จุดจบ “รัฐบาลอิ๊งค์2” วันไหน?
แม้จะผ่านทุกพิธีกรรม จนมาเป็น “ครม.อิ๊งค์1/2” ที่มี “พี่อ้วน-ภูมิธรรม เวชชยชัย” นั่งหัวโต๊ะ เป็นรักษาการนายก แทน “อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ที่ต้องแปลงร่างจาก ”นายกฯ” เป็น “รมว.วัฒนธรรม” พร้อมกับต้องไปตั้งหลัก สู้คดี เช่นเดียวกับคุณพ่ออย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่คิวมี 2 คดีใหญ่ ม.112 และ คนชั้น14 ตลอดเดือนนี้
ส่วน ”อิ๊งค์” ประเดิม คดีคลิปเสียงฮุนเซนในศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องส่งคำชี้แจงภายใน 15 วัน หลังศาลรับคำร้อง และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่จากทั้งสภาพการณ์แรงกดดันทางการเมืองทุกทิศทาง ที่จี้ให้ “อิ๊งค์” รีบจบแบบเจ็บน้อย ด้วยการแสดงความรับผิดชอบ นอกจากคำ “ขอโทษ” ด้วยการลาออกเอง ก่อนที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะวินิจฉัย นอกจากจะกลายเป็นสารตั้งต้น ของคดีอื่นที่อยู่ในองค์กรอิสระอีกหลายคดี ยังจะกลายตราบาปจริยธรรมติดตัว แบบ “เศรษฐา” แถมอาจลามธุรกิจครอบครัว ”ชินวัตร”
ที่แม้ “อิ๊งค์” จะยืนยันกับครม.ใหม่ว่ายังคงสู้ และแม้ว่า ผู้คนในเพื่อไทยทั้ง “พี่อ้วนภูมิธรรม” จะย้ำเป้าหมายรัฐบาลอยู่ได้ยาวครบเทอมปี 70 หากแต่สภาพการณ์ที่ถูกวิเคราะห์เป็นความเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง ที่แม้จะแก้ด้วยการปรับครม. ที่หน้าตาที่ออกมา ถูกมองเป็นการแก้ปัญหาการเมืองเพื่ออยู่ในอำนาจ จะไม่ลาออกไม่ยุบสภา เพราะกลัวทั้งน้ำเงินและส้ม และ ประวิงเวลาในการรอผลลัพธ์คดีของทั้ง “อิ๊งค์” และ “ทักษิณ”
แต่ในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่มีศึกเขมร และสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจซ้ำซ้อน ที่มีคิว “ภาษีทรัมป์” ต้องรีบแก้ จะก่อปฏิกริยาเป็นแรงกดดันจากทุกฝ่ายมากขึ้น อย่างที่เห็นการเคลื่อนไหวของ “ฝ่ายค้าน” ทั้ง ส้ม-น้ำเงิน ที่แม้จะมีธีมเรียกร้องให้มีการยุบสภา แต่ก็ยังมีข่าวโยนหินถามทางปม “นายกชั่วคราว”ออกมา
กระนั้นจากสถานการณ์ชิมลาง การนับองค์ประชุมจนต้องชิงปิดประชม ที่เกิดขึ้นในสภาฯเมื่อวาน (3ก.ค.)แม้จะเพราะความไม่พร้อม ที่รัฐมนตรีใหม่บางรายยังเป็นส.ส. แต่ก็ยังถูกมอง มีโอกาสสุ่มเสี่ยง ในการที่จะมีกฎหมายสำคัญ หากไม่ผ่านในสภารัฐบาลต้องรับผิดชอบ ไม่นับรวมถึงอาการที่ต้องเอาใจ “พรรคร่วมรัฐบาล” ของ “เพื่อไทย” กับการเปย์เก้าอี้รัฐมนตรี ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาการต่อรอง
ยิ่งมีสัญญานจากฝ่ายค้านป้ายแดง “ภูมิใจไทย” ที่ นอกจาก ”หัวหน้าหนู อนุทิน ชาญวีรกูล” จะตั้งคำถามรัฐบาล ถึงเสียงส.ส.ที่แท้จริงจะปริ่มน้ำแค่ไหน ยังมีหลายฝ่ายเริ่มเรียกร้องให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” ตัดสินใจทางการเมือง ในการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเพื่อให้ประเทศเดินหน้า เนื่องจาก “รัฐบาลอิ๊งค์” นายกฯถูกมองขาดความชอบธรรม ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ที่กลายเป็นความไม่ชัดเจนของฝ่ายนโยบาย ที่ส่งผลกระทบต่อ ข้าราชการที่อาจทำให้เกิดสภาพ “เกียร์ว่าง”
อย่างที่ “เทพไท เสนพงศ์” โพสFB ว่า “สภาล่มวันแรก ลางร้ายรัฐบาลอิ๊งค์2” โดยมองว่ารัฐบาลชุดนี้จะไปต่อได้อีกไม่นาน เพราะ เสียงปริ่มน้ำ สภาพนอกสภาก็ขาดศรัทธาจากประชาชน ประชาชนไม่เชื่อมั่น ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เห็นได้จากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้นายก หยุดปฎิบัติหน้าที่ นักลงทุนขานรับ มีความเชื่อมั่น ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นทันที แสดงให้เห็นว่า เป็นสัญญาณที่ดี นักลงทุนเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกต่อไป ทำให้ขาดความเชื่อมั่น ทางออกที่ดีที่สุดในวันนี้คือ นายกรัฐมนตรีลาออก ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ แล้วก็ประกาศยุบสภาทันที คืนอำนาจให้กับประชาชน
โดยไม่ต้องมีเงื่อนไข การทำประชามติ พรบ.นิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญใด ๆ ทั้งสิ้น ให้เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ที่นำไปสู่สนามเลือกตั้ง และใช้เป็นประเด็นหาเสียง
ขอฉันทามติจากประชาชน จะได้มีความชัดเจนในเรื่องนโยบายมากกว่าการมาแอบอ้างความต้องการของประชาชน
และว่า ขอสนับสนุนให้มีการยุบสภา ใช้โมเดลเดียวกับรัฐบาล นายอานันท์ ปัณยารชุน เมื่อรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แถลงนโยบายภายใน9วัน หลังจากนั้น 8 วันประกาศยุบสภาเพื่อการเลือกตั้ง หลังจากนั้นประเทศจะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่าย ถ้าขืนให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไป จะล้มละลายในความน่าเชื่อถือ ประกอบกับสภาพในสภาผู้แทนราษฎร ไม่อยู่ในสภาพที่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้ จึงเรียกร้องให้ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews