กต.แจงชัดบ้านหนองจาน เป็นของไทย ให้คน ‘กัมพูชา’ พักชั่วคราวช่วงหนีภัยสงครามปี 24
กต.แจงชัดบ้านหนองจาน เป็นของไทยให้คน ‘กัมพูชา’ พักชั่วคราวช่วงหนีภัยสงครามปี 2524 เคยขอให้ปลดธงชาติออกหลายครั้ง เพราะละเมิด MOU 2543 แต่ไม่เป็นผล
วันนี้ (22 ส.ค.68) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย แถลงข่าวประเด็นที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยวางรั้วลวดหนามในพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นการละเมิดพื้นที่อธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา
นายนิกรเดช เปิดเผยว่าเดิมพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2524 ซึ่งต่อมากัมพูชาได้มีการขยายพื้นที่ชุมชนซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 2543 ไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยมาโดยตลอด ขณะที่กัมพูชากลับไม่ตอบสนองใด ๆ
ส่วนการวางรั้วลวดหนามในเขตไทย เป็นไปเพื่อการปกป้องอธิปไตยของไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย เป็นไปเพื่อป้องกันฝ่ายกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อข้อตกลงที่เกิดขึ้นในการประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมาที่ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารที่ล้ำออกมานอกเขตของฝ่ายตน
นายเบญจมินทร์ กล่าวต่อว่า บ้านหนองจาน ตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นแนวเขตใดที่เป็นไปตามข้อตกลงสยามฝรั่งเศส ปี 1947 โดยเมื่อปี 2524 ประเทศไทยได้ให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวขึ้น เพื่อมีผลทางมนุษยธรรมให้กับชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมือง ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ UNHCR ร้องขอ ทหารไทยได้จัดทำแนวรั้ว เพื่อจัดทำเขตดังกล่าว เมื่อสงครามยุติลงแล้วในช่วงปี 2542 ชาวกัมพูชากลุ่มนั้น ซึ่งหนีภัยสงครามมา ยังได้เข้ามาก่อสร้างที่อาศัยขยายที่ดินทำกินจนออกมานอกแนวรั้วที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
ที่ผ่านมาไทยได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปักปันเขตแดนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้มีการหารือปัญหารวม 4 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดูแลไม่ให้ราษฎรชาวกัมพูชาขยายพื้นที่ทำกิน มีการหารือเจรจาร่วมกับฝั่งกัมพูชาอย่างสันติ รวมทั้งเร่งรัดการสำรวจและทำหลักเขตแดน
ต่อมาเมื่อวันที่ 28-30 สิงหาคม 2545 กระทรวงการต่างประเทศและกรมแผนที่ทหารได้มีการหารือร่วมกับประธาน JBC ของกัมพูชาในขณะนั้น ได้ขอให้ฝ่ายกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะต้องขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตตามที่ 46 และ 47 ก่อน จนเมื่อเดือนกันยายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบ้านหนองจาน มีการชักธงชาติกัมพูชาและจัดตั้งหน่วยงานทางการกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยและละเมิดข้อ 5 ของ MOU 43 จึงขอให้ปลดธงชาติและย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด จึงสรุปได้ว่าพื้นที่บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม การที่ชุมชนขยายตัวเพิ่มขึ้น ไทยไม่ได้ยอมรับและไม่กระทบกับการปักปันเขตแดนที่ดำเนินอยู่ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นประเด็นสังคมวงกว้าง เนื่องจากฝ่ายไทยรับทราบมาตลอดว่าให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยเข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อชาวกัมพูชาปัจจุบันมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยต้องประท้วงและชี้แจงข้อเท็จจริง