แนะวิธีรับมือทรัมป์ ‘ปลดปธ.เฟด’ ขายบอนด์ 10 ปี ซื้อบอนด์ 2 ปีแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะปลด “เจอโรม พาวเวลล์” เหล่านักลงทุนจึงพยายามหาวิธีลดแรงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หนึ่งในนั้น คือ เจมส์ แวน กีเลน จากสถาบันการลงทุนCitrini Research ไม่รอช้าที่จะส่งการแจ้งเตือนไปยังลูกค้าประมาณ 50,000 รายของเขา
ในข้อความนั้นมีคำแนะนำง่ายๆ คือ “ซื้อพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐอายุ 2 ปี และขายพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี”
ทฤษฎีคือ ประธานเฟดคนใหม่ น่าจะยอมทำตามแรงกดดันของทรัมป์ให้ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนระยะสั้นลดลง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น ประกอบกับการรับรู้ถึงการสูญเสียความเป็นอิสระของธนาคารกลาง อาจกระตุ้นความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ผลตอบแทนของหนี้ระยะยาวสูงขึ้น
ด้านมาร์ก ดาวดิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน BlueBay Fixed Income ของ RBC Global Asset Management มองว่า “เราเคยคิดเสมอว่า ไม่มีเหตุผลใดที่จะปลดประธานเฟดได้ และเฟดก็รอดพ้นจากการแทรกแซงทางการเมืองมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ มีความรู้สึกชัดเจนว่าสิ่งนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป”
สำหรับดาวดิ้ง การป้องกันความเสี่ยงจากพาวเวลล์ถูกปลด คือ การเดิมพันเงินดอลลาร์ในเชิงลบ ไปจนถึงการเทรดแบบ Steepener ซึ่งใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่มีอายุต่างกัน ด้วยการเดิมพันว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะเพิ่มขึ้น
การเดิมพันเหล่านี้ พวกเขามองว่าจะได้รับการสนับสนุนจากความคาดหวังของการเติบโตที่ชะลอตัวลงของสหรัฐ ไปจนถึงความเป็นจริงของหนี้และภาวะขาดดุลที่เพิ่มขึ้น โดยภัยคุกคามต่อพาวเวลล์เป็นเพียงอีกหนึ่งปัจจัยหนุน
ตลอดที่ผ่านมา มีการโจมตีประธานเฟดที่รุนแรงขึ้น โดยปธน.ทรัมป์และพันธมิตรของเขาใช้ประเด็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มการตรวจสอบพาวเวลล์อย่างเข้มข้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในส่วนของพาวเวลล์เอง เขายืนยันว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากสงครามภาษีของทรัมป์ไม่ได้ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเปลี่ยนทิศจากที่ควรจะเป็น
ที่ตลาดการพนัน Polymarket มีการมองว่า ความน่าจะเป็นที่พาวเวลล์จะออกจากตำแหน่งในปี 2025 อยู่ที่ 22% เพิ่มขึ้นจาก 18% ในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยผู้ตอบแบบสำรวจ Markets Pulse ล่าสุดส่วนใหญ่คาดว่า ประธานจะยังคงอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม
“ตอนนี้การปลดพาวเวลล์มีประโยชน์จำกัด” โนอาห์ ไวส์ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Allspring กล่าว
ขณะที่เมแกน สไวเบอร์ นักกลยุทธ์ด้านอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจาก Bank of America มองว่า การเทรดแบบ Steepener เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรในกรณีที่พาวเวลล์ถูกปลดออก เนื่องจากกระทรวงการคลังอาจจำกัดการออกตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อควบคุมผลตอบแทนระยะยาว
สไวเบอร์แนะนำให้เดิมพันโดยอิงอัตราจุดคุ้มทุนที่สูงขึ้นแทน ซึ่งก็คือส่วนต่างของผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลทั่วไปกับพันธบัตรที่มีการปรับตามเงินเฟ้อ เธอกล่าวว่า นี่เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ชัดเจนกว่า ต่อความเสี่ยงที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้น หรือคือเกิดเงินเฟ้อ
“เรากำลังเห็นตลาดเงินเฟ้อ มีการกำหนดราคาพรีเมียมเกี่ยวกับความเสี่ยงความเป็นอิสระของเฟด” สไวเบอร์กล่าว “ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณกำลังกดดันเฟดในสภาพแวดล้อมที่การว่างงานต่ำ และเรายังคงเห็นเงินเฟ้อยังห่างไกลจากเป้าหมายของเฟด คุณก็จะเห็นตลาดมีการซื้อขายและรับรู้ถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
อ้างอิง: bloomberg