บอร์ดกสทช.ตีตก เพิ่มเงื่อนไขหลังประมูลคลื่นมือถือ เหตุเสียงโหวตไม่ถึงครึ่ง
นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.วันนี้ (30 ก.ค. 2568) ทีประชุมมีการพิจารณาข้อเสนอของ อนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กรณี การปรับปรุงเงื่อนไขแนบท้ายเพิ่มเติม ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz หลังจากที่ได้จัดประมูลคลื่นความถี่ไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2568
ทั้งนี้ บอร์ดมีการถกเถียงกันในประเด็น เพิ่มโทษ หรือมีคำสั่งทางปกครอง หากผู้ให้บริการมือถือไม่สามารถปฎิบัติตามเงื่อนไข ส่งผลให้ต้องมีการลงมติว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะมีการเพิ่มเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตหลังประมูล ปรากฏว่า มีเสียงที่เห็นด้วยเพียง 3 เสียง ขณะที่ 4 เสียง งดออกเสียง ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเงื่อนไขได้ เพราะเสียงเห็นด้วยไม่ถึงครึ่งของบอร์ดทั้งหมด
สำหรับ 3 เสียงที่เห็นด้วย ประกอบด้วย น.ส.พิรงรอง รามสูต ,นายศุภัช ศุภชลาศัย และ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ส่วน 4 เสียง ที่งดออกเสียงประกอบด้วย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ,พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ,นายต่อพงศ์ เสลานนท์ และ นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ โดยนายสมภพ และ พลอากาศโท ธนพันธุ์ จะขอส่งรายละเอียดเหตุผลแนบท้ายในภายหลัง ซึ่งนายสมภพ ให้ความเห็นว่าประกาศตามมาตราที่มีอยู่สามารถเพิ่มโทษ หรือมีคำสั่งทางปกครองได้อยู่แล้ว หากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไม่สามารถปฎิบัติตามเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม สำหรับประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลฯ มีเงื่อนไขในใบอนุญาตว่า หากไม่สามารถดำเนินการ roll‑out เครือข่ายให้ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรในแต่ละตำบลภายใน 5 ปี จะต้องชำระค่าปรับรายวัน ในอัตรา 0.05% ของราคาประมูลสูงสุด ตลอดช่วงที่ล่าช้า โดยอัตรานี้เป็นเงื่อนไขที่สอดคล้องกับประกาศ กสทช. ตั้งแต่ปี 2555 – 2562
นอกจากนี้กสทช. ยังมีนโยบายกำหนด อัตราค่าบริการสูงสุด (net tariff cap) รวมทั้งควบคุมค่าธรรมเนียมจากบริการเสริม (value‑added services) เพื่อไม่ให้เกิดการบวกเพิ่มราคาโดยไม่เหมาะสมต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2568 บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ได้เข้ามาชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ งวดที่ 1 ย่าน 1500 MHz 2300 MHz และ 2100 MHz เรียบร้อยแล้ว ประมาณ 22,080 ล้านบาท พร้อมให้บริการวันที่ 4 ส.ค. 2568 โดยสำนักงาน กสทช.จะรีบนำส่งเงินดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
กสทช.รับมอบเงินประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 1500 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1452 - 1472 MHz งวดที่ 1 จากบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เป็นเงินจำนวน2,489,868,689.88 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากราคาชนะการประมูล 4,653.96 ล้านบาท และ ย่าน 2300 MHz ช่วงความถี่ย่าน 2300 - 2370 MHz เป็นเงินจำนวน 11,646,950,089.88 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากราคาการประมูลสูงสุด 21,770 ล้านบาท
และรับมอบเงินประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 2100 MHz ช่วงความถี่ย่าน 1965 - 1980 MHz คู่กับ 2155 – 2170 MHz งวดที่ 1 จากบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) เป็นเงินจำนวน 7,944,750,005.35 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากราคาการประมูลสูงสุด 14,850 ล้านบาท