MOODY: รู้สึกเหนื่อย แต่ไม่รู้ว่าเหนื่อยอะไร ลองสำรวจ 3 นิสัยเล็กๆ แต่กลับดูดพลังเรามหาศาลดูสิ
หลายคนอาจคิดว่าตัวเองหมดไฟ จากงานที่ทั้งหนักทั้งเร่งหรือเปล่า หรือเพราะเครียดสะสม แถมยังนอนไม่พออีก
แต่ความจริงแล้วสาเหตุที่แท้จริงอาจเกิดจากนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ที่ดูดพลังเราไปทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว
สิ่งแรกที่หลายคนมักเผชิญคือ ‘เรามักปล่อยให้สมาธิกระจัดกระจายอยู่ตลอดเวลา’ ในยุคที่เต็มไปด้วยการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ไหนจะรายการสิ่งที่ต้องทำที่ไม่มีวันจบ หรือการเปิดหลายแท็บทำให้เราพยายามจัดการทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน แม้ว่าการทำแบบนี้จะดูเหมือนว่าเรากำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้น
งานวิจัยจากวารสาร Developmental Review ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (media multitasking) กลับมีประสิทธิภาพในการควบคุมสมาธิลดลงอย่างชัดเจน แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อมั่นว่าตนเองทำได้ดีแล้วก็ตาม นักวิจัยยังพบว่าการทำงานแบบนี้เกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยที่แสวงหาความตื่นเต้น (sensation seeking) ซึ่งอาจลดความสามารถในการจดจ่อและควบคุมอารมณ์ของเราในระยะยาวได้ ดังนั้น การเลือกทำทีละอย่างอย่างมีสติ อาจเป็นหนทางที่ดีกว่าในการสงวนพลังงานทางจิตของเราไว้ใช้กับสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง
อีกนิสัยหนึ่งที่หลายคนมักมองข้าม แต่กลับเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราหมดแรง คือ ‘การตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน’ การพยายามเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ในตอนเช้า การเลือกเมนูกับข้าว หรือการเลือกเพลย์ลิสต์ฟังเพลงขณะทำงาน สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่กลับใช้ทรัพยากรทางจิตใจของเราไปอย่างมาก
นักวิจัยที่ตีพิมพ์งานใน Journal of Health Psychology ได้เรียกภาวะนี้ว่า ‘ความเหนื่อยล้าจากการตัดสินใจ’ (decision fatigue) ซึ่งการตัดสินใจที่เล็กน้อยแต่มีจำนวนมากมายสะสมกันตลอดวัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการตัดสินใจและควบคุมตนเองของเราลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าในสิ่งเล็กๆ เช่น เตรียมชุดที่จะใส่ไว้ล่วงหน้าทั้งสัปดาห์ หรือกำหนดเมนูอาหารล่วงหน้า อาจช่วยลดภาระทางจิตใจและช่วยให้เรามีพลังงานไว้ใช้กับเรื่องสำคัญที่แท้จริงมากขึ้น
สุดท้ายคือ ‘การดูแลตัวเอง’ (self-care) ที่หลายครั้งทำให้เราตกอยู่ใน ‘กับดักของการแสดงออกว่าดูแลตัวเอง’ (performing wellness) ยกตัวอย่างกิจกรรม เช่น การทำสมาธิ เขียนบันทึก หรือกินอาหารเพื่อสุขภาพ ที่บางคนทำเพียงเพราะรู้สึกว่ามันดูดีหรือเป็นที่ยอมรับในสังคมเท่านั้น จึงกลายเป็นการดูแลตัวเองที่มุ่งเน้นภาพลักษณ์ภายนอกแทนที่จะเน้นที่ความต้องการภายในอย่างแท้จริง ยิ่งสังคมโซเชียลมีเดียก็ยิ่งตอกย้ำให้เรารู้สึกว่าต้องทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้ดูดีในสายตาคนอื่น และทำให้เรารู้สึกเครียดและกดดันแทนที่จะได้รับการผ่อนคลายอย่างแท้จริง
เพราะความจริงแล้ว การดูแลตนเองควรเป็นกิจกรรมที่เราเลือกทำเพราะเหมาะสมกับความต้องการส่วนตัวและสถานการณ์ของเราในแต่ละวัน บางวันอาจต้องการการพักผ่อนที่แท้จริง มากกว่าการฝืนตัวเองไปทำโยคะหรือเขียนบันทึก สิ่งสำคัญที่สุดคือการฟังความต้องการของตนอย่างจริงใจ มากกว่าการพยายามไล่ตามกิจกรรมที่คนอื่นบอกว่าดี
เมื่อเราตระหนักถึงนิสัยเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้และผลกระทบที่ตามมาแล้ว เราจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างมีสติและตั้งใจมากขึ้น
นี่แหละคือก้าวสำคัญที่ MOODY คิดว่าจะช่วยให้เรามีพลังงานเพียงพอสำหรับชีวิตที่สมดุลและมีความสุขในทุกๆ วัน