ผลการศึกษาเผย วัยรุ่นยุโรปเพียงครึ่ง ยังเชื่อมั่นว่าประชาธิปไตยดีที่สุด โดย 1 ใน 10 ไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเป็นยังไง
ยังเชื่อมั่นในประชาธิปไตยมากแค่ไหน รับได้กับเผด็จการหรือเปล่า และยังมีความกังวลอะไรอีกบ้าง?
ผลการศึกษาล่าสุด จัดทำโดยสถาบัน YouGov สำหรับมูลนิธิ Tui จากการเก็บข้อมูลผู้คนมากกว่า 6,700 คนที่มีอายุระหว่าง 16-26 ปีในอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี กรีซ และโปแลนด์ เผยทัศนคติทางการเมืองของเยาวชน Gen Z ในยุโรป พบว่า มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเชื่อมั่นว่าประชาธิปไตยคือรูปแบบการปกครองที่ดีที่สุด
ตัวเลขนี้ ยิ่งน่าเป็นห่วงในฝรั่งเศสและสเปน ที่มีผู้สนับสนุนประชาธิปไตยเพียง 51-52% และในโปแลนด์ที่ 48% สวนทางกับเยอรมนีที่ยังคงมีความเชื่อมั่นสูงถึง 71%
อีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจและน่าตกใจ คือ กว่า 1 ใน 5 ของเยาวชน (21%) มองว่าการปกครองแบบเผด็จการเป็นทางเลือกที่ยอมรับได้ภายใต้สถานการณ์บางอย่าง โดยเฉพาะในอิตาลีที่ตัวเลขนี้พุ่งสูงถึง 24% ขณะที่เยอรมนีอยู่ที่ 15% และฝรั่งเศส สเปน โปแลนด์ อยู่ที่ 23%
นอกจากนี้ เกือบ 1 ใน 10 ของเยาวชน ไม่สนใจว่ารัฐบาลของตนจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และอีก 14% ไม่สามารถให้คำตอบได้
ทอร์สเทน ฟาส (Thorsten Faas) นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน หนึ่งในทีมงานวิจัย ระบุว่า กลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีแนวคิดขวาจัดและรู้สึกว่าตนเองเสียเปรียบทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนประชาธิปไตยลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหลือเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น จนอาจกล่าวได้ว่า นี่อาจสัญญาณว่า “ประชาธิปไตยกำลังเผชิญแรงกดดัน ทั้งจากภายในและภายนอก”
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้น โดย 48% ของเยาวชนยุโรปกังวลว่าระบบประชาธิปไตยในประเทศของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี ที่กังวลสูงถึง 61% ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มการเมืองขวาจัดที่ได้รับแรงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่
ในภาพรวมระดับโลก เยาวชนยุโรปรับรู้ว่า อำนาจระดับโลกกำลังเปลี่ยนมือไปจากยุโรปแล้ว มีเพียง 42% เท่านั้นที่ยังคงมองว่าสหภาพยุโรปเป็น 1 ใน 2 ผู้เล่นหลักของโลกอยู่ ขณะที่สหรัฐอเมริกาที่ได้รับความเชื่อมั่นถึง 83% จีน 75% และรัสเซีย 57%
และแม้ว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แต่เยาวชนอังกฤษกลับแสดงความปรารถนาที่จะกลับเข้าร่วม EU อย่างท่วมท้นถึง 73% และ 47% ของเยาวชนยุโรป ต้องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง EU กับอังกฤษให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงแนวโน้มทางสังคมและการเมืองที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน โดยจำนวนเยาวชนที่ระบุว่าตนเองมีแนวคิดทางการเมืองอยู่ทางขวาของศูนย์กลางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 14% ในปี 2021 เป็น 19%
นอกจากนี้ ยังพบความแตกต่างทางเพศในแนวคิดทางการเมือง โดยผู้หญิงในเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี มีแนวคิดก้าวหน้ามากขึ้น ในขณะที่ผู้ชายในโปแลนด์และกรีซกลับมีแนวคิดอนุรักษนิยมมากขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน
ประเด็นการย้ายถิ่นฐานก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความสนใจ โดย การสนับสนุนมาตรการจำกัดการย้ายถิ่นฐานที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพิ่มขึ้นจาก 26% ในปี 2021 เป็น 38% ทั่วทั้งยุโรป
แม้จะมีความกังวลและความไม่พอใจในบางประเด็น แต่เยาวชนยุโรปส่วนใหญ่ยังคงมีความหวังในศักยภาพของสหภาพยุโรป และ 2 ใน 3 ยังคงสนับสนุนให้ประเทศของตนเป็นสมาชิก EU ต่อไป อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสนอแนะและข้อกังวลที่ชัดเจน เช่น 39% มองว่า EU ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยมากนัก และมีเพียง 6% เท่านั้นที่คิดว่ารัฐบาลของตนทำงานได้ดีและไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เยาวชนกว่า 53 รู้สึกว่า EU มุ่งเน้นไปที่รายละเอียดและเรื่องเล็กน้อยมากเกินไป พวกเขาต้องการให้ EU ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น เสริมสร้างการป้องกันภัยคุกคามภายนอก และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
เอลเค่ ฮลาวัตเชก (Elke Hlawatschek) หัวหน้ามูลนิธิ Tui กล่าวว่า “โครงการยุโรปซึ่งนำมาซึ่งสันติภาพ เสรีภาพในการเคลื่อนไหว และความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจมาหลายทศวรรษ ถูกมองว่าเป็นโครงการที่ควบคุมได้ยาก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาวกรีกที่แสดงออกถึงความต้องการที่จะปฏิรูปการเมืองอย่างถอนรากถอนโคน และตั้งข้อสงสัยต่อ EU มากที่สุด ซึ่งฟาสเชื่อว่ามาจากบาดแผลทางเศรษฐกิจจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน
นอกจากนี้ แม้เยาวชนยุโรปจะให้การสนับสนุนการปกป้องสภาพภูมิอากาศที่มากขึ้น แต่ก็มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่คิดว่าควรให้ความสำคัญกับการปกป้องสภาพภูมิอากาศมากกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งลดลงจาก 44% ในปี 2021
ภาพรวมจากงานศึกษาชิ้นนี้ อาจสะท้อนให้เห็นได้ว่าเยาวชนยุโรปกำลังเผชิญกับความท้าทายจากหลายด้าน ทั้งความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ แนวโน้มทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป และความสงสัยในสถาบันประชาธิปไตยและสหภาพยุโรป ที่ล้วนอาจส่งผลต่อทิศทางในอนาคตของทวีปยุโรปได้ทั้งสิ้น
อ้างอิงจาก