ปชน.ฉะงบสตช.950ล. อึ้ง!เครื่องบินใช้ได้1จาก11ลำ-เฮลิคอปเตอร์ใช้ได้4จาก71
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ(วาระสอง)เป็นวันที่สาม
ทั้งนี้ในมาตรา 27 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวง หรือทบวงและหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การจัดสรรงบในส่วนของสำนักพระพุทธศาสนา โดยมีผลสืบเนื่องมาจากคดีฉาวทั้งกรณีเงินทอนวัดวัด รวมถึงกรณีมีพระภิกษุสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่รายรูปเข้าไปพัวพันกับกรณี น.ส.วิลาวัลย์ หรือ “สีกากอล์ฟ” สร้างความเสื่อมเสียให้วงการสงฆ์ จึงเรียกร้องให้มีการตัดงบในส่วนที่ไม่จำเป็นในหลายรายการ
ขณะที่อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่งบในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) สมาชิกต่างตั้งคำถามไปถึงความคุ้มค่าในหลายรายการ
อาทิ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน อภิปรายในส่วนของงบซ่อมบำรุงอากาศยาน950ล้านบาท ที่ไม่ได้ถูกปรับลดในชั้นกมธ.ตนยืนยันว่า ไม่เคยคัดค้านงบประมาณที่จำเป็นต่อภารกิจของตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจ ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปฎิบัติหน้าที่และเกี่ยวข้องโดยตรงกับประสิทธิภาพความปลอดภัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาช
แต่สิ่งที่ทำให้ตนไม่อาจปล่อยผ่านได้คือปัญหาการใช้งบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์ภารกิจหน้าที่จริงจนเป็นเหตุ ให้เกิดโศกนาฏกรรมอากาศยานตำรวจตก3ลำภายใน3ปีและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตถึง9นาย ซึ่งไม่ใช่เป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเท่านั้นแต่เป็นการสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม สะท้อนให้เห็นว่าระบบซ่อมบำรุง และความพร้อมของอากาศยานตำรวจกำลังมีวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่
ก่อนหน้านี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เคยมีข้อสั่งการให้ไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)และสตช.รายงานถึงสาเหตุพร้อมวางแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันอีกในอนาคต ไม่ต่างจากผบ.ตร.ที่รับลูกโดยออกมาให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่ได้มีการใช้งบซ่อมบำรุงก้อนปี 2568 และมีการสั่งสอบทุจริตงบซ่อมบำรุงย้อนหลัง พร้อมวางกรอบการใช้งบประมาณหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นทันทีในช่วงปลยเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
แต่วันนี้เรากำลังจะผ่านงบประมาณจำนวน 950 ล้านบาทในปี 2569 ทั้งที่ยังไม่มีมีการชี้แจงอย่างชัดเจนต่อสาธารณะชนว่าสตช.จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ผลการตรวจสอบทั้งการเกิดอุบัติเหตุและการสอบทุจริตเป็นอย่างไร
ที่ผ่านมาตนได้พยายามส่งเรื่องไปถึงสตช.ให้มีการรายงานผลการตรวจสอบ โดยผู้แทนจากสตช.ยอมรับว่า เครื่องบินลำที่ตกมีปัญหาพร้อมส่งข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติม โดยพบว่า สภาพความเป็นจริงของของความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์ทางอากาศของตำรวจในปัจจุบัน เกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพไม่พร้อมบิน
"ปัจจุบันสตช.มีเครื่องบินทั้งหมด11ลำใช้งานได้เพียง1ลำ อยู่ระหว่างซ่อม5ลำ พิจารณาจำหน่ายอีก5ลำ เฮลิคอปเตอร์ปัจจุบันมีทั้งหมด71ลำ ใช้ได้จริง4ลำ อยู่ระหว่างรอซ้อม30ลำ และพิจารณารอจำหน่ายอีก37ลำ สิ่งนี้คือการแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายงบประมาณซ่อมอากาศยานของของสตช.ที่มีปัญหาแต่กลับมีการของบประมาณเข้ามาทุกปี"
น.ส.พนิดา ยังกล่าวว่า ข้อมูลจากตัวแทนสตช.ที่ชี้แจ้งในกมธ.ระบุว่างบประมาณจำนวน950ล้านยังไม่เพียงพอต่อการซ่อมบำรุง จากประสบการณ์การบินของตนก็ยืนยันว่าอากาศยานต้องได้รับการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การจัดสรรงบในแต่ละครั้งกลับไม่ได้นำไปใช้ในส่วนของการซ่อมบำรุงตามรอบ ส่งผลให้ค่าบำรุงรักษามีจำนวนที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้หากโฟกัสที่ความปลอดภัยในการปฏิบัติงานปัญหาไม่ได้มีเพียงแต่ตัวอากาศยานแต่รวมไปถึงอุปกรณ์ประกอบภารกิจการบินที่มีปัญหา เช่น กรณีที่ลวดสลิงกระตุกร่มไม่กางส่งผลให้นักเรียนนายร้อยตำรวตจ เสียชีวิต2นาย เป็นต้น
จึงขอถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นได้มีการคำนวณหรือไม่ว่างบซ่อมบำรุงแท้จริงแล้วมีจำนวนเท่าไรเพื่อที่จะมาคำนวณว่าแท้จริงแล้วสตช.ควรตัดสินใจจัดหาเครื่องบินที่ปลอดภัยและมีการจัดซื้อใหม่มากกว่าการดันทุรังซ่อมเครื่องที่เก่าเกินอายุการใช้งานหรือไม่ และควรมีอากาศยานจริงๆกี่ลำ
"การตั้งงบซ่อมบำรุงของสตช.ไม่ใช่ตัวเลขแค่เอกสาร แต่คือชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และคือความมั่นใจของประชาชนต่อไป"