เจาะตลาด "คนโสด" (Solo Economy) สินค้าอะไรขายดี ทำไมจ่ายหนัก ขึ้นแท่นทรงอิทธิพล

เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เจาะตลาด

"คนโสด" กำลังจะครองโลกการเงิน ขึ้นแท่นผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจ กับเทรนด์ Solo Economy

ข้อมูลน่าสนใจ จาก The 1 Insight เผยบทวิเคราะห์ "Solo Economy" ระบุว่ากลุ่ม “คนโสด” คือกลุ่มผู้บริโภคที่ทรงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ มีกำลังซื้อสูงและอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดภาพรวมอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ คือ เป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ให้เศรษฐกิจเมืองและเป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ปัจจุบันนี้คนโสดครองสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของการใช้จ่ายรวมในตลาด ที่มาพร้อมๆกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Self Splurge เปย์หนักเพราะรักตัวเอง” หมายถึงการใช้จ่ายเพื่อภาพลักษณ์ เสริมสุขภาพ ทานอาหารนอกบ้าน และสินค้า Luxury

นอกจากนี้เหล่าคนโสดยังความพร้อมที่จ่ายเงินหนักหรือเปย์หนักเพื่อประสบการณ์และกิจกรรมยามว่าง เป็นเทรนด์หรือกระแสของคนโสดที่ต้องการยกระดับการใช้ชีวิตส่วนบุคคล ต้องการเลือกใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ให้คุณค่ากับการดูแลตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ใครมาเติมเต็ม โดยพบว่าคนโสดมียอดใช้จ่ายเติบโตสูงกว่าตลาดภาพรวมอย่างต่อเนื่อง

ลงทุนเพื่อตัวเอง หรือลงทุนกับตัวเอง นี่คือ ความคิดของคนโสด

สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างกลุ่มคนโสดและคนมีครอบครัวคือ “วัตถุประสงค์ในการใช้จ่าย” โดยคนโสดมักใช้จ่าย “เพื่อตัวเอง” เป็นหลัก จึงสามารถใช้จ่ายเพื่อความต้องการเฉพาะตน

คนโสดใช้จ่ายเพื่อภาพลักษณ์ในหมวด "Fashion & Beauty" มากถึง 30% จากการใช้จ่ายทั้งหมด ชื่นชอบสินค้าหมวด "Sport" มากกว่า 3 เท่า แสดงถึงความใส่ใจการดูแลสุขภาพ และชอบกินข้าวนอกบ้าน ในหมวด "Dining" มากกว่า 3 เท่า และยังสนใจและพร้อมจ่ายกับสินค้า "Luxury" มากกว่า 2 เท่า ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกลุ่มของครอบครัวพบว่ามีการใช้จ่ายกว่าครึ่งเพื่อครอบครัว โดยเฉพาะของใช้จำเป็น

เศรษฐกิจคนโสด Solo Economy สะท้อนชัดเจนว่า คนโสดตั้งใจใช้เงินเพื่อการ “ลงทุนกับตัวเอง” ยอมเปย์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต การแสดงออกถึงตัวตน และที่สำคัญ คือ การให้รางวัลกับตัวเอง

เมื่อเปรียบเทียบกับคนมีครอบครัว คนโสดพร้อมจ่ายหนักเพื่อประสบการณ์และกิจกรรมยามว่าง มากกว่าถึง 2 เท่า เช่น การซื้อของสะสม การลงคอร์สเรียน การใช้จ่ายเพื่อเรียนเสริมทักษะด้านภาษา ไปลงเวิร์กช็อปยามว่าง เช่น ทำอาหาร จัดดอกไม้ หรือเวิร์กช็อปงานดีไซน์ต่างๆ และยังมีการใช้จ่ายกับ Fitness Center และ Wellness Center ไปจนถึงการซื้อบัตรคอนเสิร์ตและการเดินทางท่องเที่ยวด้วย

"โสดในเมือง" กับ "โสดต่างจังหวัด" ซื้อของไม่เหมือนกัน ?

เจาะลึกไปพิจารณาเชิงเปรียบเทียบระหว่าง “คนโสดในเมือง” และ “คนโสดในต่างจังหวัด” จะพบความแตกต่างด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายในบางแง่มุม โดยเฉพาะในเรื่องลำดับความสำคัญของหมวดสินค้า ทั้งนี้คนโสดในเมืองจะมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่าราว 1.2 เท่า และเน้นในกลุ่ม "Beauty & Premium Lifestyle" ความงามและชีวิตที่หรูหรา

ขณะที่คนโสดในต่างจังหวัดมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวด "Home & Appliance" ของใช้ในบ้าน มากกว่า เช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ในครัวเรือน ซึ่งสะท้อนบริบทการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน

ข้อมูลจาก The 1 insight แนะนำ 3 หมวดสินค้ามาแรงครองใจคนโสด

1. หมวด Beauty :

คนโสดใช้จ่ายมากกว่าถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มคนมีครอบครัว โดยนอกจากจะเลือกใช้สินค้าแบรนด์บิวตี้ เช่น เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มอย่าง Anti-Aging หรือ Brightening ยังนิยมเข้าคลินิกเสริมความงาม ทำหัตถการความงามต่างๆ

2. หมวด Fashion :

คนโสดใช้จ่ายมากกว่าถึง 3 เท่า โดยลงทุนกับทั้งแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรี เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า และนาฬิกา และแบรนด์แมสพรีเมียมที่เน้นคุณภาพและดีไซน์ที่สื่อถึงตัวตน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมัล เรียบหรู หรือแฟชั่นสายครีเอทีฟ สะท้อนแนวคิดที่ว่า “การดูแลภาพลักษณ์ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุน”

3. หมวด Home Decoration :

คนโสดยังมีแนวโน้มใช้จ่ายมากกว่าคนมีครอบครัวถึง 4.5 เท่า ทั้งนี้เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดการบ้านหรือพื้นที่อยู่อาศัยเป็นภาระของตัวเองเพียงแค่คนเดียว ต่างจากคนมีครอบครัวที่อาจจะต้องแบ่งภาระหรือค่าใช้จ่ายร่วมกันกับคู่ชีวิตหรือสมาชิกในครอบครัวใหญ่ พูดง่ายๆ คนโสดไม่มี “ตัวหาร” ดังนั้นเวลาจ่าย ดูแลบ้านของตัวเอง ตั้งแต่งานก่อสร้างไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้จิปาถะในบ้าน ก็ต้องแบกต้องจ่ายด้วยตนเองทั้งหมดเท่านั้น

คนโสดมีอิสระในการเลือกซื้อสินค้าที่ตอบโจทย์รสนิยมของตนเองได้ทันที ไม่ต้องคิดร่วมกับใคร ทำให้ชอบลงทุนกับของตกแต่งบ้าน หรือดีไซน์เฉพาะตัว หรือสินค้าคุณภาพสูงที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และความเป็นตัวตนอย่างแท้จริง

พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนว่า คนโสดในเมืองคือกลุ่มผู้บริโภคที่ “พร้อมจ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตของตัวเอง” พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวเพื่อแสดงสถานะหรือเป้าหมาย แต่ใช้เงินอย่างตั้งใจเพื่อเติมเต็มความพึงพอใจในชีวิตประจำวัน ด้วยพฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจง มีเหตุผล และเต็มไปด้วยแรงผลักดันจากภายใน

ดังนั้นหากคุณเป็นภาคธุรกิจเป็นแบรนด์ จะต้องเข้าถึงและเข้าใจคนกลุ่มนี้ เพื่อออกแบบสินค้า บริการ หรือประสบการณ์ที่ตรงใจ และเชื่อมโยงกับแนวคิดของคนโสด Solo Economy ที่ต้องการดูแลตัวเองในทุกมิติ และ สามารถทำเงินหรือกลายเป็นผู้นำ และผู้ชนะในตลาดนี้ได้อย่างแท้จริง

เทรนด์คนโสดมาแรง แม้หลายคนบอกว่าไม่ได้ตั้งใจโสดก็ตาม แต่ทิศทางของ Solo Economy กำลังโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง จะกลายเป็นกำลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งของไทยและทั่วโลก และจะเป็นโอกาสทำเงินได้สำหรับทุกคนด้วยเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง