Continental พาทดสอบยาง 3 รุ่นเด่น UltraContact 7 - UX7, SportContact 7 และ MaxContact 7 - MC7 พร้อมชมโรงงานระดับโลก !
Continental Tyre (ประเทศไทย) ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลกจากประเทศเยอรมนี สานต่อความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางรถยนต์ ภายใต้แนวคิด “Continental Experience 2025 - Make Way For Confidence” เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชนร่วมเยี่ยมชม โรงงานผลิตยางรถยนต์ Continental Rayong Plant ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียแพซิฟิค โดยนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่ผสานนวัตกรรม ความยั่งยืน และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน และส่งมอบประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ รวมถึงการทดสอบสมรรถนะยางรุ่นใหม่ล่าสุด Continental UltraContact 7 - UX7 , ยางสปอร์ทระดับพรีเมียม SportContact 7 และยางสปอร์ทสมรรถนะสูง MaxContact 7 - MC7 ภายในงาน Mercedes-Benz Driving Event 2025 โดยร่วมมือกับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลก พร้อมถ่ายทอดสมรรถนะของยาง Continental ผ่านยนตรกรรมระดับลักชัวรีของ Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เยี่ยมชมโรงงานระดับโลกของ Continental
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ การเยี่ยมชมโรงงานผลิตยางรถยนต์ Continental (คอนทิเนนทอล) จังหวัดระยอง จากแผนยุทธศาสตร์ด้านการเติบโตของบริษัท Continental ได้ก่อสร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ในจังหวัดระยอง ด้วยจำนวนเงินลงทุนกว่า 250 ล้านยูโร หรือกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2560 โรงงานแห่งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างอันโดดเด่นทางด้านความเป็นเลิศในกระบวนการผลิต โดยเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากเริ่มเดินเครื่องการผลิต และส่งมอบยางเส้นแรกให้กับลูกค้าชั้นนำระดับโลก ที่เจาะจงเลือกใช้ยาง Continental ให้เป็นยางสำหรับรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน หรือที่เรียกกันว่ายาง OE (Original Equipment) ได้สำเร็จในปี 2562 หรือเพียงสองปีหลังจากการก่อตั้งโรงงาน
ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงถึง 4,000,000 เส้นต่อปี โดยมีการผลิตยางคุณภาพสูงสำหรับรถยนต์ และรถบรรทุกขนาดเล็ก ภายใต้แบรนด์ Continental, General Tire, และ Viking ซึ่งนับว่าเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุด และเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ของ Continental เพื่อผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเล็ก ตลอดจนรถจักรยานยนต์ ทั้งยังมีส่วนส่งเสริมการจ้างงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง โรงงานแห่งนี้ กำลังก้าวขึ้นเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของContinentalในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแพซิฟิค พร้อมทั้งมีส่วนในการยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนแก่ผู้ขับขี่ และผู้ใช้งาน ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากประเทศเยอรมนี
โครงการริเริ่มด้านการประหยัดพลังงานของ Continental ถูกนำมาปรับใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานยางที่จังหวัดระยอง โดยในปี 2566 โรงงานแห่งนี้ได้ขยายกําลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เป็น 4.2 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกําลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่ในโรงงานสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทั้งหมด 13 % ของไฟฟ้าที่จําเป็นในกระบวนการผลิต
รายละเอียดเบื้องต้นของยางทั้ง 3 รุ่นเด่น
