โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จุลพันธ์ ยันงบฯ ปี 69 มี กระสุนพร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 13 สิงหาคม 2568 เวลา 21.56 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จุลพันธ์ ยัน รัฐบาลใช้งบฯ ปี 69 อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มั่นใจมีงบฯ เพียงพอรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจ พร้อมบริหารจัดการการจัดเก็บรายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม-รักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

13 ส.ค. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ชี้แจงกรณีข้อห่วงใยของฝ่ายค้านต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2569 โดยยืนยันว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และความจำเป็นของภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ ตลอดจนคำนึงถึงฐานะการคลัง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชน

ซึ่งได้มีการเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ปี 2569 ซึ่งอยู่ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันอาจส่งผลกระทบต่องบประมาณทั้งด้านรายได้และรายจ่าย รวมทั้งการเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก และการบริหารจัดการหนี้สาธารณะให้ลดลงในระยะยาว เพื่อให้มีพื้นที่การคลังไว้ใช้ในยามที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพการคลังในอนาคต ตลอดจนการสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตรองรับผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ

นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า กรรมาธิการเสียงข้างมาก ไม่ปฏิเสธถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยจากสถานการณ์โลก ไม่ว่าจะเป็นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งความเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้รัฐบาลทราบดีและไม่ปฏิเสธความเป็นจริงถึงความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ตามที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายถึงข้อห่วงใยต่อ GDP ปีนี้ที่อาจกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐนั้น ขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังมีศักยภาพเพียงพอที่จะบริหารจัดการการจัดเก็บรายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้และการใช้จ่ายงบประมาณในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีกลไกด้านงบประมาณเข้ามารองรับอย่างเพียงพอ ทั้งด้านการบริหารจัดการโดยตัวของงบประมาณเอง เงินคงคลัง และกลไกที่มีอยู่ตามกฎหมายที่สามารถจะดำเนินการได้ โดยเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการงบประมาณตามที่ตั้งไว้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2569 ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

"เรื่องปัญหาการจัดเก็บรายได้ แม้ขณะนี้จะมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่เราเชื่อว่า จะสามารถบริหารจัดการให้ลุล่วงไปได้ ไม่มีผลกระทบใด ๆ"

ส่วนอีกกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ งบประมาณจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกลไกหลักอย่างการใช้จ่ายของภาครัฐ ประกอบกับการลงทุนภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งการจะสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนผ่านงบประมาณแผ่นดินถือว่ามีความจำเป็น ดังนั้นการใช้จ่ายของภาครัฐ จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

"หากมีการปรับลดการใช้จ่ายของภาครัฐ จากงบประมาณโดยยอดรวมนั้น กลับจะเป็นผลร้ายกับระบบเศรษฐกิจ เพราะจะสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในภาคเอกชน ในด้านการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวต่อไปได้ โดยยืนยันว่า กลไกการดำเนินงบประมาณรายจ่ายจากเม็ดเงินที่ตั้งไว้นี้ เป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต"

ส่วนข้อกังวลของฝ่ายค้านว่าจะมีกระสุนเพียงพอรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่นั้น รมช.คลัง ยืนยันว่า กลไกด้านงบประมาณมีกระสุนเพียงพอ เช่น เงินคงคลังในระดับสูง, เงินทดรองอีก 50,000 ล้านบาทที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้, การจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณการโอนเปลี่ยนแปลงการแก้ไขงบประมาณ ซึ่งสุดท้ายแล้วต้องเป็นอำนาจของสภาฯ

"ทั้งหมดนี้ ขอยืนยันว่าด้วยกระสุนทั้งหมด ด้วยกลไกทั้งหมดที่มีนั้น มีมากเพียงพอที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาของประเทศ และขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต"

