หุ้นเอเชียพุ่งทำนิวไฮ จับตาทรัมป์คุยยูเครน-เฟดประชุมแจ็กสันโฮล
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดสัปดาห์สดใส ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นและไต้หวันทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนหุ้นบลูชิพจีนขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน ท่ามกลางบรรยากาศลงทุนที่เริ่มกลับมา “เสี่ยงได้” หลังความกังวลด้านซัพพลายพลังงานจากรัสเซียเริ่มคลายลงเล็กน้อย ด้านนักลงทุนทั่วโลกจับตานโยบายการเงินสหรัฐฯ และท่าทีทางการเมืองในเวทีโลกอย่างใกล้ชิด
แรงหนุนสำคัญของตลาดมาจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 กันยายนนี้ โดยตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้สูงถึง 85% และคาดว่าจะมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมภายในสิ้นปี ขณะเดียวกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล มีกำหนดขึ้นเวทีในงานประชุมแจ็กสันโฮล ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม ซึ่งถือเป็นจุดโฟกัสสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก
แอนดรูว์ ฮอลเลนฮอร์สต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้รีเสิร์ช มองว่า พาวเวลจะส่งสัญญาณว่าความเสี่ยงด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อเริ่มเข้าสู่สมดุล แต่ยังไม่ประกาศชัดเจนถึงการลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน เนื่องจากรอดูตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมก่อน
ความคาดหวังต่อการผ่อนคลายดอกเบี้ยช่วยดันดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกญี่ปุ่นขึ้น 0.5% ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่นิกเกอิญี่ปุ่นบวก 0.9% ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ และหุ้นบลูชิพจีน CSI300 พุ่ง 1.3% ส่งผลให้ตลอดไตรมาสนี้บวกแล้วกว่า 8% ฟากตลาดยุโรป ฟิวเจอร์สยูโรสต็อกส์ 50 และ DAX ขยับเพิ่ม 0.2% ส่วนฟิวเจอร์ส FTSE บวก 0.3% ด้านฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อย โดย S&P 500 และ Nasdaq ยืนใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล หนุนด้วยงบไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่ง โดยกำไรต่อหุ้น (EPS) ของ S&P 500 โต 11% จากปีก่อน และกว่า 58% ของบริษัทที่ประกาศผลประกอบการปรับเพิ่มประมาณการทั้งปี
สำหรับภาคเทคโนโลยี กลุ่ม “Magnificent 7” ยักษ์ใหญ่ไอทีรายงานผลประกอบการโตเกินคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน นักลงทุนยังรอติดตามผลประกอบการจาก Nvidia รวมถึงบริษัทยักษ์ค้าปลีกในสหรัฐฯ อย่าง Home Depot, Target, Lowe’s และ Walmart เพื่อสะท้อนภาพกำลังซื้อผู้บริโภค
ในตลาดพันธบัตร ความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยกดดันบอนด์ยีลด์สั้นให้ปรับลดลง แต่พันธบัตรระยะยาวยังเผชิญแรงกดดันจากความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวและการขาดดุลการคลังมหาศาล ดันเส้นอัตราผลตอบแทนชันสุดตั้งแต่ปี 2021 ขณะที่พันธบัตรยุโรปก็ปรับขึ้นตามคาดการณ์การกู้ยืมเพิ่มเพื่อการใช้จ่ายด้านกลาโหม ดันยีลด์เยอรมนีแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง 0.4% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักในสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 97.851 ขณะเดียวกันยังเคลื่อนไหวใกล้ 147.41 เยน และ 1.1704 ดอลลาร์ต่อยูโร ตลาดยังรอติดตามท่าทีธนาคารกลางนิวซีแลนด์ที่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเหลือ 3% ในการประชุมวันพุธนี้
ฝั่งสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาทองคำดีดขึ้น 0.5% สู่ 3,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังร่วงแรงเกือบ 2% ในสัปดาห์ก่อน ส่วนราคาน้ำมันอ่อนตัวเล็กน้อย โดยเบรนท์ลดลง 0.1% อยู่ที่ 65.78 ดอลลาร์/บาร์เรล และน้ำมันดิบสหรัฐฯ ทรงตัวที่ 62.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชะลอท่าทีเข้มงวดต่อการส่งออกน้ำมันรัสเซีย
ด้านการเมืองโลก ทรัมป์และปูตินเพิ่งพบกันที่อลาสกา และมีท่าทีเห็นพ้องเดินหน้าเจรจาสันติภาพในยูเครน แทนการหยุดยิงชั่วคราว ขณะที่ทรัมป์เตรียมหารือกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี และผู้นำยุโรปในวันจันทร์ เพื่อวางแนวทางถัดไป แม้รายละเอียดข้อเสนอจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม