เอกอัครราชทูตไทย ชี้แจงข้อเท็จจริง หลังโดนกัมพูชาพาดพิงบนเวทีประชุมโลก ย้ำ ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด
วานนี้ (30 กรกฎาคม 2568) มีการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์ โดยสันติวิธีและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ โดย เชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา หลังจากที่โดนกล่าวพาดพิงถึงสถานการณ์ชายแดนในการประชุม
เชิดชายกล่าวว่า การประชุมที่รอคอยกันมานานนี้ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการสนับสนุนระหว่างประเทศเพื่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ยุติธรรม ยั่งยืน และครอบคลุม ผ่านการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐอย่างสันติ
“น่าเสียดายที่คณะผู้แทนท่านหนึ่งได้หยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา แม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะนำเรื่องทวิภาคีนี้เข้าสู่เวทีสำคัญนี้ แต่ข้าพเจ้าจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงโดยสังเขปเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด” เชิดชายกล่าว
เชิดชายชี้แจงต่อว่า เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ได้มีการตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม เพื่อนบ้านของเราก็กลับมาเปิดฉากยิงข้ามพรมแดนและบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง
“ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันพันธกรณีที่จะดำเนินงานผ่านช่องทางทวิภาคีที่มีอยู่ และงดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และดำเนินการด้วยความสุจริตใจ” เชิดชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เชิดชายชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว จึงพูดถึงสถานการณ์ในฉนวนกาซา ซึ่งยังคงสร้างความตึงเครียดไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง และเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้มีการเจรจาเพื่อปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพ
อีกทั้ง ไทยยังยืนยันการสนับสนุนแนวทางแก้ไขปัญหาสองรัฐในฐานะหนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ตามกฎหมายระหว่างประเทศและมติสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคง รวมถึงหยุดยิงด้วย และช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
อ้างอิงจาก