BGRIM งบครึ่งหลังสดใส เจรจาลูกค้าขายไฟเพิ่ม
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 22.12 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - BGRIM มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากการใช้ไฟในนิคมอุตสาหกรรมและความต้องการกลุ่มยานยนต์–ดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันเดินหน้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าหลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 4,155 MW โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10,000 MW ภายในปี 2030 ครึ่งหนึ่งเป็นพลังงานทางเลือก พร้อมรับไฟเขียวเซ็น PPA โครงการลม 16 MW ล่าสุดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท/หุ้น
นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร งานการเงินและบัญชี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง การใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมมีทิศทางฟื้นตัว หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศปรับขึ้นภาษี 19% ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้แนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าน่าจะกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มเห็นสัญญาณการใช้ไฟเพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการภาครัฐที่สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ส่วนผลกระทบจากลูกค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ นั้นมีเพียงจำกัด คิดเป็นราว 5%
บี.กริม เพาเวอร์ คาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) อยู่ที่ 310–330 บาทต่อล้าน BTU ใกล้เคียงกับปี 2567 ที่อยู่ระดับ 324 บาทต่อล้าน BTU โดยบริษัทวางแผนนำเข้า LNG ไม่เกิน 5 ลำ เพื่อนำเข้าสู่ระบบ Pool Gas ขณะเดียวกัน ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ 2–3 ราย เพื่อพิจารณาการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (IU) ครึ่งปีแรกมีเข้ามาแล้ว 20 เมกะวัตต์ และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นอีกราว 30 เมกะวัตต์ รวมถึงรายได้จากการบริหารจัดการเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ LNG คาดว่าจะนำเข้าในช่วงไตรมาส 4/2568 ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรม จะเป็นการปรับสูตรเพื่อให้สามารถส่งผ่านต้นทุนก๊าซไปยังลูกค้า โดยเริ่มจากกลุ่มลูกค้าที่สัญญาใกล้ครบกำหนดและกำลังต่อสัญญาใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าบริหารจัดการค่าใช้จ่าย SG&A ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับโครงการใหม่ที่จะทยอยเข้ามา
ทั้งนี้ โครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีดังนี้ อู่ตะเภา: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (เฟส 1) กำลังการผลิต 18 เมกะวัตต์ โครงการอินทรี บี.กริม: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 80 เมกะวัตต์ โครงการ จงเช่อ รับเบอร์: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง กำลังการผลิต 35 เมกะวัตต์ โครงการ 386: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา กำลังการผลิต 18.8 เมกะวัตต์ และNakwol 1: โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ที่เกาหลี กำลังการผลิต 365 เมกะวัตต์ โครกงการ ARECO : โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีการขยายกำลังการผลิตไปยังหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และยังมีโครงการในประเทศออสเตรเลีย เพื่อรองรับเป้าหมายการขายไฟฟ้าตามแผนการขยายกำลังการผลิต โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 4,155 เมกะวัตต์ โดยราว 70% มาจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุนในพลังงานทางเลือกมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2030 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนพลังงานทางเลือกจะอยู่ที่ 50% ครอบคลุมทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังมุ่งเน้นธุรกิจสายส่งไฟฟ้า และธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ส่วนธุรกิจ Data Center ที่ร่วมมือกับ Digital Edgeบริษัทฯ ยังเดินการและลงทุนอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนการรวมทุนบีกริมถืออยุ่ 40% มีการส่งทีมงานวิศวงกรรม การเงิน กฎหมาย และร่วมการพัฒนาโครงการด้วยกัน ทำให้โครงการมีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสุง การหาลุกค้าก็มีการส่งบุคลากรเข้าไปช่วยสนับสนุน และอยุ่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า โดยมีการประเมินว่าในระยะเวลา 2-3 ปี กำลังการผลิตในประเทศจะเพียงพอ แต่ในระยะยาวต้องดูว่าจะมีเพียวงพอหรือไม่
สำหรับค่าไฟฟ้าที่เวียดนาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องโครงสร้างค่าไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดมีสัญญาณเชิงบวก แต่ยังต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ ทั้งนี้ หากมีการปรับลดค่าไฟฟ้าในเวียดนาม โครงการยังคงสามารถชำระหนี้และดอกเบี้ยได้ตามกำหนด
ส่วนล่าสุที่กพช.อนุมัติไฟเขียวลงนาม PPA โครงการพลังงานลม โดยสำหรับบี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการพลังงานลมขนาด 16 เมกะวัตต์ที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาในรอบแรก คาดว่าจะมีการลงนามเพิ่มเติมอีก 16 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทอต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 10 กันยายน 2568
รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision