โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

Bank of England อธิบาย “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” ทำให้ “คนรุ่นปัจจุบัน” มีคุณภาพชีวิตดีกว่า “คนรุ่นเก่า”

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

อาคารธนาคารชาติอังกฤษ อายุกว่า 300 ปี ที่มาภาพ : wikimapia

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารชาติอังกฤษ หรือ Bank of English ที่ตั้งมาแล้วกว่า 300 ปี พยายามอธิบายด้วยภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้ ในเรื่องการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินนอกจากนี้ ยังพยายามให้การศึกษาเรียนรู้แก่คนทั่วไป ในเรื่องเศรษฐศาสตร์ (economics) ทั้งการบรรยายตามโรงเรียน พัฒนาข้อมูลอ้างอิงออนไลน์ รวมทั้งผลิตหนังสือที่อธิบายแนวคิดหลักของเศรษฐศาสตร์ พิมพ์ออกมาในชื่อ Can’t We Just Print More Money? หรือ “เราแค่พิมพ์ธนบัตรออกมามากขึ้นไม่ได้หรือ?”

ในเรื่องเกี่ยวกับ “เศรษฐกิจมหภาค (macroeconomics) หรือระบบเศรษฐกิจโดยรวม จะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของคนเราเป็นรายบุคคล และถูกนำมารวมกันเป็นธุรกรรมเศรษฐกิจโดยรวม เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นจากบูรณาการของทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน เครื่องจักร กับความรู้ในการผลิตสิ่งของ (know-how) และวิธีการวัดสิ่งที่เรียกว่า “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ยกมาตรฐานความเป็นอยู่คนทั่วโลกให้สูงขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

การเติบโตทำให้ฐานะคนเราสูงขึ้น

Bank of England ที่มาภาพ : amazon.com

หนังสือ Can’t We Just Print More Money? กล่าวว่า เมื่อย้อนเวลากลับในทศวรรษ 1970 ที่คนจำนวนมากคุ้นเคยกับชีวิตในเวลานั้น สภาพการทำงานก็ยากลำบาก หัวหน้างานเป็นผู้ชายทั้งหมด การเขียนเอกสารใช้พิมพ์ดีด ปี 1972 รายได้เฉลี่ยพนักงานในอังกฤษตกสัปดาห์ละ 36.6 ปอนด์ (เงิน 1 ปอนด์ในเวลานั้นมีค่า 10 ปอนด์ในปัจจุบัน) แต่เวลานี้ รายได้พนักงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 728 ปอนด

ตามสภาพความเป็นจริง ชีวิตในศตวรรษ 21 ดีกว่าในทศวรรษ 1970 ความมั่งคั่งมากขึ้นทำให้คุณภาพชีวิตได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นหลายด้าน เช่น รายได้สูงขึ้นทำให้อายุขัยเฉลี่ยสูงขึ้น คนเราสามารถเพิ่มวุฒิการศึกษามากขึ้น และการมีงานทำที่มั่นคงมากขึ้น อะไรคือสิ่งที่อธิบายคุณภาพชีวิตที่แตกต่างกันของคนในแต่ละรุ่น คำตอบคือ “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” (economic growth) คุณภาพชีวิตคนเราจึงขึ้นกับระดับเศรษฐกิจ ที่ขยายตัว หดตัว หรือชะงักงัน

GDP = C+I+G+(X-M)

Can’t We Just Print More Money? กล่าวว่า พูดอย่างง่ายๆก็คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจคือการยกระดับการเพิ่มขึ้นในรายได้ของประชาชนทั้งประเทศ เศรษฐกิจเติบโตยังสามารถรับมือกับการเพิ่มขึ้นของประชากร โดยที่ไม่ทำให้มาตรฐานชีวิตลดลง ถ้าเศรษฐศาสตร์หมายความถึงการกระจายทรัพยากร การเติบโตก็ทำให้มีทรัพยากรเพิ่มขึ้น ที่จะนำไปกระจายอย่างทั่วถึง

แต่คำว่า “การเติบโต” เป็นแนวคิดนามธรรม จึงมักมีการเปรียบเทียบุปมาอุปไมย เช่น การเติบโตเหมือนรถยนต์ ที่มีทั้งเร่งความเร็วและลดความเร็ว เหมือนสวนปลูกกล้วยไม้ จะเติบโตได้ต้องมีระบบนิเวศที่เอื้ออำนวย แต่ที่นิยมเปรียบเทียมกันมากคือขนมเค้ก การเติบโตเศรษฐกิจทำให้ก้อนขนมเค้กโตขึ้น หมายถึงแต่ละคนในสังคมได้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น

ที่มาภาพ : pinterest

เนื่องจากเศรษฐกิจมีขอบเขตกว้างใหญ่มาก ประกอบด้วยประชาชนหลายล้านคน มีการตัดสินใจเรื่องธุรกรรมต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน การจะติดตามตรวจสอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ แล้วอย่างนั้น จะรู้ได้อย่างไรว่า “ขนมเค้กเศรษฐกิจ” มีขนาดโตขึ้น

Bank of England อธิบายว่า ในทศวรรษ 1930 รัฐบาลสหรัฐฯพยายามเข้ามาจัดการกับเรื่องนี้ ในท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ทุกคนมองเห็นเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา เช่น คนตกงานจำนวนมาก หรือธุรกิจล้มละลาย แต่ฝ่ายบริหารสหรัฐฯไม่มีเครื่องมือที่จะวัดการเติบโตเศรษฐกิจ ทุกคนรู้ว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่ไม่รู้ว่ามากขนาดไหน ทำให้ยากที่จะคาดการณ์ว่า จะใช้นโยบายอะไรมารับมือได้ดีที่สุด

เพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐสภาสหรัฐฯดึงนักเศรษฐศาสตร์ชื่อ Simon Kuznets จากสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ มาช่วยหาวิธีวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นงานที่ยากลำบากมาก เพราะเศรษฐกิจกำลังประสบปัญหาการตกต่ำครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน Simon Kuznets กับคณะทำงาน ใช้เวลา 3 ปี เสนอรายงานที่เรียกว่า “รายได้ประชาชาติ” (National Income) โดยพัฒนาระบบชี้วัดขึ้นมา ที่ปัจจุบัน ทุกประเทศใช้วัดภาวะเศรษฐกิจ เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ” หรือ Gross Domestic Product (GDP)

GDP สามารถวัดได้จากทางใดทางหนึ่งจาก 3 ทาง คือ (1) มูลค่าของทุกอย่างที่เศรษฐกิจผลิตขึ้นมา ที่สามารถซื้อขายได้ (2) รายได้ทั้งหมดจากการผลิตสินค้าและบริการ และ (3) การใช้จ่ายเงินกับสินค้าและบริการของทุกคนในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น ทั้ง 3 วิธีนี้คือวิธีการวัดในสิ่งเดียวกัน เมื่อมีการผลิตมากขึ้น และขายได้มากขึ้น GDP ประเทศก็จะเติบโตมากขึ้น นักเศรษฐศาสตร์จึงเขียนเป็นสมการออกมาเป็น GDP = C + I + G + (X – M)

สมการนี้พยายามสะท้อนในทุกอย่างที่ประชาชนใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อมา เช่น ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพื่อบริโภค (C) ใช้เงินลงทุนซื้อเครื่องจักร (I) หรือการใช้จ่ายเงินภาครัฐ (G) เรื่องถนนหรือสาธารณสุข สมการยังรวมถึงเงินไหลเข้าประเทศจากการส่งออก (X) และเงินไหลออกนอกประเทศจากการนำเข้า (M)

Simon Kuznets ยอมรับว่า วิธีการวัดนี้ยังไม่สมบูรณ์ มีหลายเรื่องที่ไม่ได้นำมาพิจารณา ทั้งที่มีส่วนปรับปรุงคุณภาพชีวิตคนเรา เช่น GDP ไม่ได้วัดเรื่องความสุข ไม่ได้วัดระดับความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ไม่ได้วัดความเหลื่อมล้ำ ไม่ได้วัดสิ่งที่เป็นคุณภาพชีวิตของคนเรา และไม่ได้รวมเศรษฐกิจนอกระบบ แม้คุณภาพชีวิตกับ GDP จะเกี่ยวพันกัน แต่ก็มีหลายครั้งที่เศรษฐกิจเติบโต แต่ประชาชนอาจจะไม่ได้รับในสิ่งที่เป็นสุขอนามัย

คำถามมีอยู่ว่า หาก GDP มีจุดอ่อนหลายอย่าง ทำไมประเทศต่างๆยังอาศัยเป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ คำตอบก็คือว่า GDP ช่วยบอกอะไรบางอย่างในเรื่องคุณภาพชีวิตประชาชน อย่างเช่น ฝรั่งเศสกับอินเดียมี GDP ใกล้เคียงกัน แต่คนฝรั่งเศสเป็นรายบุคคลมั่งคั่งกว่าคนอินเดียรายบุคคล

เพราะเหตุนี้ นักเศรษฐศาสตร์จึงอาศัยสิ่งที่เรียกว่า “GDP ต่อคน” คือ GDP ที่หารด้วยจำนวนประชากร อินเดียมีประชากรมากกว่าฝรั่งเศส ดังนั้น GDP ต่อคนจึงบอกให้รู้ว่า อินเดียเป็นประเทศยากจนกว่า เมื่อปริมาณก้อนขนมเค้กของสองประเทศมีขนาดเท่ากัน คนฝรั่งเศสแต่ละรายจะได้รับส่วนแบ่งมากกว่าคนอินเดีย

หนังสือ Bank of England กล่าวว่า ขนาดส่วนแบ่งของขนมเค้ก มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตการดำรงอยู่ของคนเรา จากการศึกษาค้นพบว่า การเติบโตเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความยากจนลดลง มีรายงานหนึ่งกล่าวว่า เมื่อ GDP ต่อคนเพิ่มขึ้นเท่าตัว รายได้ของคนระดับล่างจำนวน 1 ใน 5 จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวด้วย ช่วง 29 ปี (1981-2010) คนจีน 680 ล้านคน หลุดพ้นจากความยากจน สาเหตุสำคัญมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน

ที่มาภาพ : People Daily

ทำอย่างไรจะให้ส่วนแบ่งเค้กมากขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบเศรษฐกิจคล้ายขนมเค้ก คำถามมีอยู่ว่า ทำอย่างไรให้แต่ละคนได้ส่วนแบ่งที่มากขึ้น และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากตั้งคำถามนี้ แต่คำตอมที่มีชื่อเสียงมาก มาจากนักเศรษฐศาสตร์ 2 คน คือ Robert Solow และ Trevor Swan ที่พัฒนาโมเดลออกมาว่า การเติบโตเศรษฐกิจมาจากปัจจัยการผลิต ที่ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน ทุน และเทคโนโลยี

เมื่อเข้าใจในปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ก็จะตอบคำถามได้ว่า ทำไมการเติบโตทางเศรษฐกิจทำให้คนรุ่นปัจจุบัน มีคุณภาพชีวิตดีกว่าคนรุ่นเก่า การเติบโตให้คุณประโยชน์แก่ชีวิตคนเรา เช่น สาธารณสุขดีขึ้น รวมทังการศึกษา อาหาร เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ หรือสมาร์ทโฟน

แต่การเติบโตของเศรษฐกิจ ไม่ได้มีผลกระทบด้านบวกแก่ชีวิตคนเราเสมอไป ในปี 1955 Simon Kuznets เสนอรายงานว่า ในบางสถานการณ์ การเติบโตเศรษฐกิจทำให้ความเหลื่อมล้ำเลวร้ายลงไปอีก เหตุผลมีง่ายๆ ในลำดับขั้นระยะแรกการเติบโตของเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำของรายได้จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ในที่สุด เมื่อเศรษฐกิจพัฒนาสมบูรณ์ขึ้น ระดับความเหลื่อมล้ำจะลดลง

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนพยายามพิสูจน์แนวคิดของ Simon Kuznets และพบว่า เป็นแนวคิดถูกต้อง ประโยชน์จากการเติบโต โดยเฉพาะที่มาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ได้ให้ประโยชน์ทั่วถึงแก่ทุกคน โดยเฉพาะในระยะสั้น ตัวอย่างที่จะเกิดในอนาคตคือ รถยนต์ที่ขับเองอัตโนมัติ จะทำให้คนขับรถแท็กซี่จำนวนมากต้องตกงาน เป็นต้น

การเติบโตทางเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ต่อคนของคนเราสูงขึ้น ทำให้เราแต่ละคนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการมากขึ้น ที่อยู่อาศัยและโภชนาการมีคุณภาพดีขึ้น ทำให้คนเราเข้าถึงบริการสาธารณสุข การศึกษา และบริการสำคัญอื่นๆ ที่มีส่วนทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมสูงขึ้น

เอกสารประกอบ

Can’t WE Just Print More Money? The Bank of England, Penguin, 2022.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

นายกฯมาเลเซียเผยไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เที่ยงคืน 28 กรกฎาคม

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘คดีชั้น 14’ นัดที่ 6 แพทยสภา 3 ปาก ให้การตรงกัน ‘ไม่ได้ป่วยวิกฤติ’ รักษาตัวแบบไปกลับได้

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ภูมิธรรมเผยทรัมป์ต่อสายชื่นชมไทยเป็นตัวอย่างรักษาสันติภาพ-อยากมาเยือนไทย เผยเจรจาภาษีสหรัฐเดินหน้าทางบวก

THE STANDARD

ทรัมป์ร่นเส้นตายรีดภาษีรัสเซีย ส่งผลน้ำมันขยับขึ้น 2 %

JS100

ภาษีอะลูมิเนียมสหรัฐฯ ดันต้นทุนพุ่ง จุดกระแสรีไซเคิล

ฐานเศรษฐกิจ

ทหาร ร.31 ยึด “ปราสาทตาควาย” ก่อนเดดไลน์หยุดยิงเที่ยงคืน

ฐานเศรษฐกิจ

ยังเชื่อไม่ได้!! ภูมะเขือ ปราสาทตาควาย ซำแต กัมพูชายิงยั่วยุทั้งคืน จับตาการเจรจาเช้านี้

The Better

จับตา! แม่ทัพภาค 1-2 เปิดโต๊ะคุยกัมพูชาหลังตกลงหยุดยิง

สำนักข่าวไทย Online

เพิ่งรู้? 'ทรัมป์' ชี้ชาวกาซามากมายกำลัง 'อดอยาก' แย้มสหรัฐฯ เตรียมตั้งศูนย์แจกจ่ายอาหารเพิ่ม

Manager Online

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 29 ก.ค. 68

AEC10NEWs

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...