ไทยครองแชมป์เมืองหลวงอาหารเอเชีย-แปซิฟิก ดันเป้าศูนย์กลางอาหารโลกปี’69
จากผลสำรวจบนแพลตฟอร์ม Traveloka พบว่า ไทยครองกว่า 80% ของประสบการณ์อาหารที่มีการค้นหาสูงสุดในภูมิภาค กรุงเทพฯ นำโด่งด้วยดินเนอร์ล่องเรือ-รูฟท็อป-โอมากาเสะ ขณะที่ ททท. เดินหน้าแคมเปญ “Gastro Nomad” ดันเมืองรองรับฤดูฝน ตั้งเป้าดึง 10 ล้านนักชิมเข้าประเทศ
ประเทศไทยรับบทบาท “เมืองหลวงแห่งอาหาร” ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวสายกินจากทั่วภูมิภาคและทั่วโลก โดยจากการจัดอันดับยอดค้นหาบนแพลตฟอร์ม ทราเวลโลก้า (Traveloka) พบว่า กว่า 80 อันดับจาก 100 อันดับแรกของประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีการค้นหาสูงสุดในภูมิภาค อยู่ในประเทศไทย ถือเป็นสัญญาณดีที่บ่งบอกว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่แข็งแกร่ง และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอาหารระดับโลกภายในปี 2569
กรุงเทพฯ แหล่งแม่เหล็กดึงดูดความสนใจจากนักชิมทั่วโลก
กรุงเทพฯ ครองตำแหน่งผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกว่า 60% ของประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มที่ติดอันดับ Top 100 บนTraveloka อยู่ในกรุงเทพฯ หมวดหมู่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่
- การรับประทานอาหารสุดหรู ผสานศิลปะ และความหลากหลาย
นักท่องเที่ยวยุคใหม่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่าง โดยเฉพาะหมวดหมู่บุฟเฟต์ระดับพรีเมี่ยม โอมากาเสะ และชายามบ่าย ซึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ Miracle Lounge สนามบินดอนเมือง, W Omakase, YOU&I Premium Shabu Buffet สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, Wisdom International Buffet และ Copper Aquarium เป็นต้น
- ดินเนอร์บนเรือสำราญ
การล่องเรือสำราญบนแม่น้ำเจ้าพระยากลางกรุงเทพฯ พร้อมมื้อค่ำสุดโรแมนติกในยามค่ำคืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบความหรูหรา การเสิร์ฟอาหารชั้นเยี่ยมพร้อมวิวเมืองและดนตรีสด อย่าง Meridian Dinner Cruise, Royal Princess Cruise, Chaophraya Cruise, White Orchid Cruise และ Chao Phraya Princess Dinner Cruise
- ร้านอาหารและบาร์บนรูฟท็อป
วิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ เติมเต็มบรรยากาศให้กับมื้อค่ำสุดพิเศษจากร้านอาหารและบาร์บนรูฟท็อป เสิร์ฟค็อกเทลสูตรเฉพาะ เมนูอาหารรังสรรค์พิเศษ โดยร้านยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ได้แก่ Sky on 20, Vertigo Rooftop โรงแรมบันยันทรี, Sirocco โรงแรม Lebua, Red Sky Rooftop, Axis & Spin และอีกมากมาย
นอกจากกรุงเทพฯแล้ว ข้อมูลจาก Traveloka พบว่า พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และหัวหิน ก็ยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในแง่ของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร สะท้อนถึงความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวสายกินในประเทศไทย
ประเทศอื่น ๆ ที่ติดอันดับTop 100
- เวียดนาม มาเป็นอันดับสอง โดยเว้และนิงห์บิงได้รับความนิยมด้านอาหารท้องถิ่นและบุฟเฟต์พื้นบ้าน
- ญี่ปุ่น และ มาเก๊า ครองอันดับสาม โดยญี่ปุ่นโดดเด่นเรื่องยากินิกุ และบาร์บีคิวระดับไฮเอนด์ในโตเกียว ขณะที่มาเก๊าโดดเด่นเรื่องอาหารลูกผสมระหว่างวัฒนธรรมโปรตุเกสและจีน
- อินโดนีเซีย ลาว ฝรั่งเศส กวม และฮ่องกง ก็ติดอันดับด้วยเช่นกัน ได้รับความสนใจจากอาหารเฉพาะถิ่น ชี้แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
เบื้องหลังความมุ่งมั่นในการผลักดันยุทธศาสตร์ด้านอาหารของประเทศไทย
ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายกินอย่างต่อเนื่อง โดยผู้คนจำนวนมากตั้งใจเดินทางมาเพื่อสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมอาหารโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเดินทาง
แนวโน้มนี้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของภาครัฐที่มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับโลก โดยตั้งเป้ารายได้จากการค้าขายอาหารจะเกิน 7 แสนล้านบาท (ประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2568
ขณะเดียวกัน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอาหารจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% จากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าอย่างจริงจังในการโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยจัดแคมเปญ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ในช่วงฤดูฝน (Green Season ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน 2568) ส่งเสริม 55 เมืองรองผ่านธีมต่าง ๆ เช่น “Gastro Nomad #ตามหารส” สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการกิน โดยมีเป้าหมายเข้าถึงนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ล้านคน และสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ในฐานะแพลตฟอร์มท่องเที่ยวแบบครบวงจรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Traveloka มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารของประเทศไทย ด้วยการจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ พร้อมดีลสุดพิเศษและกิจกรรมที่คัดสรรเฉพาะมาอย่างดี
สำหรับ Traveloka การท่องเที่ยวเชิงอาหารไม่ได้หยุดนิยามแค่ “เรื่องการกิน” แต่คือประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ชุมชน และความทรงจำอันมีคุณค่า ซึ่งอาหารไทยตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่อย่างลงตัว ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ความคุ้มค่า และความหลากหลายที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่แท้จริงและยากจะลืมเลือน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไทยครองแชมป์เมืองหลวงอาหารเอเชีย-แปซิฟิก ดันเป้าศูนย์กลางอาหารโลกปี’69
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net