ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา รายได้แบบนี้ต้องเสียภาษีไหม?

ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับงานฝีมือและของตกแต่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว “เครื่องปั้นดินเผา” กลายเป็นสินค้าอีกประเภทที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแจกัน แก้วน้ำ จานชาม ของตกแต่งบ้าน หรืองานศิลปะที่ใช้เทคนิคการปั้นและเผาดินด้วยความประณีต ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นและวัฒนธรรมไทยได้อย่างดีเยี่ยม

หลายคนจึงเริ่มหันมาทำธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของงานอดิเรกที่สร้างรายได้เสริม หรือเปิดเป็นกิจการขนาดย่อมและขนาดกลางอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามคำถามที่ตามมาคือ “รายได้จากธุรกิจแบบนี้ ต้องเสียภาษีหรือไม่?”

บทความนี้จะพาไปสำรวจคำตอบ พร้อมทำความเข้าใจภาระภาษีที่เจ้าของธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาควรรู้ สามารถอธิบายได้ดังนี้

เครื่องปั้นดินเผา = สินค้าที่ก่อให้เกิดรายได้

ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านหน้าร้าน ตลาดนัด งานแสดงสินค้า ร้านของฝาก หรือช่องทางออนไลน์อย่าง Facebook Instagram Shopee Lazada หรือแม้แต่ส่งออกต่างประเทศ รายได้จากการขายเครื่องปั้นดินเผา “ถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการ” ตามหลักของกรมสรรพากร และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลด้านภาษีของรัฐ

รายได้ประเภทใดบ้างที่ถือว่าต้องเสียภาษี?

• รายได้จากการขายปลีกเครื่องปั้นดินเผา
• รายได้จากการสั่งทำตามแบบ
• รายได้จากการเปิดเวิร์กช็อปสอนปั้นดินเผา
• รายได้จากการให้เช่าเตาเผา หรือสตูดิโอ
• รายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศ

ดังนั้นหากมีรายได้จากการขายเครื่องปั้นดินเผาเป็นประจำ หรือมียอดรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามระเบียบ

ประเภทของภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

หากคุณขายเครื่องปั้นดินเผาในนาม “บุคคลธรรมดา” เช่น พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของแบรนด์ ผู้ผลิตรายย่อย รายได้จากการขายจะถือเป็น เงินได้ตามมาตรา 40(8) คือ เงินได้จากการประกอบกิจการ

ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ปีละ 1 ครั้ง (ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91) และสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบคือ

• หักแบบเหมา: 60% ของรายได้
• หักตามค่าใช้จ่ายจริง: ใช้ใบเสร็จรับเงินในการคำนวณ

เช่น หากขายได้ 300,000 บาทต่อปี หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% เหลือ 120,000 บาท ถือเป็นเงินได้สุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

หากคุณจดทะเบียนบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา รายได้ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บภาษีภายใต้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งต้องมีการจัดทำบัญชี งบการเงิน และยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 เป็นประจำทุกปี
อัตราภาษีปกติคือ 20% ของกำไรสุทธิ แต่หากเป็นกิจการขนาดเล็ก (SME) ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท อาจเสียภาษีในอัตราที่ลดหลั่นลง เช่น

• กำไร 0–300,000 บาท: ยกเว้นภาษี
• กำไร 300,001–3,000,000 บาท: เสียภาษี 15%

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

หากรายได้จากการขายสินค้าทั้งปีเกิน 1.8 ล้านบาท ผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนเป็น “ผู้ประกอบการจด VAT” และเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าในอัตรา 7%

ตัวอย่างเช่น หากขายแจกันราคา 1,000 บาท ต้องบวก VAT 7% เป็น 1,070 บาท และนำภาษีที่เก็บมา ส่งกรมสรรพากรทุกเดือน พร้อมยื่นแบบ ภ.พ.30 แต่หากรายได้ยังไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ยังไม่ต้องจด VAT ก็สามารถขายสินค้าโดยไม่บวกภาษีเพิ่ม

4. ภาษีนำเข้า-ส่งออก (กรณีส่งออกหรือนำเข้าวัตถุดิบ)

ธุรกิจที่ส่งออกเครื่องปั้นดินเผาไปต่างประเทศ อาจได้รับสิทธิ “ยกเว้น VAT” สำหรับการส่งออก และยังสามารถขอคืนภาษีที่เกิดจากการซื้อวัตถุดิบในประเทศได้

ส่วนการนำเข้าดินเหนียว เคลือบ หรืออุปกรณ์การผลิตจากต่างประเทศ ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มตามอัตราที่กรมศุลกากรกำหนด

แล้วถ้าเป็นงานอดิเรก หรือขายไม่บ่อย ต้องเสียภาษีไหม?

แม้ว่าจะเริ่มต้นจากงานอดิเรกหรือขายเฉพาะงานแฟร์ งานเทศกาล แต่หากมี “รายได้อย่างต่อเนื่อง” หรือมียอดขายสะสมมากขึ้นและเริ่มเกินเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่ต้องยื่นแบบภาษี เจ้าของธุรกิจก็ต้องแสดงรายได้ในการยื่นภาษีประจำปีเช่นกัน หากไม่ยื่นภาษี = มีความผิดตามกฎหมาย และอาจถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลังได้

การจัดทำบัญชีและหลักฐานสำคัญ

ผู้ประกอบการควรเก็บเอกสารต่างๆ เพื่อใช้ในการคำนวณรายได้และค่าใช้จ่าย เช่น

• บิลขายสินค้า
• ใบสั่งซื้อ ใบเสร็จรับเงินจากการซื้อวัตถุดิบ
• ค่าขนส่ง ค่าจัดจำหน่าย
• ค่าจ้างลูกจ้างหรือผู้ช่วยผลิต

สำหรับผู้ที่ใช้วิธีหักค่าใช้จ่ายตามจริง เอกสารเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญในการหักลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

สรุป ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลักหรือรอง หากมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ ย่อมมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมายไทย ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และกรณีนำเข้าส่งออก
สิ่งสำคัญคือเจ้าของกิจการต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีเบื้องต้น รู้จักจัดทำบัญชีอย่างง่าย และเก็บหลักฐานให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อประโยชน์ในการบริหารธุรกิจ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านภาษีในอนาคต

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษี เพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting