โอเปกพลัสจ่อเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันอีก 5.48 แสนบาร์เรล/วัน ก.ย.นี้

42 นาทีที่แล้ว

ญี่ปุ่นย้ำปลอดภัย ไม่มีภัยสึนามิจากภูเขาไฟเลโวโตบีปะทุ

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 ชูนวัตกรรมอาหาร-สุขภาพ พลิกบทบาท อาหารคือยา เสริมทัพ Thailand LAB 2025 ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคจากอาหารฟังก์ชันสู่ IoMT และ AI ด้านสุขภาพ

Positioningmag

AXA เผยผลวิจัย “ฮีทสโตรก คุกคามแรงงานและเศรษฐกิจโลก”

การเงินธนาคาร

ดร.นิเวศน์ แนะรัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่น "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามค้า"

TNN ช่อง16

mr.big เปิดตัวหนังสือเล่มแรก “นอนก่อน ดีกว่า” หนังสือชวนหลับ ชวนพักสายตาจากหน้าจอ แล้วนอนดีขึ้นได้…แค่เริ่มอ่าน!

Positioningmag

“เอกนัฏ”เร่งขยายผลลักลอบฝังกลบขยะพิษ 2แปลงที่ฉะเชิงเทรารวม 7หมื่นตัน

Manager Online

วอลโว่ จัดโปรแกรมฯอะไหล่ สร้างความอุ่นใจให้ลูกค้า

เดลินิวส์

‘ทรูวิชั่นส์ นาว’ โฉมใหม่ ปรับราคาเข้าถึงง่าย ดูได้ครบ ตั้งเป้าปีนี้ลูกค้าเพิ่ม 50%

TODAY Bizview

UTA ยอมรัฐขยายออก NTP สร้างสนามบินอู่ตะเภากลางส.ค.นี้ รออีอีซีชงครม.เจรจาสัญญา

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ คืออะไร? เข้าใจง่าย ฉบับ 101

TNN ช่อง16

"อมรเทพ" มอง "ภาษีทรัมป์" ดีเกินคาด ชี้ 7 โอกาส "เศรษฐกิจไทย" สร้างงจุดขาย-แข่งขันได้-รอดถดถอย

TNN ช่อง16

"ภาษีทรัมป์" 19% หนุน SET เด้ง 1,260 "หยวนต้า" แนะเก็บหุ้น Laggard กลุ่ม

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...