ผบ.ทสส. เยือนเวียดนาม กระชับสัมพันธ์กลาโหม ร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อมด้วย พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รอง ผบ.ทสส. และคณะ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2568 โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากกองทัพเวียดนาม
ในการนี้ ผบ.ทสส. ได้เข้าสักการะและวางพวงมาลา ณ อนุสรณ์สถานทหารกล้าบั๊กเซิน และสุสานประธานโฮจิมินห์ เพื่อแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์และเกียรติยศของประเทศเวียดนาม ก่อนจะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ กระทรวงกลาโหมเวียดนาม
จากนั้น ผบ.ทสส. ได้เข้าร่วมการหารือทวิภาคีกับ พล.อ.เหงียน เติน เกือง ประธานคณะเสนาธิการทหาร กองทัพเวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ในโลกและในภูมิภาค รวมถึงประเด็นความมั่นคงร่วมกัน อาทิ ความตึงเครียดในพื้นที่ทางทะเล ความร่วมมือในกรอบอาเซียน ความท้าทายด้านชายแดนของประเทศในอาเซียน กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
ผบ.ทสส. ได้กล่าวเน้นย้ำว่า สถานการณ์โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความอ่อนไหวสูง เราจะต้องติดตามและเรียนรู้ร่วมกัน ไทยมุ่งมั่นในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคผ่านกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคต่างๆ สนับสนุนแนวทางของอาเซียนในการแก้ปัญหาความไม่สงบในประเทศเมียนมา และต้องร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ การหลอกลวงทางเทคโนโลยี (scam center)
ทั้งนี้ ต่อกรณีสถานการณ์ชายแดน ไทยมีจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยจากการรุกรานและคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนซึ่งเป็นผืนแผ่นดินในราชอาณาจักรไทยมาโดยตลอด ไทยจะไม่รุกรานประเทศอื่น (non-aggression) และจะตอบโต้การรุกรานเท่าที่จำเป็น (proportional response)
ฝ่ายไทยเสนอที่จะคลี่คลายสถานการณ์ผ่านขั้นตอนของการปรับลดกำลังเผชิญหน้าและนำอาวุธยิงระยะไกลกลับสู่ที่ตั้งปกติ ดำรงการเจรจาในลักษณะทวิภาคีระดับพื้นที่และระดับกระทรวงกลาโหม ดำรงความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนเพื่อความผาสุกของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามเคยมีบทบาทที่สำคัญในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อยุติความรุนแรงภายใน ช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยสงคราม (humanitarian assistance) ก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สนับสนุนการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยภายใต้การกำกับดูแลของสหประชาชาติ (UN) และส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นซึ่งเป็นบทบาทที่น่ายกย่องเพราะเป็นความร่วมมือที่นำสันติภาพมาสู่ภูมิภาคนี้
ผบ.ทสส. ขอให้เวียดนามร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ scam center พร้อมชื่นชมการพึ่งพาตนเองในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของเวียดนาม และยังสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกศึกษา การฝึกร่วมทาง บก เรือ อากาศ การลาดตระเวนร่วม การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง
ในโอกาสนี้ ผบ.ทสส. รับฟังความคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ของกองทัพเวียดนามที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี ได้แสดงความยินดีในวาระครบรอบ 50 ปีของการรวมชาติ
ผบ.ทสส. ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นเอกภาพของอาเซียน (ASEAN Centrality) ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจ พร้อมผลักดันให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือระดับสูงไทย-เวียดนาม (High-Level Committee: HLC) ในระดับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ภายในปีนี้ เพื่อยกระดับกลไกความร่วมมือด้านกลาโหมให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเชิญเวียดนามเข้าร่วมการประชุม Chief of Defence Forces (CHOD) Conference 2025 ซึ่งประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคม 2568 ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งได้เชิญประธานคณะเสนาธิการทหาร กองทัพเวียดนาม เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสอันเหมาะสม เพื่อสานต่อความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองกองทัพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น