มาริษ สั่งกรมสนธิสัญญาฯ ยื่นศาลอาญาโลก ฟ้องเขมร ฐานอาชญากรสงคราม
มาริษ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลก ฟ้องเขมร ฐานอาชญากรสงคราม จ่อส่งหนังสือ ICRC ประท้วงกัมพูชา ละเมิดกม.มนุษยธรรมระหว่างประเทศ
เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 26 ก.ค.2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ แถลงผลการประชุม UNSC รวมถึงท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเมื่อหลังจากได้แถลงแล้วนั้น ได้เปิดให้สื่อมวลชนถามในประเด็นต่างๆ
อ่านข่าว : มาริษ เผยผลประชุม UNSC ให้หยุดยิง ใช้เวทีทวิภาคีเจรจาโดยสันติ หนุนอาเซียนแก้ขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นที่ว่ามีการละเมิดมนุษยชน โดยเฉพาะเด็กและสตรี ทางกระทรวงการต่างประเทศจะยื่นเรื่องการละเมิดอนุสัญญาเวียนนาหรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า ตามที่กล่าวว่าจะให้อธิบดีทำหนังสือประท้วงและประณามอย่างรุนแรง
ในส่วนขององค์กรต่างๆ ของยูเอ็นและในบริบทของยูเอ็น อนุสัญญาต่างๆ ให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย รวมถึงกรมองค์การระหว่างประเทศ พิจารณาร่วมกันอยู่ว่าเราจะไปในลักษณะไหน
ขณะนี้พูดได้คร่าวๆ ในเรื่องของคณะกรรมกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ในเรื่องสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และเรื่องนี้ยังมีกรอบอื่นๆ อีกเยอะ ให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมองค์องค์การระหว่างประเทศพิจารณาอยู่
เมื่อถามว่าในการโจมตีของกัมพูชา ส่วนใหญ่พุ่งเป้ามาที่พลเรือน หากเกิดขึ้นอีก ไทยจะนำกัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ข้อหาเป็นอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศได้หรือไม่ นายมาริษกล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดเยอะ ตนได้สั่งการให้โดยเฉพาะกรมสนธิสัญญาและกฎหมายพิจารณาเรื่องนี้ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะการที่เราจะไปถึงจุดนั้น มันมีรายละเอียดและการเตรียมการอีกเยอะ
แน่นอนว่าในทุกช่องทางที่เราสามารถไปได้ เราได้พูดคุยกันอยู่ตลอดเวลาในกระทรวงการต่างประเทศว่า การกระทำอันรุกรานของกัมพูชามีเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่มีแค่ใช้เป้าหมายพลเรือน ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นี่ชัดเจนในส่วนของไอซีซีมันมีกรอบ มีขั้นตอนและรายละเอียดอีกเยอะ ซึ่งกำลังพิจารณากันอยู่
ส่วนเรื่องการใช้ทุ่นระเบิด เราได้ยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา รัฐภาคี ตรงนี้มันมีหลักฐานชัดเจน มันมีระดับของการกระทำอันรุกรานขนาดไหน (act of aggression) ที่จะอยู่ในสถานะที่เราจะฟ้องอะไรได้ ซึ่งเราไม่อยากดำเนินการไปโดยที่ไม่สามารถทำได้มันก็จะเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเรา
เมื่อถามว่าตอนไปนิวยอร์ก มีประเทศที่ 3 หรือประเทศอื่น ที่เสนอช่วยเหลือหารือหรือเจรจา นายมาริษกล่าวว่า เท่าที่ตนอยู่ที่นั่นไม่ได้มีใครพูดเรื่องนี้ และอย่างที่ผมพูดไปและกระทรวงต่างประเทศยืนยันมาตลอดว่าขณะนี้เราต้องการใช้การเจรจา 2 ฝ่ายบนหลักการสันติวิธีและจริงใจ ในส่วนของประเทศที่ 3 ไม่ได้มีใครมาพูดเรื่องนี้
จากนั้นนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงย้ำจุดยืนของกระทรวงการต่างประเทศต่อการโจมตีเป้าหมายพลเรือนว่า การโจมตีบุคคลพลเรือน สถานที่ของพลเรือน และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ อย่างไม่เลือกเป้าหมาย ของกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานพยาบาล
ถือเป็นการอาจละเมิดอนุสัญญา เจนีวา คศ. 1949 อย่างชัดเจนและอย่างร้ายแรง รวมถึงข้อ 19 ของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 1 ว่าด้วยการคุ้มครองหน่วยแพทย์และสถานพยาบาล และข้อ 18 ของอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ว่าด้วยการคุ้มครองโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน
ดังนั้น ประเทศไทยขอประณามอย่างรุนแรง ของการกระทำอันไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ซึ่งขัดต่อพันธะกรณี ภายใต้อนุสัญญาเจนีวา ชัดเจน รัฐบาลไทยจะมีหนังสือถึงประธาน ไอซีอาร์ซี เพื่อทำการประณาม การกระทำอย่างรุนแรงต่อการละเมิดกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศ อย่างร้ายแรง อยากเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มาริษ สั่งกรมสนธิสัญญาฯ ยื่นศาลอาญาโลก ฟ้องเขมร ฐานอาชญากรสงคราม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th