7 สิ่งสำคัญที่ทำให้ Upbit กลายเป็นแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
ปัจจุบันเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่า ‘Digital Assets’ ได้กลายมาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของนักลงทุนทั่วโลก สาเหตุหลักๆ ก็เพราะเป็นสินทรัพย์ที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มีสกุลเหรียญให้เลือกลงทุนหลากหลายสกุล และยังมีตลาดซื้อ-ขายที่ใหญ่พอๆ กับตลาดหุ้น จินตนาการแล้วแทบไม่ต่างจากดินแดนที่มีพื้นที่ให้สำรวจอย่างไร้ที่สิ้นสุด
อย่างไรก็ดี กลไกการซื้อ-ขายสินทรัพย์ประเภทนี้จำเป็นต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ‘กระดานเทรด/ศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ (Exchange) หรือก็คือ ‘แพลตฟอร์ม’ ในการเชื่อมโยงผู้ลงทุนเข้าด้วยกันเพื่อทำการซื้อ-ขายลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าสนใจและได้รับความนิยมย่อมมีชื่อของ ‘Upbit’ (อัพบิต) รวมอยู่ด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 Upbit ได้ก่อตั้งขึ้นโดยนักธุรกิจด้านไอทีชาวเกาหลีใต้ที่ชื่อว่า ‘ซงชีฮยอง’ (Song Chi-hyung) ซึ่งเป็น CEO ในเวลาดังกล่าวของ Dunamu บริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ชื่อดังของแดนโสมขาว ในระยะเวลาสั้นๆ Upbit ได้ก้าวมาเป็น 1 ใน 5 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของโลก และสามารถครองตลาดส่วนแบ่งในประเทศเกาหลีใต้ได้มากถึง 80% จากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg
ภายหลังปี 2018 เป็นต้นมา Upbit ได้ขยายฐานการให้บริการไปอีก 3 ประเทศในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย โดย Upbit Thailand นั้นเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ในชื่อบริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Exchange (Thailand) Co., Ltd.)
นอกจากช่องทางการให้บริการที่เข้าถึงได้ง่ายทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น iOS และ Android แล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ Upbit เติบโตอย่างก้าวกระโดดในฐานะแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราขอชวนไขคำตอบผ่าน Capital List ตอนนี้
1. Trust and Security : มีเสถียรภาพและระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล
หนึ่งใน ‘หัวใจหลัก’ ที่สำคัญที่สุดของ Upbit คือเรื่องของความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินกิจกรรมการซื้อ-ขายได้อย่างอุ่นใจ Upbit ยึดมั่นในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี ด้วยระบบที่ได้รับการยอมรับระดับสากล
ยกตัวอย่างฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ‘ระบบการเฝ้าระวังแบบอัตโนมัติ’ (Automated Surveillance) ซึ่งเป็นฟีเจอร์แจ้งเตือนกรณีที่มีการถอนสินทรัพย์ไปยัง Wallet อื่นเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบว่าปลายทางการโอนนั้นเป็น Wallet ที่ถูกต้องหรือไม่
หรืออีกฟีเจอร์สำคัญเรื่องความปลอดภัยในการทำธุรกรรม คือการบังคับตั้ง ‘รหัสยืนยันตัวตน’ หรือ ‘2FA’ เพื่อเข้าสู่หน้าการทำธุรกรรม และ ‘การตั้งรหัสเบิกถอน’ หรือ ‘Fund Password’ ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายก่อนที่จะมีการถอนสินทรัพย์ออกจากบัญชีของลูกค้า
ทั้งนี้ Upbit เป็นแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยรางวัล Information Security Management System (ISMS) จาก Korea Internet & Security Agency (KISA) เป็นรายแรกเมื่อปี 2018 และมาตรฐาน International Organization for Standardization (ISO) อีก 3 มาตรฐาน ได้แก่ ISO/IEC 27001:2013, ISO/IEC 27017:2015 และ ISO/IEC 27018:2014
2. Proven Experience : แพลตฟอร์มมากประสบการณ์ที่ซัพพอร์ตสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการได้
Upbit เชื่อมั่นในการไม่หยุดแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยการนำประสบการณ์ที่สั่งสมทั้งหมดมาต่อยอดเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น การแสดงหน้ากราฟกระดานเทรดที่เข้าใจได้ง่ายแก่นักลงทุน ความสามารถในการปรับแต่งฟังก์ชันการแจ้งเตือนเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสากล และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของนักลงทุนอย่างรัดกุม ซึ่งในปัจจุบันระบบบนแพลตฟอร์มของ Upbit นั้นสามารถรองรับมูลค่าการเทรดได้อย่างมีเสถียรภาพ ทั้งหมดนี้จึงทำให้การเทรดสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
3. Global Standard : มีพันธมิตรสนับสนุนรอบโลกร่วมสร้างความโปร่งใส
