ผจก.ตลท. ยันมีมาตรการรองรับเพียงพอ รับมือเส้นตาย tariff 1 ส.ค.นี้
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.52 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 12 ก.ค. – ผจก.ตลท. ยันมีมาตรการรองรับเพียงพอ รับมือเส้นตาย tariff 1 ส.ค.นี้ คาดความผันผวนอยู่ในวงแคบ นักลงทุนมีข้อมูลเพียงพอตัดสินใจ เชื่อรัฐบาลไทยเจรจาหาจุดสมดุล
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายในกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) ประจำปี 2568 “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้สู่ความยั่งยืน” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยกล่าวถึงกรณีสหรัฐประกาศเลื่อนเก็บภาษีต่างตอบแทน ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.68 ซึ่งไทยถูกเรียกเก็บอัตราภาษี 36% มองว่า หากดูทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมา จะเห็นนักลงทุนวิเคราะห์ไว้แล้ว เพราะฉะนั้นความผันผวนน่าจะอยู่ในวงแคบ และคิดว่ามีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจ ต้องดู trigger point ซึ่งจากการติดตามพบว่า รัฐบาลไทยทำงานเต็มที่ในการเจรจา เพื่อหาจุดสมดุล win-win ให้ประเทศไปต่อได้
ส่วนหากเกิดกรณีที่ไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงสุดเมื่อครบกำหนดเส้นตาย 1 ส.ค.68 ยืนยันว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตรการรองรับความผันผวนเพียงพอ เช่น Circuit Breaker, Ceiling & Floor เป็นต้น ทั้งนี้ มองย้อนไปเหตุการณ์ Liberation Day เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ซึ่งคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติใช้มาตรการชั่วคราวดูแลความผันผวนของตลาด เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในช่วงเวลานี้ มองว่าตลาดมีข้อมูลเพียงพอแล้ว นักลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุนมีโอกาสได้ศึกษาข้อมูล ผลลัพธ์จะไม่เกินความคาดหมาย ดังนั้น มองว่ากลไกของตลาดที่มีอยู่ในขณะนี้เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า วันนี้ตลาดมีความผันผวนจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องภาษีสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีความชัดเจน การขยายตัวของเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องแก้ไขปรับปรุงร่วมกัน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า GDP ปี 68 จะเติบโตได้ที่ 2.3% แต่ยังมีความไม่แน่นอน ที่จะเป็นปัจจัยกดดันทำให้ GDP เติบโตต่ำลงได้
สำหรับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทย แม้ P/E อยู่ในระดับต่ำ แต่ Dividend Yield ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค ซึ่งโดยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเติบโต ไม่ใช่ถดถอย อีกทั้งหากมองตามพื้นฐานของนักวิเคราะห์หลายแห่งมองว่า Downside Risk ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น ตลาดทุนยังมีความน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม มองในช่วงครึ่งปีหลัง หากการเจรจาภาษีสหรัฐฯ มีข้อตกลงที่ชัดเจน และไทยสามารถแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศได้ ก็จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น และวิเคราะห์ได้ว่าอุตสาหกรรมไหนสามารถแข่งขันได้ และสิ่งที่อยากจะเห็น คือ การใช้งบประมาณของประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) ประจำปี 2568 “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้สู่ความยั่งยืน” ในครั้งนี้ นายอัสสเดช ร่วมบรรยายหัวข้อ “เปิดแผนตลาดหลักทรัพย์ ฟื้นตลาดหุ้นไทย” และนางพรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมบรรยายหัวข้อ “Happy Money”.-516-สำนักข่าวไทย