ว่าที่ทูตสหรัฐฯ ลั่นจะกดดันไทยให้ยุติความขัดแย้งกับกัมพูชา ขู่ว่าจะกระทบ"พันธมิตรของไทยกับสหรัฐฯ"
สำนักข่าว Reuters ได้สัมภาษณ์ ฌอน โอ'นีล (Sean O'Neill) ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดย โอ'นีล กล่าววว่า หากตนได้รับการแต่งตั้ง ตนก็จะแจ้งต่อรัฐบาลไทยว่า ความขัดแย้งต่างๆ ที่ไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น การปะทะบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ได้ช่วยอะไรต่อชาวไทย หรือความเป็นพันธมิตรของไทยกับสหรัฐฯ เลย
Reuters ได้ซักถาม โอ'นีล ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้การหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชากลายเป็นข้อตกลงสันติภาพระยะยาว โอนีลกล่าวว่า "ผมคิดว่าสิ่งแรกที่ผมจะทำคือการชี้ให้ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสนธิสัญญาเพียงไม่กี่ประเทศในเอเชีย เห็นว่าสงครามเช่นนี้ ความขัดแย้งเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยประชาชนของพวกเขาเลย
"พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรของเรา (สหรัฐฯ) พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญอยู่ พวกเขาเป็นเพียงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่จำเป็น" โอ'นีล กล่าว
นอกจากจะแทรกแซงกิจการของไทยกับกัมพูชาแล้ว โอ'นีล ยังเพ่งเล็งท่าทีของไทยต่อเมียนมาด้วย โดยเขากล่าวว่าประเทศไทยไม่ควรให้ความชอบธรรมแก่รัฐบาลทหารในเมียนมา โดยเขาบอกว่า ถ้าเขาได้รับการยืนยันว่าจะได้เป็นเอกอัคราชทูตประจำประเทศไทย เขาจะสนับสนุนให้ประเทศไทยอย่ายอมรับการเลือกตั้งในเมียนมาที่ไม่มีประชาชนเข้าร่วมกว่าร้อยละ 50 ขณะที่แกนนำฝ่ายค้านเมียนมาส่วนใหญ่ยังอยู่ในคุก
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า ฌอน โคทาโร โอ'นีล เป็นสมาชิกอาวุโสประจำกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศแก่ผู้บัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯ ตำแหน่งล่าสุดของเขาคือเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำสำนักงานกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2568 โดยดูแลตำแหน่งทางการทูตกว่า 40 ตำแหน่งทั่วเอเชียตะวันออก
โอ'นีลเคยรับราชการทางการทูตในประเทศไทยสองครั้ง คือ ในตำแหน่งกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ และก่อนหน้านี้ในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยการเมืองและการทหารประจำสถานทูตกรุงเทพฯ รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศอีกหกครั้ง ซึ่งรวมถึงบังกลาเทศ อัฟกานิสถาน พม่า และฮ่องกง
หน้าที่ในประเทศของ โอ'นีล ได้แก่ การดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติในคณะทำงานของประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เขาเคยทำงานเป็นทนายความด้านตลาดทุนในนิวยอร์กและโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะเข้าร่วมกรมการต่างประเทศหลังจากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน ประสบการณ์อันยาวนานด้านการทูตและภาคเอกชนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของฌอน โอ'นีล และความสามารถในการนำทีมระหว่างหน่วยงานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขามีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
โอ'นีลสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัยทูเลน และปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม เขาได้ศึกษาภาษาไทย จีน พม่า เบงกาลี และญี่ปุ่น
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better