‘เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร’ คืนชีพ หลังห่างหายไป 16 ปี
“เทศกาลภาพยนตร์ไม่ใช่แค่การนําหนังมาฉาย วัตถุประสงค์ของมันมีอะไรมากมายกว่านั้น มันเป็นประตูที่จะเชื่อมให้เราก้าวไปสู่โลก และให้โลกเข้ามาหาเรา”
ดรสะรณ โกวิทวณิชชา อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ สารคดี และแอนิเมชัน และผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 กล่าวถึง “หัวใจสำคัญ” ของการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ ในวันแถลงข่าวรื้อฟื้นการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 (Bangkok International Film Festival 2025 หรือ BKKIFF 2025) ขึ้นมาอีกครั้งหลังการจัดครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2551
การกลับมาในรอบ 16 ปีครั้งนี้ มาพร้อมคณะกรรมการชุดใหม่ ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และ THACCA (Thailand Creative Culture Agency) ที่จับมือโรงภาพยนตร์ทุกเครือในกรุงเทพมหานคร จัดฉายภาพยนตร์จากหลากหลายประเทศทั่วโลกกว่า 200 เรื่อง จาก 50 สตูดิโอ เป็นระยะเวลา 19 วัน ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 15 ตุลาคมนี้
ปั้นกรุงเทพฯเป็น hub ภาพยนตร์อาเซียน
นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ กล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Power in Collaboration เพื่อสื่อถึงแนวทางการทำงาน ที่ต้องอาศัยพลังจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ศิลปิน ผู้สร้างสรรค์ และประชาชนทุกคน
ทั้งนี้เพื่อยกระดับกรุงเทพมหานครสู่การเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์และวัฒนธรรมร่วมสมัยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และให้เป็นพื้นที่สำคัญที่จะเชื่อมโยงบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากทั่วโลกทั้งผู้สร้างภาพยนตร์และนักลงทุนมาเจอกัน เพื่อสร้างเครือข่ายต่อยอดโอกาสทางธุรกิจสำหรับนักสร้างสรรค์ของไทย
“อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นอุตสาหกรรมที่เรามองว่าเป็นเรือธง เพราะไม่ใช่เพียงแค่สร้างรายได้ของตัวเองเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังเป็นตัวกลางที่จะนําพาซอฟต์พาวเวอร์อื่น ๆ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารไทย มวยไทย อัญมณี แฟชั่น หัตถกรรมต่าง ๆ”
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ยังเสริมด้วยว่าในปีที่ผ่านมาเราจะเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จํานวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังที่ประสบความสําเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ‘หลานม่า’ จากค่าย GDH ซึ่งสามารถเข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายของผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ‘ธี่หยด’ จากบีอีซี เวิลด์ และ M STUDIO ที่ประสบความสําเร็จเรื่องรายได้
รวมถึง ‘ผีใช้ได้ค่ะ’ ผลงานของ รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค จากค่าย 185 Films ที่ได้รับรางวัล Grand Prize AMI Paris จากเมืองคานส์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยกำลังจะกลับมาอีกครั้ง
“แต่ทั้งหมดที่เราทํามาจะขาดจิ๊กซอว์ตัวสําคัญไปไม่ได้เลย นั่นคือการมีเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เพราะถ้าเราจะเป็นผู้นําอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของโลก หรือแม้แต่ของเอเชียให้ได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าภาพยนตร์ไทยประสบความสําเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ไม่มีการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในเมืองหลวงกรุงเทพมหานครอีกแล้ว ดังนั้นจึงมีการพูดคุยกันที่จะนำเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานครกลับมาอีกครั้ง”
นพ. สุรพงษ์เปิดเผยว่า การจัดงาน BKKIFF 2025 ไม่เพียงตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายของคนสร้างภาพยนตร์ระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังต้องการสร้างเวทีให้คนไทยได้พัฒนาทักษะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมงานกับผู้สร้างภาพยนตร์จากทั่วโลก เพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานการผลิตและขยายโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในระยะยาว เป็นการบูรณาการความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมทั้งส่งเสริมศิลปินและผู้ประกอบการภาพยนตร์ของไทยให้สามารถเข้าถึงตลาดและเวทีระดับนานาชาติได้มากขึ้น
บรรดาผู้กำกับ ผู้บริหารค่ายหนัง ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ตลอดจนในหลายภาคส่วนของอุตสาหกรรมหนังไทยมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ทำหน้าที่เป็น ‘ตลาดหนัง’ อย่างแท้จริง
ดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 เปิดเผยว่า งาน BKKIFF 2025 เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะจัดฉายภาพยนตร์มากกว่า 200 เรื่อง ทั้งภาพยนตร์ขนาดยาว ขนาดสั้น สารคดี และแอนิเมชัน จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งมีการประกวดภาพยนตร์ขนาดยาวและขนาดสั้น พร้อมงานเสวนากับทีมงานของภาพยนตร์กว่า 70 เรื่อง
สำหรับไฮไลต์ของ BKKIFF 2025 คือ ตลาดหนัง ที่จะเปิดพื้นที่ให้ผู้สร้าง ผู้จัดจำหน่ายและนักลงทุน มาพบปะและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจภาพยนตร์และซีรีส์ระดับนานาชาติ โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
- การออกบูทจากผู้ผลิตและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยกว่า 50 บริษัท
- เวทีสัมมนาเชิงลึกจากผู้ซื้อภาพยนตร์นานาชาติ
- กิจกรรมมาสเตอร์คลาสจากผู้กำกับและนักแสดงระดับโลก
- กิจกรรมประกวดภาพยนตร์สั้น
- กิจกรรม Asian Project Pitching
- Thai Project Pitchingที่ให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ได้นำเสนอโปรเจกต์ต่อผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง
‘ธี่หยด 3’ หนังฉายเปิดเทศกาล
แน่นอนว่าเทศกาลภาพยนตร์จะขาด ”หนังฉายเปิดงาน“ ไปไม่ได้ สำหรับ BKKIFF 2025 นั้น ภาพยนตร์ที่ได้รับเลือกให้ฉายเปิดเทศกาลได้แก่ หนังไทยที่สร้างรายได้ระดับปรากฏการณ์อย่าง ‘ธี่หยด 3’
ดรสะรณกล่าวถึงปัจจัยในการพิจารณาคัดเลือกหนังเปิดเทศกาลในปีนี้ว่า 1.จะต้องเป็นหนังไทย 2.เป็นหนังที่ World Premiere หรือฉายเป็นครั้งแรกในโลกที่เทศกาลนี้ 3.ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ
“การที่เรามี ‘ธี่หยด 3’ ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์เปิดม่านเทศกาล ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนศักยภาพของหนังไทยซึ่งสามารถยืนหยัดและเฉิดฉายบนเวทีระดับโลกได้อย่างแท้จริง”
BKKIFF 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 15 ตุลาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ทั่วกรุงเทพมหานครทั้งในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, เอส เอฟ ซีเนม่า, เฮ้าส์ สามย่าน และลิโด้ คอนเน็คท์
พิธีเปิดเทศกาลจะมีขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2568 ณ พินาเคิล ฮอลล์ ไอคอนสยาม พร้อมจัดฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์เปิดม่านเทศกาล ถ่ายทอดเรื่องราวบทใหม่ของ ลุงยักษ์ ยศ ยอด และจ่าประพันธ์ กับการเผชิญหน้าดงผีแห่งใหม่ “บ่องสะโหนดเบียง” ที่จะพาผู้ชมสัมผัสบรรยากาศสยองขวัญบทใหม่อย่างเข้มข้น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ BKKIFFofficial ทั้ง Facebook, Instagram, TikTok และ X
ภาพบรรยากาศในวันแถลงข่าวรื้อฟื้นการจัดงาน BKKIFF 2025
(ซ้าย) คุณวราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (กลาง) นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ (ขวา) คุณโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
(ซ้าย) ชาติชาย เกษนัส ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และผู้บริหาร White light Post (ขวา) ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์
คุณพิมพกา โตวิระ Executive Director เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568
Martin Barshai (Film Director)
นน-ชานน สันตินธรกุล
เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ
ปราโมทย์ แสงศร
(หน้า) ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ แห่งสหมงคลฟิล์มและเฮาส์ สามย่าน (หลัง) อัด - อวัช รัตนปิณฑะ