แน่นอนว่าการก้าวมาเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกได้ ย่อมต้องมีพันธมิตรที่สามารถช่วยให้แบรนด์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะในแง่ของการป้องกันการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการกระทำผิดเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการที่ Upbit ยึดมั่น ยกตัวอย่างเช่น การร่วมมือกับ ‘VerifyVASP’ บริษัทผู้ให้บริการตรวจสอบธุรกรรมผ่านบล็อกเชน ที่ร่วมกันสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้แข็งแกร่ง ภายใต้กฎ Travel Rule ของหน่วยงาน FATF รวมถึงการตรวจสอบย้อนหลัง (Forensic) เพื่อศึกษาต้นตอของการใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางการกระทำผิดของอาชญากรได้
นอกจากนี้ Upbit ยังมีพันธมิตรที่อยู่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก อาทิ ในอุตสาหกรรมกีฬา ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ SSC Napoli สโมสรฟุตบอลจากลีกประเทศอิตาลี
4. Professional Trading : เหมาะกับนักลงทุนมืออาชีพ ด้วยกลไก API รองรับการเทรด
ในมุมของนักลงทุนมืออาชีพแล้ว การมีแพลตฟอร์มที่เสถียรย่อมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อประสบการณ์การเทรดนี้เอง Upbit จึงมีการใช้กลไกการส่งคำสั่งด้วย API (Application Programing Interface) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ทั้งในแง่ของการซื้อ-ขายของเหรียญ และการจัดการคำสั่งซื้อ-ขายของผู้ใช้งานที่มีจำนวนมาก
5. Expand Potential : ปรับตัวเข้ากับหลัก ESG เพื่ออนาคตของโลก
ไม่ใช่แค่เรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้นที่ต้องการยกระดับ เพราะในแง่ของความยั่งยืน Upbit ก็เป็นหนึ่งในองค์กรด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่พยายามผลักดันแนวคิด ESG หรือการพัฒนาองค์กรด้วยความยั่งยืนเพื่ออนาคตอันมั่นคงของโลก และร่วมกันผ่านพ้นวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ในส่วนของ Upbit Thailand แนวคิดด้าน ESG นั้นถูกปลูกฝังแก่พนักงานผ่านวิธีการเรียบง่ายแต่ทำได้จริง เช่น การใช้ทรัพยากรในสำนักงานเท่าที่จำเป็น และในภาพใหญ่ขององค์กรยังมีการสนับสนุนในเรื่องของ carbon offset อีกด้วยโดย Upbit Thailand ได้รับการรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (net zero) จาก Tembusu Asia Consulting ประเทศสิงคโปร์ (TAC) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย
6. Financial Stability : การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเพื่อแสดงความโปร่งใส
ในเรื่องของ ‘ความมั่นคงและความมั่นใจ’ Upbit มีการเปิดเผยงบการเงิน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญเพื่อให้ลูกค้าสามารถประเมินสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และความเสี่ยงของกิจการได้อย่างต่อเนื่องและโปร่งใส
7. Compliance Regulatory Standards : การให้บริการภายใต้กฎของสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเคร่งครัด
Upbit Thailand ถือเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ซื้อ-ขายและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) โดยมีการปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ยกตัวอย่างเช่น การเลือกสินทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือมาให้บริการ ซึ่งมีให้เลือกเทรดมากว่า 100 สินทรัพย์, เทคโนโลยี Wallet ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และระบบซื้อ-ขายสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
โดย Upbit Thailand ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อการให้บริการ 2 ประเภท คือ 1. ศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) และ 2. นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker)
นอกจากนี้ Upbit Thailand ยังมีมาตรการปฏิบัติตามกฎ Travel Rule ตามแนวการกำกับของ Financial Action Task Force (FATF) เพื่อสามารถตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมได้อย่างโปร่งใส
นี่คือแง่มุมที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชื่อว่า Upbit อย่างไรก็ตาม เรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลอาจเข้าถึงได้ง่ายก็จริง แต่ทุกๆ การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ การมีอยู่ของแพลตฟอร์มนั้นก็เพื่อช่วยให้การแลกเปลี่ยนนั้นทำได้ง่ายมากขึ้น
ฉะนั้นการลงทุนทุกๆ ครั้งจึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง และประเมินอย่างรอบคอบเสียก่อน เพราะประโยชน์นี้ไม่ใช่แค่กับตัวเราเอง แต่ยังรวมไปถึงนิเวศของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
LINE: http://go.upbit.one/line
Email: upbit_th@upbit.com