RT เตรียมประมูลชิงงานใหม่ 7,500 ล้านบาท มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง 68 เติบโตดี
RT เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 68 ฟื้นตัวชัด เตรียมส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ รับรู้รายได้จาก Backlog ต่อเนื่อง เดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน ตั้งเป้ารับงานใหม่ปีนี้มูลค่ารวมกว่า 7,500 ล้านบาท ขยายพอร์ตงานซ่อมแซมและบำรุงรักษา เสริมรายได้ กระจายความเสี่ยง พร้อมพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานท่ามกลางปัจจัยกดดัน เชื่อผลประกอบการทั้งปีรักษาการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีก่อน
[caption id="attachment_181346" align="aligncenter" width="562"]
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน)[/caption]
30 มิถุนายน 2568 นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า
ทิศทางการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเตรียมส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ ขนาดบานระบาย 15.00 x 13.20 เมตร จำนวน 5 ช่อง และอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และสามารถทยอยรับรู้รายได้งานก่อสร้างในมือ โดยเฉพาะงาน Slope Protection ที่มีลักษณะการดำเนินงานระยะสั้น สามารถส่งมอบงานและรับรู้รายได้รวดเร็ว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จากภาครัฐและเอกชน มุ่งเน้นการรับงานที่ครอบคลุมและหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ งานอุโมงค์รถไฟทางคู่ งานอุโมงค์ในดิน งานระบบบำบัดน้ำเสีย
รวมถึงแผนขยายขอบเขตการรับงานประเภทงานซ่อมแซมและบำรุงรักษามากขึ้น โดยเฉพาะงานซ่อมเขื่อน ซึ่งเป็นงานที่มีระยะเวลาดำเนินการสั้น และมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มรายได้อย่างสม่ำเสมอ และช่วยกระจายความเสี่ยงจากโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างครึ่งปีหลัง 2568 เป็นช่วงที่ภาครัฐเปิดประมูลงานอย่างต่อเนื่อง จากการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2568 และการเตรียมความพร้อมของงบประมาณปี 2569 ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการเข้ารับงานด้วยความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเฉพาะทาง บุคลากร เครื่องจักร และอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีมาตรฐาน โดยบริษัทตั้งเป้ามูลค่างานเข้าประมูลในปีนี้ที่ประมาณ 7,500 ล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค. 2568 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 5,100 ล้านบาท” นายชวลิต กล่าว
นายชวลิต กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยกดดันหลายด้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพภายในองค์กรอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการดำเนินงานก่อสร้าง การวางแผนการสั่งซื้อวัสดุเพื่อบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการโครงการให้สามารถดำเนินงานได้ตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และรักษาระดับผลประกอบการให้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา