โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

KTB ประเมินค่าเงินบาทวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทันหุ้น – นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.54 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลงในลักษณะ Sideways Up ทดสอบโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.44-32.55 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามการปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเฟดของผู้เล่นในตลาด ก่อนที่จะรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงามสัมนาวิชาการประจำปีของเฟด (Jackson Hole Symposium) ในช่วงราว 21.00 น. ของคืนวันที่ 22 สิงหาคม นี้ ตามเวลาประเทศไทย

โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ ราว 13% ขณะที่ในส่วนของปี 2026 นั้น ผู้เล่นในตลาดยังคงให้โอกาสราว 80% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง ทั้งนี้ แม้ว่าบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมจะอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว ทว่า การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางความหวังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ก็มีส่วนกดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องทดสอบโซนแนวรับ และเป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว (Buy on Dip) ของผู้เล่นในตลาด

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างรอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในงาน Jackson Hole Symposium และรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองหุ้นสหรัฐฯ อย่างชัดเจน ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.01%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.08% หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามแนวโน้มการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง โดยล่าสุดจะเป็นการเจรจาระหว่างผู้นำยูเครนกับผู้นำสหรัฐฯ หลังการเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับผู้นำรัสเซียได้จบลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อนึ่ง ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนบ้างจากการปรับตัวขึ้นของ Novo Nordisk +6.6% หลังยา Wegovy ได้รับการอนุมัติจาก FDA ของสหรัฐฯ ในการรักษาโรคตับชนิดรุนแรง นอกจากนี้ การประกาศกฎระเบียบใหม่สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจากทางการสหรัฐฯ ซึ่งมีความเข้มงวดน้อยกว่าที่ตลาดกังวล ก็มีส่วนช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือก อาทิ Vestas +15.1%

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวสูงขึ้นและทรงตัวเหนือโซน 4.30% อีกครั้ง หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง โดยเราคงมองว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความเสี่ยงที่ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้นต่อได้บ้าง หากตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หรือบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งอาจไม่ได้ส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

โดยเฉพาะการประชุม FOMC ในเดือนกันยายน อย่างชัดเจน ตามที่ตลาดกำลังคาดหวัง ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้ เนื่องจากเราคงคาดการณ์ว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลง ตามการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด (คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยจนถึงระดับ 3.00-3.25%)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้กดดันให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 148 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ตามส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นที่กว้างมากขึ้น ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนเลือกที่จะทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นของเงินดอลลาร์

อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 98.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.9-98.2 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ การปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเฟดของบรรดาผู้เล่นในตลาด ได้หนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น และกดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ปรับตัวลดลงเข้าใกล้โซนแนวรับระยะสั้นแถว 3,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงเห็นแรงซื้อทองคำ Buy on Dip จากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่ ซึ่งช่วยพยุงให้ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงหนัก

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลตลาดบ้านสหรัฐฯ อาทิ ยอด Building Permits และยอด Housing Starts ในเดือนกรกฎาคม พร้อมรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น และผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศในเดือนกรกฎาคม ทั้งยอดการส่งออกและนำเข้า (Exports & Imports)

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกของสหรัฐฯ รวมถึงติดตามพัฒนาการของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่สหรัฐฯ พยายามเป็นตัวกลางในการเจรจา

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าเงินบาทจะทยอยอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน นอกจากนี้ หากราคาทองคำพลิกกลับมารีบาวด์สูงขึ้นบ้าง หรืออย่างน้อยไม่ได้ปรับตัวลดลงต่อชัดเจน ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ และที่สำคัญ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะยังไม่รีบปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ต่างๆ จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ (รับรู้วันพฤหัสฯ นี้) และถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell (รับรู้วันศุกร์นี้) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดได้พอสมควร

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดมาพอสมควรแล้ว โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ ไม่ถึง 15% หรืออาจพอบอกได้ว่า ผู้เล่นในตลาดมั่นใจว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งเรามองว่า มุมมองดังกล่าวก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง (ต้องรอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ที่จะออกมาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน) ทำให้แม้ว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดอาจไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

โดยเฉพาะการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกันยายน อย่างที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดก็อาจไม่ได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดไปมากนัก จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดท่านอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อมากนัก ในสัปดาห์นี้ สะท้อนความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงต่อชัดเจน พร้อมกับการอ่อนค่าลงหนักของเงินบาทที่ไม่มากนัก โดยเราประเมินว่า หากเงินบาทอ่อนค่าลงจริงในกรณีดังกล่าวนั้น ก็อาจติดอยู่แถวโซนแนวต้าน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

KGI จัด 3 หุ้นเด่น แนะเก็งกำไร ตามปัจจัยพื้นฐาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"เอเซีย พลัส" แนะสะสม 8 หุ้นช่วงตลาดย่อตัว-ชี้กำไรบจ.เติบโต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ราคาทองในประเทศเช้าวันนี้ปรับลง 150 บาท

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

COM7 กำไรเกินคาด จับตา iPhone 17 หนุนโตต่อครึ่งปีหลัง

หุ้นวิชั่น

PRINC Group ผนึก รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เสริมแกร่ง “ท่าเรือ เอฟซี” ลุยศึกไทยลีก 2025/26

Share2Trade

TMI ได้รับคะแนนประเมิน “AGM CHECKLIST” 2568 ระดับ “ดีเยี่ยม”

Share2Trade

ผงาด! 7 หุ้นคึกคัก รับสัญญาณบวก Data Center

หุ้นวิชั่น

COM7 ท็อปฟอร์ม Q2/68 กำไรพุ่งกว่า 33% มองครึ่งปีหลังไฮซีซั่น พร้อมรุก Taxi EV - สินเชื่อ UFUND ประกัน iCare เสริมทัพ หนุนเป้ารายได้ทะลุ 8 หมื่นล้านบาท

Share2Trade

หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินหุ้นไทยครึ่งหลังปี 2568 ผันผวน ลุ้นฟื้นตัวสู่เป้าหมาย 1,280 จุด

Share2Trade

XO โกลเบล็กแนะ “ถือ” ราคาเหมาะสม 18.60 บ.

หุ้นวิชั่น

JPARK ฟื้นตัวแรง โบรกฯให้เป้าสูงสุด 7.40 บาท Upside เพียบ มองครึ่งปีหลังโตทั้ง YOY และ QOQ

Share2Trade

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...