สำหรับยางที่ทีมงานของเราได้ทดสอบประสิทธิภาพในครั้งนี้ได้แก่ Continental UltraContact 7 - UX7 ยางรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Continental ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถเอสยูวีโดยเฉพาะ โดยเน้นตอบโจทย์ 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความปลอดภัย ความทนทาน และความเงียบในการขับขี่ มาพร้อมเทคโนโลยี SUV Confidence+ ที่ออกแบบเพื่อรองรับลักษณะการใช้งานของรถเอสยูวีที่มีน้ำหนัก และจุดศูนย์ถ่วงสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ด้วยโครงสร้าง Robust360 ที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ผสานเนื้อยางสูตร Adaptive Diamond Compound และเทคโนโลยี X-Force Macroblocks ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับพื้นถนน เสริมการควบคุม และลดระยะเบรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบนถนนแห้ง และถนนเปียก
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Aqua Channel และ Noisebreaker 3.0 เพื่อช่วยระบายน้ำ และลดเสียงรบกวนระหว่างขับขี่ มอบประสบการณ์ที่เงียบสบาย และมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทาง โดย UltraContact 7 - UX7 มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ในขนาดตั้งแต่ 15 ถึง 22 นิ้ว รองรับรถครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดกลางไปจนถึงเอสยูวีระดับลักชัวรี
Continental SportContact 7 ยางสปอร์ทระดับพรีเมียมจาก Continental ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายสปอร์ทเน้นสมรรถนะสูง ผ่านการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ 3 ด้าน ได้แก่ Adaptive Pattern ที่ช่วยปรับหน้ายางให้เหมาะกับทั้งสภาพถนนแห้ง และถนนเปียก แม้ในความเร็วสูง
ต่อมา คือ เทคโนโลยี Harmonized BlackChili ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ได้ระยะทางการขับขี่ได้ไกลกว่าที่เคย พร้อมยืดอายุการใช้งานของยางได้ดีกว่าเดิม และ Force Clustering ที่ปรับแต่งโครงสร้างยางให้รองรับรถในกลุ่ม Ultra Ultra High Performance อย่างเหมาะสมในแต่ละรุ่น
Continental MaxContact 7 - MC7 ยางสปอร์ทสมรรถนะสูงที่มาพร้อมนวัตกรรม Sport+ Technology ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวเอเชียที่ต้องการความเร้าใจ และความสนุกในการขับขี่ทุกวัน โดยโดดเด่นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การยึดเกาะและการควบคุมที่แม่นยำ การเบรกที่สั้นลงทั้งบนถนนแห้ง และถนนเปียก และการลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร
มาพร้อมเทคโนโลยีสำคัญ เช่น Cornering Macro-blocks และ Stabilizer Bar ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าโค้ง, ReFlex Compound ช่วยให้การควบคุมแม่นยำ และระยะเบรคสั้นลง รวมถึง Noise Breaker 3.0 ช่วยลดเสียงรบกวน ทำให้ MaxContact MC7 เป็นยางที่ผสานทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย และความสบายได้อย่างลงตัว
ทดสอบสมรรถนะยางกับหลักสูตร Mercedes-Benz Driving Event 2025
การทดสอบประสิทธิภาพยางในครั้งนี้ดำเนินการโดยทีมงานจากค่ายรถ Mercedes-Benz ประเทศไทย เรียกได้ว่ามากันแบบ “ครบทีม” ก็ว่าได้ มาพร้อมบรรดารถยนต์ประสิทธิภาพสูงของค่ายรถแห่งนี้ มั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพของหลักสูตรการขับขี่ และสถานีทดสอบที่ “ท้าทาย” ประสิทธิภาพของยางแต่ละรุ่นจนถึงขีดสุด การทดสบถูกแบ่งออกเป็น 4 สถานี กับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน
1. สถานี Braking : การทดสอบประสิทธิภาพของความหนึบแน่นจากยาง Continental SportContact 7 รถที่ใช้งานในสถานีนี้ คือ สปอร์ทซีดานสมรรถนะสูง Mercedes-AMG CLS 53 ผู้ขับจะกดคันเร่งออกตัวบนทางตรง จนกระทั่งถึงช่วงความเร็วประมาณ 140-150 กม./ชม. และทำการกดแป้นเบรกสุดทันที นอกเหนือจากประสิทธิภาพของระบบเบรคในสไตล์ AMG แล้ว เราพบว่าความหนึบแน่นของยางช่วยให้ตัวรถมีความมั่นคง ไม่มีอาการไถลมากเกินไป สามารถหยุดรถได้สนิทในระยะทางที่สั้น ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย สมกับการเป็นยางที่รองรับสมรรถนะของตัวรถได้อย่างยอดเยี่ยม