ส่วนการเพิ่มพื้นที่การคลัง ซึ่งมีข้อห่วงใยจากฝ่ายค้านนั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน เช่น โควิด-19 ภาครัฐมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณแบบขาดดุล และก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อรองรับภาระการใช้จ่าย และการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งการกู้เงินมาใช้เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระยะยาว ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถชำระหนี้ได้มากขึ้นอย่างมีศักยภาพ อันจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลง โดยภาครัฐมีแนวทางเสริมเศรษฐกิจภาคการคลัง เช่น การปรับปรุงระบบภาษีให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม, การส่งเสริมการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน, การบริหารทรัพย์สินของรัฐให้เกิดรายได้, การลดรายจ่ายผ่านการจัดลำดับความสำคัญ, การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่าย และการบริหารหนี้สาธารณะในระยะยาวอย่างเป็นระบบ โดยในปีงบ 69 มีการลดลงของรายจ่ายประจำอย่างมีนัยสำคัญถึง 25,794 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของงบประมาณรายจ่ายปี 69

รมช.คลัง กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายแบบขาดดุลเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ โดยยืนยันการรักษาวินัยการเงินการคลังให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 อย่างเคร่งครัด โดยได้วางแผนการคลังระยะปานกลาง สำหรับปี 2569-2572 ลดการขาดดุล
การคลังให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยมีวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล ดังนี้

  • ปี 2569 ขาดดุล 860,000 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ต่อ GDP
  • ปี 2570 ขาดดุล 758,600 ล้านบาท คิดเป็น 3.6% ต่อ GDP
  • ปี 2571 ขาดดุล 721,900 ล้านบาท คิดเป็น 3.3% ต่อ GDP
  • ปี 2572 ขาดดุล 703,300 ล้านบาท คิดเป็น 3.1% ต่อ GDP

"ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนว่ารัฐบาลมีความจริงใจและตั้งใจลดระดับการขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่งประมาณสมดุลในระยะยาว ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้เต็มศักยภาพ ก็จะเอื้อต่อการเสริมฐานะทางการคลัง ทั้งด้านรายได้ รายจ่าย การบริหารหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุลในอนาคต"

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ทำไม หุ้นการบินไทย พุ่งไม่หยุด นักลงทุนเห็นอะไรที่ขอบฟ้าไกล

8 นาทีที่แล้ว

ABB ชี้ “พลังงานมั่นคง” ต้องรับมือภัยไซเบอร์

16 นาทีที่แล้ว

ทรู ดีเบนเจอร์ คลับ นำผู้ถือหุ้นกู้ ท่องโลกนวัตกรรมและ AI

22 นาทีที่แล้ว

MEDEZE ครึ่งปี 68 กำไร 129 ล้านบาท เดินหน้า “Sandbox” ต่อยอดผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง

43 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

หมอกฤชรัตน์ มองราคาทองคำย่อตัว คือ "จุดเข้าซื้อที่ดีที่สุด"

TNN ช่อง16

COCOCO Q2/68 กำไรโต 20% รายได้พุ่ง กะทิ-น้ำมะพร้าว-เพ็ทฟู้ด ดัน

TNN ช่อง16

ธอส.ขนบ้านมือสองบุกอุดรฯ โปรแรงลดสูงสุด 50% ในงาน GHB ALL HOME EXPO 2025

สยามรัฐ

ส่งทีม ‘ช่างโฮมโปร’ ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

ไทยโพสต์

กรมส่งเสริมการเกษตร “ ลำไยฟรีซดราย ” นวัตกรรมกู้ชีพเกษตรกรลำพูน

Khaosod

ผู้นำฝรั่งเศสรับรองกฎหมายฉบับแก้ไข สนับสนุนให้แบนการใช้ ‘ยาฆ่าแมลงต้องห้าม’

เดลินิวส์

เอพี ไทยแลนด์ ปลื้ม! ครึ่งปีแรก รายได้ทะลุ 2 หมื่นล้าน เตรียมเปิดเพิ่มอีก 34 โครงการ

ไทยโพสต์

กนง.ลดดอกเบี้ยลงได้อีก เคยแตะ 0.50% ธปท.หารือคลังออกมาตรการดูแลซื้อขายทองคำ

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...