SAWAD ประกันภัยมาแรง ขยายพอร์ตรุกฐานลูกค้า
#SAWAD #ทันหุ้น – SAWAD สบช่องเดินหน้าปล่อยสินเชื่อชนเป้าทั้งปี 2568 โต 10% YoY ขยายฐานลูกค้าประกันภัย ย้ำตั้งสำรองหนี้สูญรับความผันผวนเศรษฐกิจ และรองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ด้านนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 8% และวางเป้าราคาเหมาะสมที่ 26 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า แนวโน้มพอร์ตสินเชื่อช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2568 เนื่องจากหลายปัจจัยกดดันเริ่มคลี่คลายลง ทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.50% ต่อปีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้กลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อย (Consumer Finance) ทั้งธุรกิจจำนำทะเบียน และเช่าซื้อ ฯลฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนอัตราดอกเบี้ยจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ขณะเดียวกันยังเป็นจิตวิทยาให้กับกลุ่มฐานราก มีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงมีความสามารถในการผ่อนชำระเพิ่มมากขึ้น
คุม NPL ไม่เกิน 4%
ทั้งนี้จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า รายได้ภาคครัวเรือนมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น บริษัทจึงเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ด้วยการลดสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ลงมุ่งรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ควบคู่การบริหารจัดการการขายรถยึดอย่างมีประสิทธิภาพ หลังราคารถมือสองเริ่มทรงตัว – ฟื้นตัวได้เป็นบางช่วงเวลา แต่บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 4% โดยบริษัทยังคงตั้งสำรองหนี้สูญ (Credit Cost) ในระดับสูง เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ป้องกันความเสี่ยงรองรับการเติบโตพอร์ตสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งในอนาคต
“การปล่อยสินเชื่อช่วงครึ่งหลังน่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั้งปีนี้ยังคงเป้าการเติบโตพอร์ตสินเชื่อรวม 10% YoY โดยจะลดพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อลง มุ่งเน้นเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียนเพราะในระยะกลาง – ยาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญ แต่ในปีนี้ที่ตั้งสำรองสูง เพื่อให้สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจที่มีความท้าทายสูง”
ประกันภัยโตแกร่ง
ขณะเดียวกัน ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ประกันวินาศภัยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้าสินเชื่อมีหลักประกัน และลูกค้าที่เชื่อมันในแบรนด์ “ศรีสวัสดิ์” โดยบริษัทรวบรวมกรมธรรม์ประกันภัยที่หลากหลาย สามารถคำนวณเบี้ยประกันให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่นำเสนอแบบเฉพาะเจาะจง จึงสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม อีกทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชันให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อประกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจประกันภัยเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม
“ธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงเป็นธุรกิจที่รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันลูกค้ามีความกังวลต่อหลักประกัน จึงสนใจซื้อประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น โดยบริษัทได้เลือกกรมธรรม์จากหลากหลายบริษัท สามารถเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะสม ตรงต่อความต้องการให้กับลูกค้าได้จึงได้รับการตอบรับและบอกต่อเพิ่มขึ้น”
แนะ “ซื้อ” เป้า 26 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2568 ที่ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 7% YoY จากพอร์ตสินเชื่อที่ลดลง และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และลดลง 5% QoQ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขั้น อย่างไรก็ตามปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 ขึ้น 8% มาอยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY จากการพิจารณาปรับประมาณการสินเชื่อเพิ่มขึ้น 3% YoY ปรับประมาณการ NIM จาก 13.93% ขึ้นมาที่ 14.20% และปรับลดค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลงมาอยู่ที่ 50% จากเดิม 52% พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 ขึ้นมาที่ 26 บาทจากเดิม 15 บาท พร้อมแนะนำ “ซื้อ”