2. สถานี Oversteering : รถที่ใช้งาน คือ Mercedes-Benz C-Class รุ่นล่าสุด (ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง) กับยาง Continental MaxContact 7 ทางครูฝึกนำวัสดุที่มีพื้นผิวลื่นมาครอบยางคู่หลังเอาไว้ และให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมขับบนถนนที่มีน้ำบนผิวถนน เมื่อยางคู่หลังมีความลื่น และเสียการยึดเกาะ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ขับที่ต้อง Counter Steer ในทิศทางที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขอาการ Oversteer ของตัวรถ สิ่งที่จำเป็น คือ ยางคู่หน้าที่มีประสิทธิภาพดี มีการยึดเกาะถนนที่เหมาะสม สามารถควบคุมทิศทางได้ตามต้องการ และง่ายดาย เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของยางรุ่นนี้ (พร้อมราคาที่เหมาะสม)
3. สถานี Cornering Theory : การเข้าโค้งที่เฉียบคม และมั่นใจได้ คือ สิ่งที่หลายคนต้องการจากรถยนต์สมรรถนะสูง เราได้ใช้งาน Mercedes-Benz CLS 220d กับการทะยานผ่านโค้ง เอส อันเลื่องชื่อของสนามพีระฯ กับยาง Continental SportContact 7 การแล่นผ่านในช่วงโค้งต้องอาการทั้งการเบรค การกดคันเร่ง และการหักเลี้ยวที่แม่นยำ เราพบว่ายางรุ่นนี้เหมาะสำหรับการขับแบบเน้นสมรรถนะได้ดีมากๆ การควบคุมทำได้ดังใจ ยางให้ความหนึบแน่น ผสมความนุ่มนวลที่พอเหมาะ แม้บางครั้งจะแล่นผ่านส่วนขอบของโค้ง ตัวรถยังคงนิ่งแล่นผ่านโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูงได้อย่างไม่ยากเย็น ให้ความรู้สึกที่ “ขับสนุก” ในทางโค้งอย่างยอดเยี่ยม
4. สถานี On Road : การขับขี่ในสนามแข่งท้าทายประสิทธิภาพของยางได้ดี แต่อีกหนึ่งจุดสำคัญ คือ การขับขี่บนท้องถนนเสมือนในชีวิตจริง สถานีนี้เราจึงได้ขับออกถนนใหญ่ กับรถยนต์ไฟฟ้า EQS SUV และ EQE SUV มาพร้อมยางสำหรับเอสยูวี นั่นคือ Continental UltraContact 7 (UX 7) มีการพัฒนาจากรุ่นก่อนหน้านี้แทบทุกด้าน หนึ่งในจุดเด่นที่เราสัมผัสได้ คือ ความนุ่มเงียบของยาง แม้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ปราศจากเสียงของเครื่องยนต์ เสียงจากยางขณะแล่นอยู่ในระดับที่น้อยมาก (แม้เป็นเอสยูวีขนาดใหญ่) นอกเหนือจากความสะดวกสบายแล้ว ยังมีส่วนช่วยเรื่องความสุนทรีย์จากตัวรถ ทางเจ้าหน้าที่ช่วยสาธิตการใช้งานระบบเครื่องเสียงชั้นสูงแบบ Dolby Atmos จากรถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes-Benz เสียงที่ได้ยินมีมิติ และความกังวานอย่างน่าทึ่ง เป็นหนึ่งในผลดีจากยางที่มีเสียงรบกวนต่ำของ UltraContact 7 นอกจากนี้ยังขับขี่ได้นุ่มนวล และเกาะถนนได้มั่นใจ เป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของยางสำหรับ เอสยูวี สมรรถนะสูงเช่นนี้
หลังจากผ่านการทดสอบประสิทธิของยางแต่ละรุ่นจากทั้ง 4 สถานี ทางผู้ฝึกสอนของ Mercedes-Benz Driving Event 2025 ทิ้งท้ายกับการขับขี่แบบ Lead & Follow แบบเต็มรอบสนามแข่งพีระ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท ได้ใช้ทักษา ความรู้ รวมถึงประสิทธิภาพของยางกันเต็มที่ แม้จะขับในสนามแข่งที่มีทางโค้งหลากหลาย และการใช้ความเร็วค่อนข้างสูง แต่ยางของ Continental ห้ารยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม ควบคุมได้ดังใจ ให้ความรู้สึกที่มั่นคงปลอดภัยตลอดการขับในเส้นทางของสนามแข่ง บ่งบอกการรองรับสมรรถนะได้ดี ขับสนุกอย่างเพลิดเพลิน
นอกจากนี้ยางทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Continental UltraContact UX7, SportContact 7 และ MaxContact MC7 ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบในอนาคต สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับยางรุ่นต่างๆ ของ Continental Tyres วางจำหน่ายผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.continental.co.th หรือ https://www.facebook.com/ContinentalTH