แต่งตั้ง ‘นายพล’ สีกากี
แวดวง "สีกากี" ปรับโหมดเข้าสู่การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2568 แบบเต็มตัว ทุกขั้น ทุกตอน ทุกกระบวนการกำลังเดินหน้า หลังจากเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. แจ้งเวียนบันทึกข้อความ ส่งถึง รอง ผบ.ตร. และ จตช., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช., ผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่องประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช. ลงมาถึง รอง ผบก. วาระประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 พอมาสัปดาห์นี้ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน ก็ส่งหนังสือแจ้งเวียน เรื่อง
หลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 หมวด 3 จำนวน 8-9 หน้า แจกแจงหลักเกณฑ์การประเมินการพิจารณาผู้เหมาะสม ทั้งความรู้ความสามารถ การทุ่มเท การเสียสละ ในการปฎิบติราชการตามบทบาทหน้าที่ตำรวจ รวมถึงคะแนนที่จะใช้การประเมินด้านต่างๆ แบบละเอียดยิบ
ยิ่งในการแต่งตั้ง "นายพล" ปีนี้ บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร. สะกิดให้จับตาเงื่อนไขสำคัญ ที่วงประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568 มีมติรับทราบตามที่ ตร.กำหนดหลักเกณท์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ระดับ ผบช. และจชต. ลงมาถึง ผบก. ในกลุ่มผู้มีความรู้ความสามารถร้อยละ 50 ของตำแหน่งว่าง ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน
โดยมีการกำหนดแบบประเมิน (หลักเกณท์และตัวชี้วัดต่างๆ) เป็นเครื่องมือให้ผู้บังคับบัญชาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้มีมาตรฐานสำหรับการใช้ดุลยพินิจ โดย 1.ประเมินผลการปฏิบัติราชการประกอบด้วย คุณภาพผลการปฏิบัติงาน งานบรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว และการติดตามผลสัมฤทธิ์ของงาน 2.ศักยภาพ ภาวะผู้นำ ความรู้ระเบียบกฎหมาย ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน การสื่อสาร การพัฒนาตนเอง 3.อาวุโส การดำรงตำแหน่งระดับปัจจุบัน และอายุราชการรวม 4.ความประพฤติ การรักษาวินัย และการปฏิบัติตามจริยธรรมตำรวจ ยิ่งต้องจับตาเป็นพิเศษว่า "กฎเหล็ก" ที่เอามาใช้ประเมินครั้งนี้ จะสกัดพวก "เส้นกวยจั๊บ" แบบไม่ทำงาน แต่อยากได้เลื่อนตำแหน่งแบบฟาสต์แทร็ก แซงหน้าคนอื่นได้หรือไม่ ต้องรอดูๆ ๐
แถมพอพลิกปฏิทินการแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2568 ตามที่ ก.ตร.เอก โพสต์บอกเอาไว้ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2568 ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 ข้อ 7 การแต่งตั้ง ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และ จตช. ลงมาถึง ผบก.ให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป และ ก.ตร.พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.ของทุกปี ซึ่งการดำเนินการจะเริ่มจากการประกาศอาวุโส การเสนอชื่อจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด การพิจารณาจากคณะกรรมการระดับกองบัญชาการ การพิจารณาจากคณะกรรมการระดับ ตร. และนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อให้ความเห็นชอบ และนายกรัฐมนตรีจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป ส่วนการแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.ลงมาถึง สว. ให้ดำเนินการในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป และให้ออกคำสั่งแต่งตั้งภายใน 30 พ.ย.ของทุกปี การแต่งตั้งระดับรอง สว.ถึง ผบ.หมู่ ในอำนาจ ผบ.ตร.หรือ ผบช.ให้ดำเนินการในช่วงเวลาระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป โดยให้ออกคำสั่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.ในปีถัดไป ก็ตรงกับช่วงเวลานี้พอดีที่บัญชีแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี เริ่มขยับ เริ่มจัดทัพกันแล้ว ๐
“บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ลงนามแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีชื่อ พล.อ. ศักดา เนียมคำ เป็นหัวหน้าสำนักงาน/ที่ปรึกษา สำหรับที่ปรึกษาอีก 11 คน ประกอบด้วย พล.อ.ธนิส พิพิธวณิชการ, พล.อ.ศรชัย กาญจนสูตร, พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์, พล.อ.จุมพล จุมพลภักดี, พล.อ.อ. สุรพล พุทธมนต์ , พล.ร.ท.วรงกรณ์ โอสถานนท์ , พล.อ.นุชิต ศรีบุญส่ง (ตท.24), พล.อ.อ.ธัชชัย อัจฉริยาการุณ (ตท.25), พล.ท.เจษฏ์ จันทรสนาม (ตท.25), พล.ร.ท.ชัยยงค์ ขุนทา (ตท.25), พ.อ.นที ศุกลรัตน์ (ตท.27) โดย 1 ใน 7 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.20 ของ “บิ๊กเล็ก” ก็คือ “บิ๊กเดฟ” พล.อ.พรศักดิ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางทายาทแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างต่อเนื่อง และในจำนวน12 ที่ปรึกษานี้ก็มี 4 นายพลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาในช่วงที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็น รมว.กลาโหมมาก่อน แต่เห็นแผงกุนซือ 1 โหลแน่นปึ้กขนาดนี้ คาดเดาได้ว่างานช่วงส่งท้ายรัฐบาลคงต้องแน่นหนา หนักหน่วง แน่นอน ๐
"รองเสธ.เอก" พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก นำคณะสื่อมวลชนส่วนกลางลงพื้นที่ ณ ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ โดยทริปนี้ได้ไปเจอ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ฐานอนุพงศ์ จ.อุบลราชธานี ระหว่างที่ท่านแม่ทัพลงพื้นที่ 3 วัน 2 คืน ตระเวนตามฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดน เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร โดยท่านแม่ทัพยังมีภารกิจสำคัญในการนำเหรียญที่ระลึกคณะสงฆ์ ถวายเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (ในหลวงพระราชทาน) และพระพุทธนราวันตบพิธ (905 พระราชทาน) ไปมอบให้ทหารในแนวหน้าทุกคน นอกจากนี้ยังมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.พล.ร.6 ในฐานะ ผบ.กกล.สุรนารี พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี พ.อ.ภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งดูแลพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ให้การต้อนรับคณะและพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างสร้างสรรค์ ๐
ขณะเดียวกัน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ลงพื้นที่กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองทัพเรือ จ.จันทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน โดยมี "รองมด” พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร รองแม่ทัพภาคที่ 1, "ผบ.เบญ" พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และ พล.ร.ต. ขวัญชัย ขำสม รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดมาต้อนรับ พร้อมย้ำกับกำลังพลว้า “ความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของกำลังพลทุกระดับ ที่ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติงานด้วย”